พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบทิศทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด

          รัฐมนตรีชื่นชม “สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด” เป็นสหกรณ์ต้นแบบที่ดีในการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือก จากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปในราคาที่เป็นธรรม แปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า บริหารจัดการการผลิตและการตลาดแบบครบวงจร โดยใช้ระบบสหกรณ์ในการบริหารจัดการด้านการตลาดในพื้นที่แปลงใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง 

          ตามที่พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบทิศทางการดำเนินงานแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยใช้กลไกสหกรณ์เป็นตัวเชื่อมโยงตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการรับซื้อข้าวเปลือกจากสมาชิกสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด เมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๐๐ น. โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข นายอมรศักดิ์ พันธุรักษ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา และนางปาณชญา บวชสันเทียะ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด ร่วมต้อนรับ
 
          พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด ถือเป็นสหกรณ์ต้นแบบที่ดีในการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือก จากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปในราคาที่เป็นธรรม มีการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า เป็นการบริหารจัดการการผลิตและการตลาดแบบครบวงจร โดยใช้ระบบสหกรณ์ในการบริหารจัดการด้านการตลาดในพื้นที่แปลงใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง เป็นหนึ่งในสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็ง และกระบวนการบริหารครบวงจร สามารถรับซื้อข้าวเปลือกของเกษตรกรที่มีความชื้นมาก เพราะสหกรณ์มีเครื่องอบซึ่งเป็นทางเลือกให้เกษตรกร แทนที่จะไปโรงสีก็มาที่สหกรณ์ ซึ่งหากส่งเสริมให้สหกรณ์อื่นๆ มีความเข้มแข็งแบบเดียวกันก็จะเป็นที่พึ่งและช่วยให้เกษตรกรมีความยั่งยืนได้ ทั้งนี้ ยังมีอีก ๓๔ สหกรณ์ที่มีการบริหารจัดการใกล้เคียงกับสหกรณ์การเกษตรพิมาย ซึ่งในปี ๒๕๖๐ จะส่งเสริมให้สหกรณ์อื่นๆมีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้สามารถเป็นที่พึ่งและให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรในพื้นที่ได้ รวมทั้งมีเป้าหมายส่งเสริมให้สหกรณ์มีเพียง ๒ ประเภท คือ สหกรณ์ระดับดี และดีมาก
 
          นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า สหกรณ์ฯ รับซื้อข้าวเปลือกมะลิสด ราคาเฉลี่ยที่ ๘,๑๐๐ บาท/ตันขึ้นไป โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ (แห้ง) ความชื้นที่ ๑๕ % ราคาตันละ ๑๑,๒๐๐ บาท ขึ้นกับคุณภาพข้าว ความชื้นและความแห้งของข้าว เป็นการช่วยระบายข้าวที่สมาชิกทยอยนำออกมาขายเข้าสู่ระบบสหกรณ์   เป็นการชะลอข้าวเปลือกออกสู่ตลาดจำนวนมากส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ  ซึ่งขณะนี้สมาชิกสหกรณ์/เกษตรกรทั่วไปนำข้าวเปลือกออกมาขายเป็นจำนวนมาก  หลังจากนั้นได้เยี่ยมกระบวนการปรับปรุง (อบ) ข้าวเปลือก ข้าวเปลือกเข้าลานตาก/ข้าวเปลือกเข้าเครื่องอบลดความชื้น/ข้าวเปลือกเก็บในฉางและโกดัง ชมกระบวนการโรงสีข้าว การแปรรูปข้าวเปลือก(โรงสี)/การปรับปรุงคุณภาพข้าว (โรงโรยลั้ง)/การบรรจุหีบห่อ สหกรณ์ฯ กระจายข้าวสารคุณภาพดีจำหน่ายยังส่วนราชการ บริษัทเอกชน กว่า ๑๒ แห่ง ปริมาณข้าวสาร(ณ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙) จำนวน ๘๗,๒๖๐ กก. เป็นเงิน ๒,๔๑๙,๗๙๒ บาท  ภายใต้โครงการ ข้าวสารสหกรณ์ช่วยชาวนา และได้ปล่อยรถคาราวานข้าวสารสหกรณ์สู่ตลาดผู้บริโภค

          นางปาณชญา บวชสันเทียะ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด กล่าวว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนงบประมาณด้านปัจจัยพื้นฐานจากรัฐบาล ได้ก่อให้เกิดประโยชน์กับสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในพื้นที่ สหกรณ์สามารถอบลดความชื้นข้าวเปลือกเก็บไว้สีเป็นข้าวสารได้เปอร์เซ็นต์ข้าวต้นเพิ่มขึ้นเป็น ๕๐ กรัมขึ้นไป (ไม่มีเครื่องอบฯ ได้เปอร์เซ็นต์ข้าวต้น เพียง ๓๐-๔๐ กรัม) การมีเครื่องอบลดความชื้น เมื่อนำข้าวเปลือกมาแปรรูปเป็นข้าวสารจะได้เปอร์เซ็นต์ข้าวต้นสูงกว่าการลดความชื้นด้วยการตาก สามารถรับซื้อข้าวสด ข้าวเปียกฝน/น้ำท่วมและอบได้ทันที เนื่องจากมีเครื่องอบลดความชื้น และมีฉางเก็บข้าวเปลือกรองรับ ลานตากข้าวเผลือกและลานตากปุ๋ยขนาดใหญ่ สหกรณ์สามารถบริการสมาชิกและเพิ่มปริมาณธุรกิจได้มากขึ้น

          ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรพิมาย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว โดยสหกรณ์ได้ขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน ๒๐๐ ล้านบาท เพื่อรวบรวมข้าวจากสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไป จำนวน ๖๐,๐๐๐ ตัน ปัจจุบันรับซื้อได้ ๒๐,๐๐๐ ตัน  นอกจากนี้สหกรณ์ยังช่วยรับซื้อข้าวเปลือกจากนาแปลงใหญ่บ้านสัมฤทธิ์ เพิ่มขึ้นจากราคาที่รับซื้อ กิโลกรัมละ ๐.๒๐ สตางค์ หรือตันละ ๒๐๐ บาท สหกรณ์ยังได้ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกสัญญา ร้อยละ ๑ บาท พร้อมช่วยรับซื้อข้าวเปลือกสูงกว่าราคาตลาด และนำตลาด และได้ต่อยอดผลิตภัณฑ์โดยการร่วมโครงการวิจัยกับมหาวิทยาลัยในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเพิ่มมูลค่าข้าวสาร ปลายข้าว เป็นแป้งและอาหารพร้อมดื่ม สู่ตลาดต่างประเทศ

นสพ. โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๐๑ วันพฤหัสบดีที่ ๑ - วันจันทร์ที่ ๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙