ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ขอความชัดเจน กรณีเก็บเงินค่าจอดรถงานย่าโม และการเคลื่อนไหวแยกจังหวัดบัวใหญ่ พร้อมเห็นด้วยกับ ๗ ข้อเสนอของกลุ่มแกนนำขับเคลื่อนตั้งจังหวัดบัวใหญ่ คาดเป็นการสร้างความสามัคคีปรองดอง “วิเชียร” รับปากจะสอบถามความจริงเก็บค่าจอดรถจาก ผบก.

          เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๐ ร.ต.พงศภัค   ภูริสิทธิพล และนายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา เครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา และแกนนำกลุ่มผู้คัดค้านการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จำนวน ๒ ฉบับ คือ สอบถามความชัดเจนการใช้ถนนทางสาธารณะในการจัดเก็บเงินค่าจอดรถ ในงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี (งานย่าโม) และถามความเคลื่อนไหวในการแยกจังหวัดบัวใหญ่

          สำหรับเนื้อหาในหนังสือเรื่องการจัดเก็บเงินค่าจอดรถ ที่เครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา เดินทางมายื่นต่อนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ระบุว่า “ตามที่มีข่าวออกทางสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์โคราช และสื่อสังคมโซเชียล ถึงกรณีเรื่องค่าบริการจอดรถจักรยานยนต์ ๒๐ บาท ในบริเวณงานวันแห่งชัยชนะของท่านท้าวสุรนารี (งานย่าโม) ประจำปี ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นถนนสาธารณะที่พี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งต่อมาเพจ “ตำรวจโคราช ยินดีรับใช้ครับ” ได้โพสต์ข้อความว่า ‘ประชาสัมพันธ์ กรณีมีผู้แอบอ้างเรียกเก็บเงินค่าจอดรถในพื้นที่สาธารณะ ในงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ประจำปี ๒๕๖๐’ อนึ่ง จากการเก็บเงินค่าจอดรถในทางสาธารณะนั้น ทำให้พี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้มาร่วมงานต่างรู้สึกไม่พอใจ เคลือบแคลงสงสัยถึงการกระทำของหน่วยงาน และบุคคลที่แอบอ้างใช้ช่องทางหากินจากภาษีพี่น้องประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวในโคราชเสียหาย ตลอดจนสร้างความเสื่อมเสียอย่างมากต่อจังหวัดนครราชสีมา

          “ด้วยกลุ่มเครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ได้มองเห็นถึงการกระทำของหน่วยงานและบุคคลที่แอบอ้าง จนสร้างความเสื่อมเสียให้กับจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างมาก จากข่าวที่ออกมาตามสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดข้อครหาถึงหน่วยงานและบุคคลที่จัดเก็บเงิน โดยฉวยโอกาสจากงานดังกล่าวอย่างไม่ถูกต้อง และไม่โปร่งใสสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยกลุ่มเครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา และประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ต้องการทราบว่า หน่วยงานไหน และบุคคลใดเป็นผู้ดำเนินการเก็บเงินบนพื้นที่สาธารณะจากการจัดงาน และเงินที่จัดเก็บนำไปบริหารงานส่วนไหน ภาพที่แนบมาพร้อมนี้จะดำเนินการกับหน่วยงาน ตลอดจนผู้ที่กระทำความเสื่อมเสียให้กับจังหวัดได้อย่างไร หากมีการพิจารณาผลเป็นประการใดแล้ว ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ส่งข้อมูลกลับมายังกลุ่มเครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ทราบด้วย”

ประชาชนรอความจริง

          ด้านร.ต.พงศภัค ภูริสิทธิพล กล่าวว่า สำหรับเรื่องของการเก็บเงินค่าจอดรถ ตนเห็นว่าเป็นถนนของสาธารณะของคนส่วนรวม หากเก็บเงินไปแล้วนำมาเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชน พวกตนก็เห็นด้วย แต่หากจัดเก็บไปแล้วไปใส่กระเป๋าตัวเองคิดว่าไม่เหมาะ และไม่ว่าใครก็ต้องการเงิน ตนก็อยากได้เช่นกัน แต่ตนไม่ทำเพราะเป็นถนนของสาธารณะ ด้านผู้ว่าฯ ก็รับปากว่าจะเรียกผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมามาสอบถาม และนำคนที่กระทำเรื่องนี้มาสอบถามด้วย พร้อมทั้งเรียกกลุ่มของพวกตนและผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์ มาพูดคุยเพื่อให้ความกระจ่างต่อสาธารณชน

          “ขณะเดียวกันผู้ว่าฯ ก็ยังถามตนกลับว่ารู้ไหมว่าเป็นใคร ซึ่งตนก็ไม่กล้าตอบ เพราะในเรื่องนี้ตนไม่มีเอกสาร เห็นเพียงแค่ภาพถ่ายของคนเก็บเงิน การจอดรถ และป้ายที่บ่งบอกว่าเป็นโครงการฝากรถ สนับสนุนโดย สภ.เมืองนครราชสีมา ตนก็เห็นเพียงแค่นั้น แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ส่วนเรื่องที่ตนและประชาชนต้องการทราบคือ หน่วยงานใดเป็นผู้ให้สัมปทานที่จอดรถ และค่าจอดรถที่เก็บมาได้นำไปไหน หลังจากนี้อาจจะมีการหารือกับผู้บังคับการฯ และเรียกผู้กระทำผิดมาพูดคุย พร้อมด้วยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ สิงโต วชิรปกรณ์  และตนจะมาร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่า หน่วยงานใดเป็นผู้ให้สัมปทานที่จอดรถ และใครได้รับผลประโยชน์” ร.ต.พงศภัค กล่าว

          สำหรับกรณีการเก็บเงินค่าจอดรถในงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารีคันละ ๒๐ บาท บนถนนสาธารณะ “โคราชคนอีสาน” ได้ติดตามและนำเสนออย่างต่อเนื่อง ทั้งในเพจ Korat Daily และ www.koratdaily.com ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก

นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา และร.ต.พงศภัค ภูริสิทธิพล ตัวแทนเครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา 

คืบหน้าแยกบัวใหญ่

          นอกจากนี้ นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา ตัวแทนเครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ได้ยื่นหนังสือขอสอบถามความเคลื่อนไหวในการแยกจังหวัดบัวใหญ่ ความว่า “สืบเนื่องจาก มีหนังสือเลขที่ นร.๐๑๐๕.๐๒/๔๐๕๗๔ ตอบกลับถึงนายคำพันธ์ บุญยืด ลงวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ กราบเรียนนายกรัฐมนตรีเสนอความเห็น ให้แยกอำเภอของจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัด กับขอให้พิจารณาเกี่ยวกับโครงการสร้างอนุสาวรีย์พระบรมรูปรัชกาลที่ ๙ ความแจ้งอยู่แล้วนั้น ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับทราบและได้ประสานให้กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวได้พิจารณาแล้วนั้น ด้วยกลุ่มผู้ผลักดันแยกจังหวัดบัวใหญ่ ได้พยายามหาแนวทางทุกวิถีทาง ให้ได้มาซึ่งเป็นจังหวัดบัวใหญ่ นำมาซึ่งความขัดแย้ง แตกแยก สร้างความเข้าใจผิดให้กับพี่น้องประชาชนทั้งจังหวัด เพียงเพื่อความต้องการของคนบางกลุ่ม/บางพวก ในการได้รับผลประโยชน์ต่างๆ จากการแบ่งแยกจังหวัดดังกล่าว โดยสร้างเงื่อนไขจากหน่วยงานในระดับจังหวัด และในส่วนของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลบัวใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้น ยังไม่ได้รับการจัดสรรเครื่องมือแพทย์ให้สอดคล้องกับบริบทของระดับโรงพยาบาลทั่วไป พัฒนาลุ่มน้ำลำสะแทดซึ่งครอบคลุมในพื้นที่ เส้นทางรถไฟสายชุมทางบัวใหญ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และการสร้างถนนให้มีมาตรฐานเพื่อเชื่อมระหว่างกลุ่มอำเภอทั้ง ๘ ให้เกิดความสะดวกในการสัญจร เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้หน่วยงานในจังหวัด ได้มีการประสานงานเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา รวมทั้งภาครัฐบาลได้ผลักดันงบประมาณต่างๆ มาให้กับกลุ่มพื้นที่ทั้ง ๘ อำเภอ กลุ่มเครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา และพี่น้องประชาชนทั้ง ๘ อำเภอ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการแยกจังหวัดบัวใหญ่ ขอเรียกร้องให้กลุ่มดังกล่าวหยุดการเคลื่อนไหว หยุดปลุกระดมมวลชน หยุดสร้างความแตกแยกของพี่น้องประชาชนทั้งจังหวัด และหันมาสร้างความเข้าใจอันดี เพื่อให้เกิดความปรองดองตามที่รัฐบาลต้องการต่อไป หากมีการพิจารณาผลเป็นประการใดแล้ว ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ส่งข้อมูลกลับมายังกลุ่มเครือข่ายพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ทราบด้วย”

          ทั้งนี้ “โคราชคนอีสาน” ได้สอบถามนายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา ว่า มีความเห็นอย่างไรสำหรับกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อรุณ อัครปรีดี” หรือนายอรุณ อัครปรีดี ประธานเครือข่าย ๘ อำเภอเมืองด่านนอก จ.นครราชสีมา แกนนำขับเคลื่อนการตั้งจังหวัดบัวใหญ่ โพสต์ข้อความว่า “ตนได้พูดคุยกับนายธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยนายธงชัย กล่าวกับตนว่า ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สอบถามถึงกรณีที่เครือข่าย ๘ อำเภอเรียกร้องการพัฒนาพื้นที่ที่ขาดการพัฒนาเหลื่อมล้ำกับพื้นที่ส่วนอื่น กระทั่งนำไปสู่การที่นายกรัฐมนตรีได้จัดสรรงบกลางมาก่อสร้างโรงพยาบาลบัวใหญ่สองร้อยกว่าล้านบาทนั้น หากยังมีอะไรที่จำเป็นต้องขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณลงมา  สนับสนุนตามความต้องการของประชาชน ให้ทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอไปด่วนที่สุดให้ทันบรรจุในงบประมาณประจำปี ๒๕๖๑ ตามที่ นสพ.โคราชคนอีสานได้นำเสนอข่าวไปแล้วในฉบับที่ ๒๔๒๕ วันเสาร์ที่ ๑ - วันพุธที่ ๕ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐

๗ ข้อเสนอช่วยปรองดอง

          นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา เผยว่า สำหรับกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกจังหวัดบัวใหญ่พยายามยื่นข้อเสนอไปทางจังหวัดส่วนหนึ่ง รัฐบาลส่วนหนึ่ง เพื่อยื่นข้อเสนอ ๗ ข้อ ว่า ทางหน่วยงานราชการจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้างใน ๗ ข้อที่เสนอไป ในส่วนของตนได้มีคนส่งหนังสือมาให้ ซึ่งเป็นหนังสือการตอบกลับจากทางสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี มาทางนายคำพันธ์ บุญยืด อดีตหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอบัวใหญ่ แกนนำขอแยกจังหวัดบัวใหญ่ ซึ่งหนังสือนี้เป็นการยื่นเรื่องของกลุ่มที่ต้องการแยกจังหวัดบัวใหญ่ เนื่องในกรณีที่ต้องการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๙  และเรื่องการต้องการสร้างสวนพฤกษศาสตร์ ร.๙ ที่บริเวณอำเภอคง ซึ่งทางตนได้พยายามที่จะพูดคุยและมายื่นหนังสือกับผู้ว่าฯ ว่าทางกลุ่มนี้ได้ยื่นหนังสือไปยังรัฐบาลโดยไม่ผ่านทางผู้ว่าฯ และหนังสือนั้นก็กลับมาทางนายคำพันธ์ ซึ่งก็ไม่ได้ผ่านทางผู้ว่าฯ อีกเช่นกัน ด้านผู้ว่าฯ เพิ่งจะทราบ และกล่าวว่า ให้ประชาชนทุกภาคส่วนทั้งที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง ๘ อำเภอ และนอกพื้นที่ช่วยกันดูแลสอดส่องการกระทำต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง หรือเป็นการเคลื่อนไหวของการระดมมวลชนด้านต่างๆ ของกลุ่มที่จะแยกจังหวัด และในส่วนหนึ่งทางกลุ่มก็จะยื่นหนังสือไปทางกระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองอีกครั้งหนึ่ง

          “สำหรับการยื่นข้อเสนอ ๗ ข้อ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะรัฐบาลและจังหวัดได้ช่วยกันแก้ไขสนับสนุนในส่วนของงบประมาณต่างๆ เข้ามาแก้ไขให้กับคนในพื้นที่ทั้ง ๘ อำเภอ เพื่อที่ประชาชนจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น และเน้นในเรื่องของความปรองดองของคนจังหวัดนครราชสีมาด้วย” นายศุภฤกษ์ กล่าว

          “โคราชคนอีสาน” จะนำเสนอความคืบหน้าต่อไป

          นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๒๖ วันพฤหัสบดีที่ ๖ - วันจันทร์ที่ ๑๐ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐