หลังภาพรับน้อง “มทร.อีสาน” ไม่เหมาะโผล่ว่อนเน็ต มหา’ลัย เชิญผู้ปกครองนักศึกษาสาวผู้เสียหาย เผยลงโทษมือโพสต์ รุนพี่ รวมกว่า ๔๐ คน เผยเหตุการณ์จริงไม่ล่อแหลมอย่างภาพ พร้อมทำหนังสือแจ้งบทลงโทษให้นักศึกษาทุกชั้นปี พร้อมเฝ้าระวังจัด “โครงการพี่และครูร่วมดูแลน้อง” พร้อมสายด่วนรับเรื่อง ๒๔ ชั่วโมง  ข่าวที่เกี่ยวข้อง http://www.koratdaily.com/blog.php?id=5788

            จากกรณีมีการเผยแพร่ ภาพถ่ายในโซเชียลในช่วงบ่ายของวันที่ ๑ กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นภาพนักศึกษาชายหญิง สวมเสื้อคอโปโลสีดำ ปักโลโก้ด้านหลัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) นั่งหันหน้าเข้าหากัน ลักษณะหน้าผากและแก้มใกล้ชิดกัน พร้อมพิมพ์ข้อความ ในลักษณะเป็นการแซว หยอกล้อ นักศึกษาในรูปให้เกิดความเสียหาย โดยนักศึกษาชาย ชั้นปี ๑ จำนวน ๒ คน เป็นคนโพส์ตรูปภาพในกลุ่มเฟซบุ๊คเพจ “รับน้องสร้างสรรค์ระดับพระกาฬ” หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานได้มีการเร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว อีกทั้งเชิญผู้ปกครองของนักศึกษาที่เกี่ยวข้องเข้าพูดคุยกันในวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๐ โดย ผศ.ชูชัย  ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ฐานะประธานกรรมการศูนย์ป้องปรามกิจกรรมรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ มทร.อีสาน พร้อมบุคลากรทางการศึกษาและกลุ่มนักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรม “ โครงการก้าวแรกสู่ มทร.อีสาน ” และผู้ที่โพสต์รูปภาพต้นเรื่อง รวมทั้งผู้ปกครองของนักศึกษาหญิงผู้เสียหายตามภาพด้วย

            ด้านบิดาของนักศึกษาหญิงผู้เสียหาย ให้อภัยทุกๆ คน ขอให้การกระทำครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของชีวิต ทุกคนสามารถผิดพลาดกันได้ ต้องคิดก่อนทำ ต่อไปเมื่อจบการศึกษา ก็ต้องเป็นบัณฑิต ขอให้เป็นคนดีของสังคม และยอมรับพอใจในกระบวนการสอบสวนหาระดับความผิด โดยนักศึกษาชาย ชั้นปี ๑ จำนวน ๒ คน ซึ่งเป็นคนโพส์ตรูปภาพ มีความผิดฐานทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียง โทษระดับกลาง ตัดคะแนนความประพฤติ ๑๐ คะแนน พร้อมทำหนังสือแจ้งผู้ปกครองให้รับทราบพฤติกรรม และต้องบำเพ็ญประโยชน์ ๑๐๐ ชั่วโมง นักศึกษารุ่นพี่รวม ๔ คน เป็นกลุ่มที่กำกับการจัดกิจกรรมทั้งออกคำสั่งและให้จังหวะเสียงดนตรี โทษระดับเบา ตัดคะแนน ๕ คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองและต้องบำเพ็ญประโยชน์ ๕๐ ชั่วโมง และ นักศึกษารุ่นพี่ รวม ๔๐ คน เป็นกลุ่มที่อยู่ในฐานวิทยาลัยศรีธัญญา ต้องบำเพ็ญประโยชน์ ๕๐ ชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดถูกภาคทัณฑ์ หากกระทำผิดซ้ำจะต้องถูกกำหนดบทลงโทษเป็น ๒ เท่า จากนั้น นักศึกษาทั้งหมดได้นำพวงมาลัยมากราบขอขมาผู้ปกครองของนักศึกษาหญิงดังกล่าว

โซเชียลวิจารณ์บทลงโทษ   

            หลังจากมีข่าวเรื่องการลงโทษดังกล่าวออกไป ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลอย่างแพร่หลาย ว่าการลงโทษนั้นถูกต้องแล้วหรือไม่ ผู้ที่โพสต์รูปภาพได้รับโทษมากกว่า รุ่นพี่ที่ควบคุมกิจกรรมดังกล่าว หากเป็นเช่นนี้เมื่อมีผู้พบเห็นการรับน้องอย่างไม่สร้างสรรค์จะมีผู้ใดกล้าออกมาพูด  ล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐ “โคราชคนอีสาน” ได้สอบถามเพิ่มเติมถึงกรณีดังกล่าว ไปยัง ผศ.ชูชัย  ต.ศิริวัฒนา รองอธิการบดีฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า ด้านครอบครัวของนักศึกษาหญิงนั้นเห็นด้วยกับการตัดสิน และการดำเนินการทุกอย่างของมหาวิทยาลัย การพิจารณาตัดสินทำโดยคณะกรรมการปกครองของมหาวิทยาลัย ซึ่งสอบหาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย รวมทั้งนักศึกษาหญิงในภาพที่เป็นผู้เสียหาย ที่ต้องปกป้องคุ้มครองสูงสุด มีการให้ข้อมูลทั้งกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงและอธิบายกับผู้ปกครอง โดยเฉพาะกับบิดาของผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อเห็นภาพในครั้งแรกโกรธมาก ต้องการแจ้งความดำเนินคดี พร้อมจะเดินทางมามหาวิทยาลัย แต่นักศึกษาหญิงยืนยันว่าภาพที่ปรากฏกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกิจกรรมแตกต่างกันมาก บิดาของนักศึกษาหญิงซึ่งมารับฟังการชี้แจงพร้อมกับสื่อมวลชน จึงให้ข้อมูลกับสื่อว่า พอใจในแนวทางแก้ปัญหาและบทลงโทษของมหาวิทยาลัย ที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งตนชี้แจงผ่านสื่อไปพร้อมกัน โดยเฉพาะการชี้แจงระดับโทษหลังจากกรรมการปกครองตัดสิน โดยเฉพาะผู้ปกครองที่เห็นด้วยและพอใจในการดำเนินการแก้ปัญหาของมหา'ลัยและพูดกับสื่อเอง รวมทั้งรับการขอขมาของกลุ่มนักศึกษาคู่กรณี พร้อมทั้งสอนและให้ข้อคิดดีๆ กับนักศึกษากลุ่มดังกล่าว ดังนั้นคิดว่าการแก้ปัญหาที่ทำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายสูงสุดยอมรับ เป็นเรื่องสำคัญสุด

            ในส่วนของการที่คนโพสต์รูปภาพได้รับโทษมากกว่า รุ่นพี่ที่ควบคุมกิจกรรมดังกล่าว ผศ.ชูชัย กล่าวว่า นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ ที่โดนลงโทษ คือนักศึกษาซึ่งโพสต์รูปดังกล่าว การลงโทษนักศึกษารายนี้ไม่ใช่เป็นเพื่อการปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด แต่เป็นการลงโทษเนืองจากการนำภาพไปเผยแพร่นั้น ทำให้นักศึกษาหญิงในภาพได้รับความเสียหาย “คนที่โพสต์นั้น ก็คือนักศึกษาชายที่อยู่ในภาพ โดยนักศึกษาชายคนดังกล่าวชี้แจงว่า ที่โพสต์ก็เพราะอยู่ในเหตุการณ์ และภาพที่ปรากฏกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริงๆ นั้น ต่างกันมาก ไม่ได้มีความล่อแหลมอย่างภาพที่ออกมา ด้วยความคึกคะนอง จึงเอาภาพโพสต์ เพราะคิดว่าคงไม่เป็นไร ไม่คิดว่าจะมีการแชร์ไปอย่างแพร่หลาย และทำให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึงด้านนักศึกษาหญิงในภาพเอง ก็อธิบายได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร และไม่ได้คิดว่าจะเกิดเป็นความเสียหาย ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้เป็นการรับน้องระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องในสาขา เป็นกิจกรรมที่แอบทำ ซึ่งคนละส่วนกับการจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ที่ทางมหาวิทยาลัยเป็นคนควบคุมในความเป็นจริง กิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ของทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานนั้น มีกิจกรรมดีๆตลอดทั้งวัน ที่น่าสนใจ และหากได้รับการเผยแพร่จะดีมาก”

             “ขณะนี้จะทำหนังสือ แจ้งไปยังทุกชั้นเรียน ตั้งแต่ ปี ๑-๔ ทั้งหมด เกี่ยวกับกิจกรรมรับน้องใหม่ที่ไม่เหมาะสม มหาวิทยาลัยจะดำเนินการตามประกาศ ซึ่งจริงๆ ประกาศดังกล่าวได้ออกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๐ หมายความว่าทาง มทร.อิสานก็พยายามหามาตรการป้องปรามแล้ว ดังนั้นการทำหนังสือแจ้งในครั้งนี้ก็เป็นการย้ำให้ชัดเจนอีกครั้งว่า เรื่องของกิจกรรมรับน้องที่ไม่อยู่ในกรอบที่มหาวิทยาลัยอนุญาต ถ้ายังฝ่าฝืนอีก ก็จะต้องโทษตามที่ได้ประกาศไป” ผศ.ชูชัย กล่าว

พบเห็นเรื่องไม่เหมาะสมแจ้งได้ที่

            แนวทางการปฏิบัติของนักศึกษาหากพบเรื่องไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการรับน้อง ผศ.ชูชัย กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยตระหนักถึงปัญหาในส่วนนี้ จึงมีการจัด “โครงการพี่และครูร่วมดูแลน้อง” โดยให้อาจารย์ เจ้าหน้าที่และตัวแทนผู้นำ นักศึกษาจากองค์การนักศึกษา สภาและสโมสรนักศึกษา มาอยู่เวรที่หอพักทุกคืนตั้งแต่ ๒๐.๐๐-๒๔.๐๐ น. โดยมหาวิทยาลัยจัดรถตู้ประจำให้ทีมงานออกพบปะชุมชนใกล้เคียง เยี่ยมเยียนนักศึกษาที่พักทั้งหอพักในและหอพักนอกมหาวิทยาลัย นอกจากนั้นยังมีเบอร์โทรศัพท์ สายด่วน ทั้งของตน และฝ่ายพัฒนานักศึกษา หากมีเหตุอะไรก็แล้วแต่ ไม่เฉพาะแต่เรื่องรับน้อง แต่เป็นทุกเหตุการณ์ นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ หรือชั้นปีอื่นๆ ก็สามารถประสานได้ ผู้ปกครองก็จะได้รับเอกสารที่มีเบอร์สายด่วนเหล่านี้หมด ซึ่งทุกฝ่ายยินดีที่จะรับข้อมูลไม่ว่าจะจากฝ่ายใดก็ตาม ซึ่งต้องยอมรับว่า บางครั้งการกระทำของนักศึกษาบางกลุ่มที่กระทำไปด้วยความคึกคะนองและขาดความรับผิดชอบ ก็ส่งผลเสีย แต่ที่จะทำได้คือการกระตุ้นให้ตระหนักว่าหากเกิดเหตุการณ์ต่างๆ แล้ว จะเกิดความเสียให้ต่อทุกคน ไม่ว่าตัวนักศึกษารุ่นน้องเอง รุ่นพี่ มหาวิทยาลัย ทุกส่วนเสียหายหมด