28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

November 29,2016

สร้างรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น บ้านทรุดปชช.บาดเจ็บ วอน‘บิ๊กตู่’เยียวยาไร้ที่อยู่นับพัน

              นายกเล็กรุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังบ้านเรือนประชาชนทรุดพัง ขณะก่อสร้างรถไฟทางคู่ พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น ๓ ราย นัดเจรจาร่วมทุกฝ่ายเยียวยาผู้ประสบภัยเต็มที่ พร้อมวอน “บิ๊กตู่” แก้ไขปัญหาให้ชุมชน เหตุไร้ที่อยู่อาศัยนับพันครัวเรือน

              เมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ที่ชุมชนเทพารักษ์ ๑ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วยยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น และผู้แทนบริษัทก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-หนองคาย ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเสียหายหลังเกิดบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตริมทางรถไฟ และอยู่ในช่วงของการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ได้เกิดทรุดพังลงมาได้รับความเสียหาย จำนวน ๑ หลัง และได้รับความเสียหายมากกว่าร้อยละ ๘๐ อีก ๑ หลัง หลังเกิดเหตุการณ์บ้านของประชาชนถล่มเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาจากผลกระทบของการก่อสร้างดังกล่าว โดยมีการเข้าเจรจาร่วมกับนางพันธ์  วิหวั่น อายุ ๖๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๘/๑๙๕ ชุมชนเทพารักษ์ ๑ เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้รับความเสียหายทั้งหลัง และนางลำไย เพ็งแจ่ม อายุ ๔๘ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๘/๑๙๑ ชุมชนเทพารักษ์ ๑ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งได้รับความเสียหายมากกกว่าร้อยละ ๘๐ และจากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครขอนแก่น และบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ตอนขอนแก่น-อุดรธานี ได้เข้ามาทำการปรับพื้นที่และเก็บกวาดซากปรักหักพังดังกล่าวแล้ว และมีการนำดินมาถมจนเต็มพื้นที่ ส่งผลให้ทั้งสองครอบครัวไม่มีที่อยู่อาศัย

              นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า การหารือร่วมกันของทุกฝ่ายได้ข้อสรุปเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ๓ ราย และทั้งสองครอบครัวไม่มีที่อยู่อาศัย จึงเป็นสิ่งที่เทศบาลฯ จะต้องจัดหาที่พักพิงชั่วคราวให้ ขณะที่ความเสียหายนั้นยังคงอยู่ในการประเมินมูลค่าจากทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฉพาะภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่นนั้น ขณะนี้มีบ้านเรือนของประชาชนที่จะต้องรื้อถอนไปแล้ว ๓๓๑ หลังคาเรือน และตลอดทั้งเส้นทางที่จะต้องรื้อถอนจะมีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า ๑,๐๐๐ หลังคาเรือน

    “แนวเขตที่การรถไฟแห่งประเทศไทยกำหนด คือ ระยะ ๒๐ เมตร ทางฝั่งทิศตะวันออก ที่จะต้องถูกเวนคืนพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมามีการลงพื้นที่พูดคุยและทุกคนยอมรับในการขนย้ายเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาเมืองในภาพรวม โดยบ้านที่ถูกรื้อถอนจะได้รับเงินเวนคืนรายละ ๗,๐๐๐ บาท ทุกคนยินยอมและเต็มใจโดยที่ไม่มีการออกมาต่อต้านหรือขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมาคือ ทั้งหมดจะไม่มีที่อยู่อาศัย จึงได้มีการเสนอแผนงานไปยังรัฐบาล ให้แก้ไขปัญหาเรื่องการไม่มีที่อยู่อาศัยให้กับคนขอนแก่นว่า จะให้ไปอยู่ที่ใด ซึ่งเทศบาลฯ พร้อมที่จะดำเนินการสนับสนุนร่วม โดยเฉพาะกับการจัดหาพื้นที่สาธารณะและจัดสร้างชุมชนขึ้นมา และคิดค่าเช่าในราคาถูกเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยได้กำหนดไว้แล้ว ๓ พื้นที่ และมีการนำเสนอรัฐบาลไปแล้ว รอเพียงนายกรัฐมนตรีเห็นชอบ จากนั้นเทศบาลฯ และทุกหน่วยงานก็พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายทันที” นายธีระศักดิ์ กล่าว

              อนึ่ง โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ–ขอนแก่น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘–๒๕๖๕ แผนงานการพัฒนาโครงข่ายรถไฟระหว่างเมือง (การพัฒนาระบบรถไฟทางคู่) ระยะที่ ๑ (โครงการที่มีความพร้อมเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ.๒๕๕๘) ซึ่งที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ ๘/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่งของไทย พ.ศ.๒๕๕๘–๒๕๖๕ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างเพื่อดำเนินงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงจากสถานีชุมทางถนนจิระ-สถานีขอนแก่น ประกอบด้วย การก่อสร้างทางคู่ ระยะทางประมาณ ๑๘๗ กิโลเมตร โดยก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก ๑ ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม มีสถานีรับ-ส่ง ผู้โดยสาร รวม ๑๙ แห่ง สถานีย่านเก็บกองและขนถ่ายสินค้าตู้สินค้ารวม ๓ แห่ง โดยทางรถไฟส่วนใหญ่เป็นทางรถไฟระดับพื้น ยกเว้นช่วงบริเวณสถานีขอนแก่นเป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ ๕.๔ กิโลเมตร พร้อมงานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ตลอดแนวเส้นทางรถไฟ ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ ๓๖ เดือน หรือ ๓ ปีโดยประมาณ และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จคาดการณ์ว่า จะสามารถพลิกโฉมหน้าการขนส่งทางรถไฟได้อย่างชัดเจน เพราะจะทำให้มีความจุของทางรถไฟเพิ่ม สามารถรองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า ๒ เท่าตัว มีความปลอดภัยในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มความรวดเร็วและความตรงต่อเวลาในการเดินขบวนรถไฟได้อีกด้วย

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๐๐ วันเสาร์ที่ ๒๖ - วันพุธที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๙


692 1340