26thApril

26thApril

26thApril

 

August 18,2017

จัดหนักรับ‘ครม.สัญจร’ ขอ‘พันล้าน’ผันน้ำ จากเขื่อนป่าสักสู่ลำตะคอง

                เตรียมรับครม.สัญจรโคราช “ผู้ว่าฯวิเชียร” ย้ำ นายกรัฐมนตรีและคณะไม่ได้มารับฟังข้าราชการบรรยายและนำเสนอของบฯ เน้นลงพื้นที่พบปะรับฟังปัญหาประชาชน แต่โคราชเตรียมเสนอหลายโครงการ ทั้งขอผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มาสู่ลำตะคอง ขยายถนน ๔ เลน และของบศึกษาแก้ปัญหาน้ำท่วมเทศบาลนครฯ วอนให้ประชาชนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างภาพที่ดีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้านหอการค้าผลักดันเปิดสายการบินโคราช และยกระดับรางรถไฟทางคู่

                ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดจัดประชุมสัญจรที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ เพื่อติดตามผลการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลในพื้นที่ รวมถึงจะได้พบปะประชาชนเพื่อติดตามรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนนั้น 

เตรียมพร้อมรับครม.สัญจร

                นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้ลงพื้นที่เพื่อเตรียมการแล้ว โดยในวันจันทร์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและครม.จะลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการที่จะลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยคาดว่าลงพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองหนึ่งจุด และนอกพื้นที่อำเภอเมืองอีกหนึ่งจุด ในการเดินทางมาประชุม ครม.ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต้องการไปรับฟังปัญหาและพูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่มีปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น สองจุดนี้ทางจังหวัดจะนำพี่น้องประชาชนที่มีปัญหาต่างๆ มาพบนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการพูดคุยตอบปัญหาของประชาชน

                “ส่วนในวันที่ ๒๒ สิงหาคม ภาคเช้าจะเป็นการประชุมของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้ง ๒๐ จังหวัดเข้าร่วมประชุมด้วย จากนั้นจะเป็นการประชุมครม.ตามปกติ แต่การประชุมครม.นี้ จะเน้นหนักเรื่องการพิจารณาแผนงานและโครงการต่างๆ ที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ในวันที่ ๒๑ สิงหาคมแล้วนั่นเอง” นายวิเชียร กล่าว

เสนอแก้ไขจราจรทั้งระบบ

                นายวิเชียร กล่าวอีกว่า เรื่องแรกที่จังหวัดนครราชสีมาจะเสนอในการประชุม ครม.ครั้งนี้ คือ การแก้ไขปัญหาจราจรทั้งระบบ ของจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยจุดขึ้นลงมอเตอร์เวย์ เนื่องจากจุดลงของมอเตอร์เวย์นั้น จะมีจุดลงบริเวณบายพาสของอำเภอเมืองนครราชสีมา เป็นจุดที่กรมทางหลวงชนบทจะขยายถนน ๔ ช่องจราจร (Lane) ผ่านโรงเรียนสุรนารีวิทยา ๒ โดยจุดนั้นยังไม่เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์ จังหวัดจะเสนอจุดเชื่อมต่อตรงนี้ ๑ จุด เพื่อให้ผู้ใช้รถลงจากมอเตอร์เวย์แล้วสามารถจะต่อมาที่ถนน ๔ เลนเข้าเมืองได้เลย ส่วนให้ผู้ใช้รถที่วิ่งออกจากถนน ๔ เลนในเมือง ผ่านโรงเรียนสุรนารีวิทยา ๒ จะสามารถวิ่งขึ้นมอเตอร์เวย์ได้ หรือจะไปจังหวัดขอนแก่นได้โดยไม่ต้องไปกลับรถ และจังหวัดจะเสนอเรื่องของการขยายถนนที่ยังไม่เป็น ๔ เลน ในเส้นทางจากอำเภอสีดาไปอำเภอบัวใหญ่ ถนนเส้นอำเภอแก้งสนามนางเพื่อที่จะทะลุไปถึงจังหวัดชัยภูมิได้ โดยถนนเส้นนี้จะเชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคเหนือ อีกเส้นทาง คือการขยายถนน ๔ เลน จากอำเภอห้วยแถลงไปอำเภอลำปลายมาศของจังหวัดบุรีรัมย์ ระยะทางประมาณ ๖๐ กิโลเมตร เพื่อจะเชื่อมต่อไปจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และสามารถเชื่อมต่อไปถึงสปป.ลาวได้

ของบ ๑,๐๐๐ ล้านบริหารจัดการน้ำ

                “เรื่องที่สอง คือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ปัญหาภัยแล้ง โดยจังหวัดจะเสนอเรื่องการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคช่วงฤดูแล้ง ของประชาชนในเขตชุมชนเทศบาลนครนครราชสีมา และประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำลำตะคอง ที่ผ่านมา ลำน้ำลำตะคองเมื่อถึงฤดูฝน ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงสู่เขื่อนมีน้อยมาก ทางจังหวัดจะของบประมาณเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการผันน้ำจากเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์(ลพบุรี) ลงมาที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง คาดว่าใช้งบประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาท และจังหวัดจะเสนอแผนงานที่จะศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาทั้งระบบ เนื่องจากเทศบาลนครฯ ปัจจุบันเมื่อถึงฤดูฝนเกิดฝนตกน้ำท่วมมาก แต่เทศบาลนครฯ ยังไม่มีผลการศึกษาว่า จะแก้ไขปัญหาอย่างไร ส่วนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากบริเวณอำเภอบัวใหญ่ อำเภอบัวลาย อำเภอโนนแดง อำเภอประทาย และอำเภอเมืองยาง ซึ่งเมื่อฝนตกน้ำก็ท่วมมาก แต่เมื่อฝนแล้งก็แล้งหนัก พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายทุกปี จังหวัดจะเสนอโครงการนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่จังหวัดจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐” ผวจ.นครราชสีมา กล่าว

                นายวิเชียร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จังหวัดจะเสนอให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำกินของพี่น้องประชาชน ซึ่งมีปัญหาที่ดินทำกินทับซ้อน การร้องสิทธิ์กับอุทยาน หรือสปก.ต่างๆ รวมทั้งเรื่องการบริหารจัดการขยะที่จังหวัดจะต้องเสนอให้รัฐบาลช่วยแก้ไข และเรื่องแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนที่ไม่ต้องการรั้วกั้นรถไฟทางคู่ สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นปัญหาหลักๆ ที่จังหวัดจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา แต่การประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะไม่เน้นการอนุมัติโครงการเพื่อให้งบประมาณ เพราะเรื่องงบประมาณจะเข้าสู่ระบบของการพัฒนาระดับภูมิภาค อาจจะต้องมีการพิจารณากันในที่ประชุม ครม. ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาไม่ได้มีความแตกต่างจากจังหวัดอื่น สิ่งที่จังหวัดเสนอไปเป็นสิ่งที่เสนอขอเตรียมไว้เท่านั้น แต่สิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องการคือการมารับทราบปัญหา และมาดูการแก้ไขปัญหาตามนโยบาย การนำนโยบายรัฐบาลมาปฏิบัติในพื้นที่ เป็นการประเมินว่า หลังจากสามปีที่ผ่านมา จังหวัดนครราชสีมาแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลเป็นอย่างไรบ้าง

ครม.สัญจรช่วยแก้ปัญหารวดเร็ว  

                ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวอีกว่า การมาประชุมครั้งนี้ ประเด็นที่ ๑ จะทำให้นายกรัฐมนตรีเห็นสภาพปัญหา เพื่อจะพิจารณาสนับสนุนโครงการที่จังหวัดนครราชสีมาเสนอไป ตนคิดว่าจังหวัดมีโอกาสสูงที่จะได้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการ ประเด็นที่ ๒ เรื่องการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาเรื่องป่าไม้ ปัญหาที่ดินทำกิน เมื่อมีการนำเสนอปัญหาเหล่านี้ต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าจะได้รับการเร่งรัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และประเด็นที่ ๓ นับเป็นเกียรติประวัติของชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเลือกจังหวัดนครราชสีมา เป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ชาวจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร กล่าวทิ้งท้ายว่า ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี เลือกจังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดแรกในการลงพื้นที่ประชุม ครม.สัญจรสู่ภูมิภาค ตนขอให้ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่มาประชุมสัญจร รวมทั้งเตรียมการต้อนรับ ด้วยการดูแลบ้านเมืองให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ว่าจะด้านความสะอาด หรือส่วนราชการต่างๆ ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่สำคัญอยากฝากให้พี่ชาวจังหวัดนครราชสีมาเป็นเจ้าบ้านที่ดี เป็นเกียรติประวัติว่า ชาวจังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองรักความสงบ

หอการค้าเตรียมเสนอ ๖ เรื่อง

                นายกิติพงศ์ พงษ์สุรเวท รองประธาน หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายบริหารและกิจการพิเศษ กล่าวว่า หลังจากการประชุมร่วมกับทางจังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้รับมอบหมายให้นำเสนอเรื่องเพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณา คือ เรื่องการเปิดสายการบินจังหวัดนครราชสีมา โดยจะขอให้รัฐบาลช่วยเร่งรัด การยกเว้นค่าภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้มีความแตกต่างระหว่างเครื่องบินที่จะบินมาลงที่สนามบินนครราชสีมา กับเครื่องบินที่จะบินไปลงที่สนามบินอื่น เพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุนของสายการบินต่างๆ เรื่องที่สอง การผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มายังเขื่อนลำตะคอง เรื่องที่สาม การยกระดับรางของรถไฟทางคู่ ที่วิ่งผ่านตัวเมืองนครราชสีมา เรื่องที่สี่ การสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกประโดก โดยหอการค้าทำการเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำการศึกษาการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรื่องที่ห้า เรื่องร้านโชห่วย ที่ต้องการจะให้หอการค้าช่วยเหลือ และเรื่องที่หก เรื่องราคาสินค้าการเกษตร ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องหลักๆ ที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จะทำการเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัญจรในครั้งนี้ ต่อมาเมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๐ ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) โดยมีนายนริสชัย ป้อมเสือ และนายสุจินต์ เพชรเนียน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมรวม ๘๐ คน

                สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จังหวัดนครราชสีมา (ครม.สัญจร) ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ จะใช้ห้องสุรนารี อาคารสุรสัมมนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นสถานที่จัดประชุม พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ในวันจันทร์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๗.๐๐ น. นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร ๒ กองบิน ๖ (บน.๖) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน ๑ นครราชสีมา จากนั้นจะเดินทางไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และเดินทางไปเทศบาลตำบลหัวทะเล เพื่อไปมอบเอกสารสิทธิที่ดินทำกิน ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยจะรับประทานอาหารกลางวันพร้อมหารือกับ กรอ. ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา หลังจากนั้นจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปที่บึงกระโตน อ.ประทาย เพื่อรับฟังรายงานการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดนครราชสีมา และบ้านหนองขี้เหล็ก ต.วังหิน อ.โนนแดง ซึ่งเป็นหมู่บ้านประสบปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง พร้อมเยี่ยมชมการดำเนินโครงการภายใต้แผนพัฒนาชนบทเชิงพื้นที่ประยุกต์ ตามพระราชดำริ โครงการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล

                ส่วนในวันอังคารที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่ห้องสุรนารี อาคารสุรสัมมนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมรับประทานอาหารกลางวันในห้องประชุม จากนั้นจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และเวลา ๑๓.๓๐ น. นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี จะเดินทางไปที่ท่าอากาศยานกองบิน ๑ เพื่อขึ้นเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ กลับกรุงเทพฯ

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี  (ภาพจาก http://chaitour.co.th)

โปรดติดตามข่าวโดยละเอียดจาก นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๕๑ วันพุธที่ ๑๖ - วันอาทิตย์ที่ ๒๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐


711 1343