29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

September 12,2018

เปิดตัวสถานีขนส่งอัจฉริยะ ค่าโดยสารเท่าเดิม เพิ่มเติมคือทันสมัยรวดเร็ว

        อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดตัวสถานีขนส่งอัจฉริยะ เชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนไว้ที่ปลายนิ้ว นำร่องที่ขอนแก่น ย้ำชัดค่าโดยสารเท่าเดิม แต่เพิ่มความทันสมัย และความรวดเร็ว ตอบโจทย์ไทยแลนด์ ๔.๐ ในการให้บริการนักเดินทางได้อย่างครอบคลุม

        เมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๑ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารขอนแก่นแห่งที่ ๓ ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการยกระดับความปลอด ภัยของนักท่องเที่ยวสถานีขนส่งอัจฉริยะ หรือ Smart Bus Terminal Plus (SBT+1) ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ด, สำนักงานขนส่งจังหวัดมหาสารคาม และสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อยกระดับการให้บริการของสถานีขนส่งในระดับภูมิภาคที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางที่สามารถตรวจสอบข้อมูล หรือเชื่อมต่อการเดินทางไว้ได้เพียงปลายนิ้วหือการตรวจสอบในด้านต่างๆ ของการเดินทางโดยรถโดยสารได้ด้วยโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนในรูปแบบต่างๆ ท่ามกลางความสนใจของผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารประจำทาง และนักเดินทางเข้าร่วมทดลองระบบการให้บริการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

        นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจัดเป็นการใช้บริการที่มากที่สุดของไทย โดยที่แต่ละวันจะมีนักเดินทางและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการด้วยรถยนต์โดยสารสาธารณะและรถโดยสารประจำทางเป็นจำนวนมาก และมากที่สุด เมื่อเทียบกับการเดินทางโดยรถไฟ,โดยเครื่องบิน หรือระบบขนส่งสาธารณะในประเภทอื่นๆ ซึ่งการยกระดับการให้บริการรูปแบบใหม่นี้นำร่องที่จังหวัดขอนแก่น และเชื่อมโยงครอบคลุมพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคอีสานตอนกลาง เป็นระบบการใช้งานนำร่องต้นแบบของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา สถานีขนส่งผู้โดยสารหลัก ๙๖ แห่งทั่วทั้งประเทศ กรมการขนส่งทางบกได้มีการติดตั้งระบบตรวจสอบข้อมูลการเดินรถแบบจอ LED แล้ว เพื่อให้ผู้โดยสารนั้นสามารถตรวจสอบตารางการเดินรถได้ในภาพรวม แต่การจัดทำโครงการ Smart Bus Terminal Plus นี้ ด้วยความร่วมมือในรูปแบประชารัฐ คือ การทำงานร่วมกับบริษัท ไอดีไดร์ฟ จำกัด ด้วยการนำระบบช่วยเหลือในการเดินทางตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

        “ระบบดังกล่าวจากนี้ไป จะเป็นเหมือนเลขาฯ ในการทำหน้าที่ช่วยเหลือเรื่องการเดินทาง วางแผนการเดินทาง รวมทั้งการตรวจสอบเส้นทางการเดินรถ จนนำไปสู่การบริหารเวลาอย่างแม่นยำ ที่ผ่านมารถโดยสารประจำทางทุกคันมีการติดตั้งระบบจีพีเอสและระบบฐานข้อมูลของรถ หรือ RFID วันนี้เราเอาระบบดังกล่าวมาต่อยอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวและนักเดินทาง สามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลรถโดยสารประจำทาทางทุกสาย หรือรถคันที่ตัวเองจะเดินทาง รู้เวลาการเข้าและออกสถานี รู้ชื่อคนขับ รู้ประเภทของรถ รู้หมายเลขทะเบียนรถและหมายเลขข้างรถ รู้ชานชาลาที่ทำการจอด โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ตู้ตรวจสอบอัตโนมัติแบบนาทีต่อนาที ซึ่งได้ทำการติดตั้งไว้ที่สถานีขนส่ง รวม ๑๒ แห่งใน ๔ จังหวัดภาคอีสานตอนกลาง รวมทั้งการตรวจสอบผ่านระบบแอพพลิเคชั่น Smart Bus Terminal Plus อย่างไรก็ดี ระบบดังกล่าวยังมีการเชื่อมโยงการเดินทางด้วยการตรวจสอบข้อมูลการเดินรถทั้งในเส้นทางระหว่างประเทศ เส้นทางเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค หรือแม้กระทั่งเชื่อมโยงกับการเดินทางด้วยเที่ยวบินพาณิชย์ และรถไฟได้อีกด้วย” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว

        นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่ออีกว่า ระบบดังกล่าวที่นำมาติดตั้งไว้ที่สถานีขนส่งทั้ง ๑๒ แห่งนี้ สามารถให้บริการแก่นักเดินทางและนักท่องเที่ยวได้แล้ว รวมทั้งการใช้งานผ่านระบบแอปพลิเคชันด้วย โดยที่ผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม หรือการเสียค่าใช้จ่ายในการขอรับบริการกับตู้ดังกล่าว ซึ่งระบบจะสั่งการและบริหารจัดการข้อมูลตรงกับสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น ขณะเดียวกันระบบดังกล่าวยังคงรวมถึงการติดตั้งเครื่องทดสอบสมรรถภาพร่างกายของคนขับรถ ที่แต่เดิมจะต้องการทำทดสอบสมรรถภาพคนขับกับเจ้าพนักงาน แต่ระบบนี้จะทำการตรวจสอบแบบยืนยันตัวบุคคลที่คนขับเมื่อเดินทางมาถึงสถานีขนส่งแล้ว จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนและใบขับขี่มาทำการตรวจสอบและยืนยันตัวเองกับเครื่อง จากนั้นจะทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ การตรวจสอบความพร้อมของคนขับในด้านต่างๆ อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการนำนวัตกรรมที่ผลิตและคิดค้นโดยคนไทยมาใช้งานในความเป็นเมืองอัจฉริยะแห่งนี้

 

 

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๒๔ วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ - วันอังคารที่ ๑๕ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑