26thApril

26thApril

26thApril

 

September 21,2018

ป.ป.ช.อ้างไม่กลัวนักการเมือง โกงสนามฟุตซอลกว่า ๖๐๐ คน พยายามจบทุกคดีใน ๒-๓ ปี

 

         ป.ป.ช.โคราชแถลงผลงาน พร้อมตอบคำถามกรณีทุจริตสนามฟุตซอลทั่วโคราช และขอให้ประชาชนมั่นใจ ป.ป.ช.ไม่ใช่เสือกระดาษ  หวังจะปิดทุกคดีภายใน ๒-๓ ปี

         เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๐๐ น. สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดแถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑ โดยมี นายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมและแถลง พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานและพนักงานของ ป.ป.ช. มีสื่อมวลชนเข้าร่วมกว่า ๒๐ คน นอกจากนี้ยังมีการมอบโล่เชิดชูเกียรติต้านทุจริตบุคคลต้นแบบโครงการ “STRONG-จิตพอเพียงต้าน การทุจริต” จำนวน ๓ คน ได้แก่ ๑.นางสาวปาณิสรา เปาวรางกูล รองผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลประชารัฐสามัคคี อำเภอสูงเนิน ๒.นางจารุประภา ปุราชะโก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑๑ ตำบลสีดา อำเภอสีดา ๓.นายจักริน เชิดฉาย ธุรกิจส่วนตัว เจ้าของ บจก.หมอยาพลาซ่า ซึ่งเมื่อประมาณสองปีก่อนนี้ นายจักริน เชิดฉาย ก็ได้มอบโล่ให้นายมงคล สาริสุต โดยระบุว่า เป็นข้าราชการผู้สุจริต

ผลการดำเนินงาน ป.ป.ช.

         นายมงคล สาริสุต เปิดเผยว่า “จากผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ ดำเนินงานโดยแบ่งตามภารกิจหลักดังนี้ ด้านการปราบปรามการทุจริต แบ่งออกเป็น ๒ เรื่องคือ ๑.เรื่องแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน จำนวน ๕๙๐ เรื่อง โดยอยู่ระหว่างดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน ๕๒๑ เรื่อง, ดำเนินการแล้วเสร็จ ๑๓๑ เรื่อง และเห็นชอบรอเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ๑๗ เรื่อง และ ๒.เรื่องที่ตั้งอนุกรรมการฯ หรือพนักงานไต่สวนข้อเท็จจริงจำนวน ๔๔ เรื่อง โดยดำเนินการแล้วเสร็จ ๑๕ เรื่อง, อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ๔ เรื่อง และแจ้งคำสั่งหรือแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ๒๕ เรื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชน ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดอาญาและวินัยของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมามีทั้งหมด ๗๒ คน”

         ด้านการตรวจสอบทรัพย์สินของคณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสมาชิกสภา มีจำนวนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้ ของคณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสมาชิกสภา รวม ๑,๑๙๑ เรื่อง ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึง ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ โดยตรวจสอบแล้วเสร็จเป็นปกติจำนวน ๒๐๓ ราย, ตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูลแล้ว ๑ ราย, มีการยื่นเท็จปกปิด ๔ ราย และตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก (ร่ำรวยผิดปกติ) ๓ ราย รวมทั้งสิ้นตรวจสอบไปแล้ว ๒๑๑ ราย คงเหลือ ๙๘๐ ราย นอกจากนี้ ยังมีผลการชี้มูลความผิดของผู้บริหารท้องถิ่น, รองผู้บริหารท้องถิ่น, ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และกรณีจงใจยื่นบัญชีฯ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบจำนวน ๑ รายคือ นายอำพร มณี    กรรณ์ นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง มีพฤติการณ์กระทำผิดจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้ และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบกรณีเข้ารับตำแหน่ง คดีหมายเลขแดงที่ อม ๑๔๙/๒๕๖๑ ห้ามดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา ๕ ปี จำคุก ๑ เดือน รอลงอาญา ๑ ปี และปรับ ๔,๐๐๐ บาท

         “ด้านการป้องกันการทุจริต โดยจะมีการจัดโครงการ หรือการรณรงค์ต่างๆ เช่น โครงการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ กิจกรรมการประกวดคำขวัญ ภายใต้แนวคิด “Zero Tolerance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต” โดยคำขวัญที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในปี พ.ศ.๒๕๖๐ คือ “คนโคราชร่วมใจ ต้านภัยคอร์รัปชั่น ไม่หวั่นอำนาจ ปราศจากคนโกง” ของ นายนิรุช ดำหนูไทย, โครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดซื้อจัดจ้างให้กับบุคลากรทางการศึกษา, โครงการเพิ่มประสิทธิภาพเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในด้านการป้องกันการทุจริต, โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเครือข่ายเพื่อต่อต้านการทุจริต, โครงการ STRONG–จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดนครราชสีมา และโครงการผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์สร้างกระแสต่อต้านทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา” นายมงคล สาริสุต                               ผู้อำนวยการฯ กล่าว

คดีสนามฟุตซอลไปถึงไหน?

         หลังจากนั้น นายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวสอบถามประเด็นข้อสงสัยต่างๆ โดยเริ่มจากคดีทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล ซึ่งนายมงคล สาริสุต ชี้แจงว่า คดีสนามฟุตซอลเกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๕ เป็นเรื่องของส่วนกลางเป็นคนดำเนินการ แต่เหตุเกิดขึ้นที่โคราชจึงต้องใช้โคราชเป็นตัวอย่าง โดยขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว ในส่วนของการจะสาวเรื่องไปถึงตัวนักการเมือง 

         “ผมบอกได้เพียงว่า เราจะต้องมีหลักฐานชัดเจนในการเอาผิด นอกจากนี้ คดีสนามฟุตซอลไม่ได้มีแค่ที่โคราช แต่ยังมีทั่วภาคอีสานรวม ๑๗ จังหวัด แต่ที่โคราชเราเริ่มตรวจสอบเป็นที่แรกๆ จึงมีน้อยกว่าที่จังหวัดอื่น และในโคราชก็มีผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่ในกระบวนการการทุจริตกว่า ๖๐๐ คน ดังนั้นเราจึงต้องทำงานอย่างรอบคอบ อาจจะใช้เวลานานในการตรวจสอบทั้งหมด เนื่องด้วยทีมตรวจสอบของ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา มีเพียง ๗ คนเท่านั้น และผมตัด ๓ คนไปทำคดีสนามฟุตซอลโดยเฉพาะ และผมยืนยันเลยว่าผมขอเวลาอย่างน้อย ๒ ปีในการทำงาน ปิดทุกคดีที่เข้ามา อย่างมากก็เพิ่มไปอีก ๑ ปี” นายมงคล กล่าวย้ำ 

นักการเมืองล้มคดีไม่ได้

         นายมงคล กล่าวอีกว่า “นักการเมืองคนไหนก็วิ่งเต้นล้มคดีไม่ได้ ป.ป.ช.โคราชไม่รู้จักหรอกว่าพรรคการเมืองไหนเป็นพรรคไหน พวกเราทำคดีอย่างเดียว และที่สำคัญถ้าผิดจริงเราก็แจ้งข้อหาหมด ที่สำคัญเรามีกรรมการ ป.ป.ช.อยู่ ๙ ท่าน และมาจากทุกทิศทุกทาง ผมมั่นใจในองค์กรของผม แม้จะมีคนมาพบผมจริงแต่ก็ไม่สามารถล้มคดีได้ ไม่เคยมีใครมาสั่งพนักงาน ป.ป.ช.ได้แน่นอน และมั่นใจได้เลยว่าพวกเราไม่ใช่เสือกระดาษ แม้แต่เพื่อนของผมที่ทำผิด ผมยังชี้มูลความจริงได้  ถึงแม้ว่าคดีสนามฟุตซอลจะมีนักการเมืองเข้ามามีเอี่ยวด้วย แต่ถ้าพิสูจน์แล้วว่าผิดจริง ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”

         “จากการตรวจสอบการทุจริตทั้งหมดในจังหวัดนครราชสีมา คดีที่เกี่ยวกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นมีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๙๐ ของคดีทั้งหมด แต่บางแห่งเมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าไม่ได้ผิดจริง บางแห่งทำผิดระเบียบราชการถือว่ายังไม่ทำผิดกฎหมาย ในส่วนของผู้ที่ถูกร้องเรียนแต่ไม่มีความผิดจริง ก็คงทำได้เพียงต้องยอมรับ เพราะเมื่อเรามาทำงานในระดับผู้บริหารแล้วจะต้องมีเรื่องแบบนี้เป็นธรรมดา” นายมงคล สาริสุต กล่าวในตอนท้าย

ยุติการทุจริตในโคราช

         นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดอาญาและวินัยของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครราช สีมา ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ถึง ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ รวม ๑๑ เรื่อง ดังนี้ ๑.เรื่องจัดซื้อจัดจ้าง มี ๓ แห่ง คือ อบต.หมูสี อ.ปากช่อง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๑ คน ผิดวินัยไม่ร้ายแรง, อบต.ขามเฒ่า อ.โนนสูง เป็นผู้บริหาร อบต. ๒ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๒ คน ผิดวินัยไม่ร้ายแรง  และ ทต.โคกสูง อ.เมือง เป็นผู้บริหารเทศบาล ๑ คน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ๑ คน และเอกชน ๑ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง, ๒.การจัดซื้อจัดจ้างรถ มี ๑ แห่ง คือ อบต.ครบุรี เป็นผู้บริหาร อบต. ๑ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง, ๓.การบริหารงาน มี ๑ แห่ง คือ อบต.พญาเย็น อ.ปากช่อง, ๔.การเรียกรับ มี ๑ แห่ง คือ อบต.หมื่นไวย อ.เมือง เป็นผู้บริหาร อบต. ๑ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง ๕.ยักยอกทรัพย์ มี ๑ แห่ง คือ ธนาคารออมสิน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๑ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง, ๖.ผลประโยชน์ทับซ้อน มี ๓ แห่ง คือ ทต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง, อบต.โนนตูม อ.ชุมพวง เป็นผู้บริหาร อบต. ๑ คน และเอกชน ๓ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง และ อบต.(ไม่เอ่ยนาม) ใน อ.ห้วยแถลง เป็นผู้บริหาร อบต. ๑ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๑ คน ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ๗.ผิดมาตรา ๑๐๓ มี ๑ แห่ง คือ กรมประมง เป็นหัวหน้าส่วนราชการ ๑ คน ผิดอาญาและวินัยร้ายแรง, ๘.ยักยอกน้ำมันหลวง มี ๑ แห่ง คือ อบต.จันทึก อ.ปากช่อง เป็นผู้บริหาร อบต. ๑ คน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๑ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง ๙.ศึกษาดูงาน มี ๒ แห่ง คือ อบต.ตะเคียน อ.ปากช่อง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๓๖ คน ผิดวินัยไม่ร้ายแรง และ ทต.หัวทะเล อ.เมือง เป็นผู้บริหารเทศบาล ๑ คน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ๔ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๒ คน ผิดวินัยไม่ร้ายแรง, ๑๐.จัดฝึกอบรม มี ๑ แห่ง คือ อบต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว เป็นผู้บริหาร อบต. ๑ คน เจ้าหน้าที่ของรัฐ ๒ คน เอกชน ๑ คน ผิดอาญาหรือวินัยร้ายแรง และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ๕ คน ผิดวินัยไม่ร้ายแรง รวมทั้งสิ้น ๗๒ คน

         ทั้งนี้ กรณีที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ การชี้มูลความผิดนายสุวัฒน์ พื้นทะเล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลหัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา พร้อมปลัดเทศบาล ผู้อำนวยการ กองคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีศึกษาดูงานนอกสถานที่ที่ จ.หนองคาย เป็นเท็จ โดย ป.ป.ช.เสนอให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาลงโทษทางวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออกจากตำแหน่ง

 

 

 

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๒๕ วันศุกร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๖ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ 

 

693 1346