20thApril

20thApril

20thApril

 

September 21,2018

ระเบิดศึก‘ตะกร้อคิงส์คัพ’ ไทยมั่นใจแชมป์สมัยที่ ๓๑

          สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย แถลงความพร้อมแข่งขัน “ตะกร้อชิงแชมป์โลก” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว“คิงส์คัพ” ครั้งที่ ๓๓ ระหว่างวันที่ ๒๓-๓๐ กันยายนนี้ ที่เทอร์มินอล ๒๑ โคราช ทัพลูกหวายไทยมั่นใจคว้าแชมป์สมัยที่ ๓๑ แฟนกีฬาที่สนใจเข้าชมฟรี 

          เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑ ที่บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าเทอร์มินอล ๒๑ โคราช นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน พร้อมด้วย นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ เลขานุการคณะกรรมการจัดการแข่งขัน พันเอกวิจิตร เสือคง ผู้บังคับการกองพันซ่อมบำรุงที่ ๒๒ กองบัญชาการช่วยรบที่ ๒ นายธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้แทนบริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด และนายวิทยา อภินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล ๒๑ โคราช รวมทั้ง ๔ นักเซปักตะกร้อทีมชาติไทย ชุดคว้า ๔ เหรียญทองในเอเชี่ยนเกมส์ ประกอบด้วย พรชัย เค้าแก้ว, ภัทรพงษ์ ยุพดี, สมฤดี ปรือปรัก และนิภาถรณี สลุบผล ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “ตะกร้อชิงแชมป์โลก” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คิงส์คัพ” ครั้งที่ ๓๓ ประจำปี ๒๕๖๑ ระหว่างวันที่ ๒๓-๓๐ กันยายนนี้  

          นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในนามตัวแทนชาวโคราช จังหวัดนครราชสีมา รู้สึกปลื้มปิติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางศูนย์การค้าเทอร์มินอล ๒๑ โคราช ได้จัดการแข่งขัน “ตะกร้อชิงแชมป์โลก” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คิงส์คัพ” ครั้งที่ ๓๓ ประจำปี ๒๕๖๑ มาที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นการยกระดับการจัดการแข่งขันกีฬาในจังหวัดก้าวสู่ระดับโลก และทางจังหวัดเองเชื่อมั่นว่า ศูนย์การค้าฯ แห่งนี้มีความพร้อมทั้งด้านสถานที่การจัดงาน ระบบรักษาความปลอดภัย ร่วมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกด้าน ที่จะทำให้ทีมงานนักกีฬา และผู้เข้าร่วมงาน ได้รับความประทับใจอย่างแน่นอน ในส่วนของจังหวัดยินดีให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือเต็มที่เช่นกัน

          นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ เลขานุการคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ทางจังหวัดนครราชสีมารับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันตะกร้อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ครั้งที่ ๓๓ ประจำปี ๒๕๖๑ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มาจัดการแข่งขันที่จังหวัดนครราชสีมา ในครั้งนี้มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีความพร้อมในทุกด้าน ดังนั้นถ้วยพระราชทานต้องอยู่ในประเทศไทย และทุกคนที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องทีม ตั้งแต่คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ผู้จัดการทีม, ผู้ฝึกสอน และนักกีฬาต้องผนึกกำลัง และสู้อย่างเต็มความสามารถ การทำงานของคณะกรรมการจัดการแข่งขันจังหวัดนครราชสีมา จะทำให้การแข่งขันในครั้งนี้เกิดความประทับใจให้กับสมาชิกสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ การแข่งขันครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น ๑๐ รายการ ประกอบด้วย ทีมชุดชาย ชิงถ้วยพระราชทานรัชกาลที่ ๑๐ ซึ่งไทยเป็นแชมป์มา ๓๐ สมัย, ทีมชุดหญิง ไทยเป็นแชมป์ติดต่อกัน ๒๐ สมัย, คู่ชาย, คู่หญิง, ทีมเดี่ยวชาย, ทีมเดี่ยวหญิง, ๔ คนชาย, ๔ คนหญิง, ตะกร้อลอดห่วงสากลชาย และตะกร้อลอดห่วงสากลหญิง โดยมีนักกีฬา ๓๐ ชาติเข้าร่วมแข่งขัน ทีมตะกร้อชายและหญิงทีมชาติไทย เลือกส่งเข้าแข่งขัน ๖ ประเภท ประกอบด้วย ทีมชุดชายและหญิง ตะกร้อลอดห่วงสากลชายและหญิง และตะกร้อ ๔ คน ชายและหญิง โดยยึดนักกีฬาจากชุดเอเชี่ยนเกมส์เหมือนเดิม

          นายวิทยา อภินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล ๒๑ โคราช กล่าวเสริมว่า ในส่วนของศูนย์การค้าฯ เราเองมั่นใจว่า จังหวัดนครราชสีมามีศักยภาพมากพอที่จะรองรับการจัดงานในระดับโลก เราจึงได้ปรึกษากับทางสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย และจัดให้มีการแข่งขันตะกร้อชิงแชมป์โลก “คิงส์คัพ” ครั้งที่ ๓๓ ขึ้นที่นี่เป็นครั้งแรกในโคราช และเทอร์มินอล ๒๑ โคราช มีความพร้อมที่จะเป็นสนามจัดการแข่งขัน สนามแห่งนี้สามารถรองรับกองเชียร์ได้ถึง ๕,๐๐๐ ที่นั่ง พร้อมห้องรับรอง ห้องพักนักกีฬาจากทุกชาติ และถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีของเยาวชน และประชาชนทั่วไป ที่มีความสนใจในกีฬาตะกร้อจะได้ร่วมเชียร์ พร้อมให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยถึงขอบสนามฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จะแข่งระหว่างวันที่ ๒๓-๓๐ กันยายนนี้ ที่เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น ๔ จึงขอเชิญชาวโคราชมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี ต้อนรับนักกีฬาจากทุกชาติด้วยความอบอุ่นและประทับใจ

          พรชัย เค้าแก้ว นักเซปักตะกร้อทีมชาติไทย ที่เพิ่งคว้า ๒ เหรียญทองในเอเชี่ยนเกมส์ ๒๐๑๘ ที่อินโดนีเซีย และทำสถิติเก็บถึง ๑๐ เหรียญทองในเอเชียนเกมส์ จาก ๕ ครั้งที่ลงแข่งขัน เปิดเผยว่า หลังกลับมาจากเอเชียนเกมส์ ทัพตะกร้อทีมชาติไทย เตรียมทีมต่อเนื่อง ทำให้สภาพร่างกายไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยปีนี้ทีมชาย ส่งลงชิงชัย ๒ ประเภท คือทีมชุด ซึ่งเป็นการชิงถ้วยพระราชทาน และประเภท ๔ คนชาย ส่วนตัวลงรับใช้ชาติในคิงส์คัพมา ๑๖ ครั้งไม่เคยเสียแชมป์ให้ชาติใด และมั่นใจว่าครั้งนี้จะรักษาถ้วยพระราชทานของในหลวงเอาไว้ได้เป็นครั้งที่ ๑๗ อย่างแน่นอน ฝากแฟนกีฬาชาวไทยเข้ามาเป็นกำลังใจเยอะๆ รับรองสนุกอย่างแน่นอน

 

 

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๒๖ วันศุกร์ที่ ๒๑ - วันพุธที่ ๒๕ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ 

 

698 1347