29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

April 23,2018

๒ อดีตจนท.ศูนย์ไร้ที่พึ่ง ให้ปากคำคดีงาบเงินคนจน

          ๒ อดีตเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นเป็นพยานปากสำคัญคดีงาบเงินคนจน กระทรวง พม. เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบสวน กรม พส. ยืนยันทำทุกอย่างตามระเบียบ หลังถูกเด้งเพราะไม่ยอมทุจริต ทั้งยังร่วมมือน้องแบม แต่ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรง เชื่อความยุติธรรมมีจริง วอน “บิ๊กโย่ง” เอาคนผิดมาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมด

          เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๐๐ น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงขอมนนุษย์ (พม.) คณะกรรมการสอบสวนกรณีการทุจริตโครงการเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ จากกรม พส. ได้ลงพื้นที่ทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวตามการนัดหมาย ซึ่งในวันนี้ คณะกรรมการสอบสวนได้นัดนางลักษณา  นนท์คำจันทร์ นักพัฒนาสังคมสงเคราะห์ ประจำนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น มาให้การต่อคณะกรรมการสอบสวน ที่ห้องประชุมของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น โดยห้ามไม่ให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าสังเกตการณ์หรือเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด โดยจำกัดพื้นที่ให้สื่อมวลชนนั้นอยู่บริเวณด้านหน้าของศูนย์ฯ เท่านั้น
         ทั้งนี้ในการสอบสวนดังกล่าวนี้เป็นไปตามคำสั่งสำนักเลขานุการกรมฯ กลุ่มงานกฎหมาย ลงวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๑ ที่ พม ๐๖๐๑.๐๗/๑๘๘  เรื่องการสอบสวนวินัย ถึงผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ตามที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มีคำสั่งที่ ๒๙๘/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง นางพวงพะยอม จิตรคง, นางนิตติยา ขาวสุด และ นางลักษณา นนท์คำจันทร์ กรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ.๒๕๕๒ ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานตามอำนาจหน้าที่ จึงมีคำสั่งให้ นางลักษณา นนท์คำจันทร์ ข้าราชการ สังกัด กรม พส. มาทำการสอบปากคำต่อคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้น ในวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๙.๐๐ น.เป็นต้นไป
         ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศโดยทั่วไปของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คนปฏิบัติหน้าที่อยู่เท่านั้น ขณะที่ผู้บริหารสูงสุดของศูนย์ฯ แห่งนี้ ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการจากสำนักปลัดกระทรวง พม. มาปฏิบัติหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นแห่งนี้ จนกว่าการสอบสวนกรณีการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ จะแล้วเสร็จ
          ต่อมาเมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น คณะกรรมการสอบสวนเอาผิดคดีการทุจริตเงินโครงการสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยโรคเอดส์ ยังคงทำการสอบปากคำ นางลักษณา นนท์คำจันทร์ นักพัฒนาสังคมสงเคราะห์ ประจำนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ อดีตเจ้าหน้าที่ธุรการประจำศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น และนางนิตยา ขาวสุด เจ้าหน้าที่พัสดุประจำนิคมสร้างตนเองโนนสัง จ.หนองบัวลำภู อดีตเจ้าหน้าที่พัสดุประจำศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ซึ่งกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ต่อเนื่องมาตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา โดยบุคคลทั้ง ๒ นี้ เป็นผู้ที่ลงลายมือชื่อร่วมกับ นางสาว      ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม นิสิตชั้นปีที่ ๔ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาการพัฒนาชุมน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ในกรณีการทุจริตดังกล่าว จนมีการตรวจสอบของ คสช. ปปท และ ปปง. รวมทั้ง สตง.ในขณะนี้
            ทั้งนี้ก่อนเข้าทำการให้ปากคำในช่วงบ่าย ทั้ง ๒ ในฐานะพยานฝ่ายผู้ร้องมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และพูดกับสื่อมวลชนเพียงว่าต้องการทำความจริงให้ปรากฏ และมั่นใจว่าความยุติธรรมและความถูกต้องนั้นมีอยู่จริง และยังคงมั่นใจว่า พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. นั้น จะสามารถเอาคนผิดที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยโรคเอดส์มาดำเนินคดีให้ได้ตามกฎหมายครบทุกคน ก่อนที่จะเดินทางเข้าพบกับคณะกรรมการสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น คอยอำนวยความสะดวก และห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ในการสอบสวนแต่อย่างใด
           ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บุคคลทั้ง ๒ ตามหมายเรียกของกรมการพัฒนาสังคมและสวัสดิการเข้าให้ปากคำครั้งนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ในช่วงปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ก่อนที่จะถูกนางพวงพะยอม จิตรคง ผู้อำนวยการศูนย์ฯ สั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่น เนื่องจากร่วมลงลายมือชื่อร่วมกับน้องแบม ในการเข้าร้องเรียนต่อเลขาธิการ คสช. จนเกิดการตรวจสอบการทุจริตดังกล่าวที่เกิดขึ้น และไม่ยอมร่วมกันกระทำความผิดตามที่อดีตผู้อำนวยการศูนย์ฯ แห่งนี้มีคำสั่งให้กระทำผิดจากกรณีการทุจริตดังกล่าว  แต่กลับถูกกระทรวง พม. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยไม่ร้ายแรง โดยระบุว่าบุคคลทั้ง ๒ นั้น ไม่ปฏิบัติตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการว่าด้วยการสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ.๒๕๕๒ ทำให้ในการเข้าให้ปากคำครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการสอบสวนตามที่ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. กำหนด จึงได้มีการนำเอกสารหลักฐานเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนในภาพรวม
          ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงแนวทางการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนฯ ในคดีดังกล่าว ที่เดินทางมาจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งได้รับคำตอบว่าจะมีการสรุปรายงานแจ้งให้กับอธิบดีกรมการพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้ทราบเท่านั้น


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๙๘ วันเสาร์ที่  ๒๑  -  วันพุธที่  ๒๕  เดือนเมษายน  พุทธศักราช  ๒๕๖๑


694 1345