25thApril

25thApril

25thApril

 

April 01,2017

ยังเคลือบแคลงค่าจอดรถงาน‘ย่าโม’ ไล่สื่อล็อกประตูไกล่เกลี่ย บอกไม่ได้หน่วยงานไหนสั่งเก็บ

          นัดเจรจาไกล่เกลี่ยปมค่าจอดรถงานย่าโม ผู้ประกอบการพร้อมกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ชี้แจงกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ที่ศูนย์ดำรงธรรม สรุปเคลียร์แค่ปมถูกชาวโซเชียลนำภาพมาประจานจนเสียหาย แต่เรื่องที่ประชาชนสงสัยว่าหน่วยงานใดรับผลประโยชน์ยังไร้คำตอบ

          สืบเนื่องจาก “โคราชคนอีสาน” เสนอข่าว มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ โพสต์ข้อความขึ้นในเพจ กลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง ว่า “ค่าจอดคันละ 20 วันหนึ่งได้เท่าไหร่?? ทั้งๆ ที่เป็นถนนสัญจรสาธารณะ คนเก็บก็เป็นกลุ่มวัยรุ่น ประเด็นคือเก็บแล้วเอาเงินไปทำอะไร? แล้ววัยรุ่นที่คอยเก็บเงินมาจากหน่วยงานใด #ไม่ได้มีปัญหาหรือเจตนาก่อกวนนะครับ #ขอคำตอบจากผู้รู้หน่อยครับ”

          จากนั้นมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ได้พูดคุยกับผู้โพสต์ข้อความข้างต้นว่า “น้องคะผู้รับเหมาขอคุยด้วยหน่อยจะได้ชี้แจงให้ฟังนะคะ” ทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันผ่านแชททางเฟซบุ๊ก จนมีข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ว่า “น้องคะถ้าไม่มาพี่ขอดำเนินคดีนะคะ” ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ กลัวว่าตนจะถูกข่มขู่และข้อความนี้จะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัย จึงนำข้อความที่คุยกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ผ่านแชททางเฟซบุ๊กโพสต์ลงในเพจ กลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็งอีกครั้ง ว่า “#โพสต์เพื่อสอบถามครับ กรณีนี้ผมควรทำไงครับ เขาจะดำเนินคดีกับผมข้อหาอะไร ผมแค่อยากทราบเหตุผล ผมมีสิทธิ์ถามใช่ไหมครับ เพราะแค่สงสัยเฉยๆ กลายเป็นจะถูกดำเนินคดีครับ ตอนนี้คือเครียดครับ เพราะไม่รู้กฎหมาย #ประชาธิปไตยคืออะไรครับทุกวันนี้อยู่ยากจังเลย #ขอความช่วยเหลือครับ” ทำให้ได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวโซเชียล ทั้งนี้ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ถูกชาวโซเชียลนำภาพมาโพสต์ประจานจนเจ้าของภาพได้รับความเสียหาย

          นอกจากนี้ผู้ประกอบการได้นัดผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ เพื่อมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ สภ.เมืองนครราชสีมา และเนื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ติดภารกิจรับวุฒิการศึกษาที่โรงเรียน และกลัวถูกข่มขู่จึงไม่ได้เดินทางมาตามนัด ทั้งนี้ได้นัดเพื่อชี้แจงกันอีกครั้งวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๑.๓๐ น. ที่ ศูนย์ดำรงธรรม อำเภอเมืองนครราชสีมา (ที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา)

          ล่าสุดเมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๑.๓๐ น. ที่ ศูนย์ดำรงธรรม ที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา ได้มีการนัดเพื่อเจรจาและชี้แจงของฝ่ายผู้ประกอบการมาพร้อมกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn (ลูกจ้าง) และผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรม ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟังคำชี้แจงด้วย จากนั้นทางศูนย์ดำรงธรรมทนแรงกดดันของสื่อมวลชนและประชาชนที่มารอฟังคำชี้แจงไม่ไหว จึงอนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ามาร่วมรับฟังได้

          ทางด้านผู้ประกอบการ (ขอให้ปกปิดชื่อ) กล่าวว่า เจตนาที่เข้ามาทำเพราะหวังดีต้องการป้องกันรถของประชาชนที่มาเดินเที่ยวงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารีปลอดภัย เนื่องจากมีรถของประชาชนมาจอดจำนวนมาก กำลังของตำรวจคงไม่เพียงพอที่จะมาเฝ้าระวัง บัตรจอดรถของตนก็จะทำขึ้นมาไม่เหมือนของที่อื่น เพราะของที่อื่นเป็นบัตรที่หาซื้อได้ทั่วไป ทำให้มีการปลอมแปลงกันได้ง่าย แต่ของตนทำขึ้นมาเองโดยเฉพาะจ้างพิมพ์เล่มละ ๓๐ บาท นอกจากนั้นพนักงานที่จ้างมาก็จ้างคนละ ๔๐๐ บาท จึงจำเป็นต้องเก็บเงินค่าจอดรถคันละ ๒๐ บาท

          “โคราชคนอีสาน” ได้สอบถามผู้ประกอบการเพิ่มเติมว่า ชาวโซเชียลให้ความสนใจและตั้งคำถามว่า “หากรถหายแล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ เนื่องจากบางคนแค่หมวกกันน็อกหายเมื่อไปถามก็ไม่มีใครรับผิดชอบ” ทางด้านผู้ประกอบการให้คำตอบว่า ช่วงนั้นเจ้าของรถคันที่หมวกกันน็อกหายอาจจะไปถามกับคนเฝ้ารถ จึงไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าเป็นเขตพื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนก็จะช่วยดูแลให้อยู่แล้ว

          ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ กล่าวว่า การที่ตนโพสต์เพื่อตั้งข้อสงสัยว่า เงินที่ได้นำมาหมุนเวียนส่วนไหน หากมีหลักฐานเพื่อมาชี้แจงให้ชัดเจนตนก็ยอมรับ และเนื่องจากเห็นว่าถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ข่มขู่ว่า หากไม่มาพูดคุยก็จะดำเนินคดี ตนจึงกลัวว่าหากถูกดำเนินคดีจะกระทบกับการเรียนและกลัวเสียอนาคต ปัจจุบันตนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ สนใจศึกษาต่อที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ตนก็ยอมรับว่า ตนผิดจริงและขอโทษที่นำแชทของเฟซบุ๊กที่พูดคุยกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ไปโพสต์และไม่ได้ปกปิดชื่อ ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ถูกชาวโซเชียลนำภาพมาโพสต์ประจานจนเจ้าของภาพได้รับความเสียหาย แต่ที่ทำไปเจตนาแค่กลัวที่โดนข่มขู่ และสงสัยว่าเป็นใครเท่านั้น

          ด้านผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn กล่าวว่า ตนถูกจ้างมาให้เก็บค่าจอดรถโดยได้ค่าแรงวันละ ๔๐๐ บาท ในวันที่เห็นโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ตนจึงติดต่อกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ที่ให้คำพูดไปเช่นนั้นตนยอมรับว่าผิด แต่เจตนาที่แท้จริงเพื่อจะชี้แจงเท่านั้น ตนรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ตนไปไหนมาไหนด้วยความลำบาก เพราะประชาชนจะเข้าใจว่าเป็นผู้ประกอบการถูกคุกคามทั้งการใช้ชีวิตประจำวันและในโซเชียล ตั้งแต่เกิดเรื่องมาไปไหนมาไหนตนต้องสวมหน้ากากเพื่อปิดหน้าตลอด ทั้งนี้ได้กล่าวขอบใจผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ที่เข้าใจและเห็นใจ ตนไม่อยากให้มีปัญหาและเข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ เช่นกัน เพราะว่าตนก็มีลูก หากลูกตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ตนก็เข้าใจ และไม่ได้โกรธที่ถูกชาวโซเชียลประจาน แต่รู้สึกเสียใจที่เรื่องเกิดขึ้นเพราะชาวโซเชียลขุดค้นรูปภาพลูกและสามีมาประจานซึ่งคนเหล่านั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย  

          หลังจากนั้นเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ตั้งคำถามขึ้นมาว่า ผู้ประกอบการสัมปทานที่จอดรถได้มาจากหน่วยงานใดและค่ารถที่เก็บมาได้นำไปไหน ซึ่งทางด้านผู้ประกอบการพยายามบ่ายเบี่ยงและเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามนี้ จึงทำให้สถานการณ์เริ่มกดดัน นางรุ่งกานต์ ทองนาคโคกกรวด ปลัดอำเภอเมืองนครราชสีมา จึงขอให้สื่อมวลชนออกไปข้างนอกแล้วจะเรียกเข้ามารับฟังใหม่ จากนั้นเวลาผ่านไปกว่า ๓๐ นาที ทางผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ได้เดินออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วนทางด้านผู้ประกอบการพร้อมกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn (ลูกจ้าง) เดินหลบหายไปด้านหลังศูนย์ดำรงธรรม ฯ

          “โคราชคนอีสาน” ได้สอบถามผลการชี้แจง ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ เผยว่า สำหรับผลการเจรจาก็เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง เพราะตนได้ปรับความเข้าใจกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ซึ่งเป็นลูกจ้างเก็บค่าจอดรถ ตนก็ขอโทษไปในสิ่งที่ตนโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กแต่ไม่ได้ปิดชื่อ ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ได้รับความเสียหายจากการคุกคามของชาวโซเชียล ซึ่งเป็นความสะเพร่าของตนเอง ส่วนเรื่องที่ประชาชนยังให้ความสงสัยต้องให้เป็นฝ่ายผู้ประกอบการตอบ เพราะตนก็ยังไม่ทราบคำตอบจากผู้ประกอบการเช่นกัน วันนี้ที่ได้มารับฟังคำชี้แจงก็คาดว่า จะไม่เกิดผลกระทบอะไรหลังจากนี้คงดำเนินชีวิตตามปกติ

          จากนั้น “โคราชคนอีสาน” ได้สอบถามถึงผลการชี้แจงกับนางรุ่งกานต์ ทองนาคโคกกรวด ปลัดอำเภอเมืองนครราชสีมา ได้รับคำตอบว่า ตามจริงแล้วที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ โพสต์ข้อความลงไปก็โพสต์ด้วยอารมณ์ แต่เจตนาจริงๆ นั้นไม่มีอะไร ซึ่งตอนนี้ได้คุยกันเรียบร้อยแล้ว เกิดจากการเข้าใจผิดกัน ด้วยความที่ยังเป็นวัยรุ่นก็อยากรู้ เมื่อเกิดประเด็นว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Somjai Witsanukorn ซึ่งเป็นคู่กรณีที่เข้าไปถามนั้น ก็ถูกชาวโซเชียลเข้ามาต่อว่าต่อขาน ซึ่งเขาก็เสียใจที่เขาได้คอมเมนต์ไปแบบนั้น เพราะฝ่ายคู่กรณีก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้มันบานปลาย ด้านผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ที่โพสต์ก็มีความรู้สึกว่าจะทำอย่างไรดี และก็ไม่ได้อยากเป็นข่าวใหญ่โตขนาดนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวตนก็ได้มีการสอนทางผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ไปว่าในเรื่องของโซเชียลเป็นอย่างไร มีทั้งบวกและลบอย่างไร ตนเป็นแค่คนกลางคอยรับฟังจึงต้องการให้ตกลงกันด้วยดี

          นอกจากนี้ “โคราชคนอีสาน” สอบถามเพิ่มเติมว่า ในกรณีเก็บค่าจอดรถ ๒๐ บาท ที่ทางผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ ตั้งคำถามไป ได้คำตอบว่าอย่างไร นางรุ่งกานต์ ตอบว่า ที่มาคุยกับตนวันนี้เป็นแค่เรื่องของผลกระทบเท่านั้น เรื่องก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรไม่ได้พูดถึง สำหรับวันนี้คุยกันแค่ว่า ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันเห็นใจซึ่งกันและกันแค่นั้น ไม่ได้มีเรื่องอื่น ตนจึงไม่เข้าใจว่า สื่อมวลชนมาทำไมกัน ในส่วนเรื่องเก็บเงินค่าจอดรถนั้นไม่ได้มีการพูดถึง

          ล่าสุด ในวันเดียวกัน เวลา ๑๗.๐๐ น. ชายคนหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ประกอบการ ประกอบอาชีพข้าราชการ (ขอให้ปกปิดชื่อ) ได้เข้ามาให้ข้อมูลกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า ที่ผ่านมาตนเคยทำงานรับฝากรถมาแล้วที่งานน้อยหน่าและอีกหลายงานในอำเภอปากช่อง และไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้มาก่อน สำหรับงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี พื้นที่ที่ตนรับผิดชอบคือบริเวณช่วงถนนจอมพลตั้งแต่หลังย่าโมจนถึงวัดบึง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ขอใช้ประโยชน์เพื่อใช้ในการจอดรถของประชาชนที่มาเดินเที่ยวงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี โดยช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมามีปัญหารถหายจำนวนมาก และกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอ จึงต้องหาคนมาดูแลรถเพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรม ทั้งนี้พื้นที่บริเวณที่ตนสัมปทานได้รวมทั้งสิ้น ๑๒ คืน เป็นจำนวนเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท เงินที่เก็บได้ประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาท/คืน ซึ่งหน่วยงานที่อนุญาตให้สัมปทานก็นำเงินไปพัฒนาหน่วยงาน ไม่ได้ไปตกอยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ประชาชนสงสัยว่า หากรถหายใครจะรับผิดชอบ ถ้ารถหายจริงๆ ก็เป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการ แต่หากรถมีปัญหาตั้งแต่แรกก็แจ้งกับคนคุมรถได้เพราะจะได้ดูแลให้เป็นพิเศษ สำหรับกรณีที่หมวกกันน็อกหายแล้วไม่มีใครรับผิดชอบ ไม่ใช่รถที่จอดอยู่ในบริเวณที่ตนรับผิดชอบ ปัจจุบันได้ยกเลิกการเก็บค่าจอดรถแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๐ ในวันนี้ที่เดินทางไปพูดคุยกับนางรุ่งกานต์ ทองนาคโคกกรวด ปลัดอำเภอเมืองนครราชสีมา เรื่องทั้งหมดก็ยุติลงแล้ว สำหรับเรื่องที่ว่าหน่วยงานใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการเก็บค่าจอดรถไม่สามารถเปิดเผยได้ คงต้องรอให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่มาชี้แจง 

          หากมีความคืบหน้า “โคราชคนอีสาน” จะติดตามมานำเสนอต่อไป


720 1350