‘สุวัจน์’ ลั่นฆ้องเปิดศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนาสีคิ้ว เดินตามรอย ‘น้าชาติ’ ดึงเศรษฐกิจยุคทองกลับมา เขต ๓ ระอุเจอแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ หลังมีกระแสข่าวส่ง ‘สมบัติ กาญจนวัฒนา’ ลงแทน ‘ประเสริฐ บุญชัยสุข’ แต่จำต้องวางตัวไว้เหมือนเดิม เพราะเพื่อไทยส่ง “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ซ้ำภูมิใจไทยยังส่ง ‘รักชาติ’ ลงเป็นตัวแปร

          เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา, นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน, นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม และพลเอกฐิติวัจน์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ร่วมทำพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนาประจําอําเภอสีคิ้ว ที่บ้านเลขที่ ๒๓๔ บ้านมิตรภาพ หมู่ ๑ ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค เช่น นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, นายอุทัย มิ่งขวัญ รองนายก อบจ.นครราชสีมา, นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ประธานสภา อบจ.นครราช สีมา, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตส.ส., นายพงษ์พิช รุ่งเป้า อดีตส.ส., นายอุทัย หวังอ้อมกลาง อดีต ผอ.โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย, ดร.สิทธิชัย พุฒกลาง อดีต ผอ.ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต ๑๑ จังหวัดนครราชสีมา, ดร.สำเร็จ วงศ์ศักดา อดีต ผอ.วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ, ทนายประสิทธิ์ ทองนาเมือง, นายอุดม ชัยศรี และ นายเกริกฤทธิ์ ลันไธสง ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมรับฟังนโยบายและมอบดอกกุหลาบสีแดงสดมากกว่า ๕๐๐ คน

‘ชาติพัฒนา’ เปิดสำนักงานสีคิ้ว

          บรรยากาศภายในงานมีพิธีทำบุญเลี้ยงพระเพื่อความสิริมงคล โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์ ๙ รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพล และถวายสังฆทาน เนื่องในโอกาสเปิดศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนาในพื้นที่เขต ๓ พร้อมตั้งจุดรับสมัครสมาชิกใหม่ และลั่นฆ้องเปิดสาขาอย่างเป็นทางการ  

          นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า อำเภอสีคิ้ว ถือเป็นเมืองเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองนครราชสีมาและมีความสำคัญมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ดังคำขวัญประจำอำเภอ “นครจันทึก จารึกภาพ ๔,๐๐๐ ปี สีเขี้ยวต้นตำนาน คู่บ้านลำตะคอง” พรรคชาติพัฒนาจึงพร้อมที่จะพัฒนา อ.สีคิ้ว ให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป โดยจัดตั้งศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนาประจำ อ.สีคิ้ว เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางรับเรื่องราวร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชน ศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนาประจําอําเภอสีคิ้ว จึงเป็นหัวใจสําคัญของพรรคการเมือง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการที่จะรับฟังปัญหาความทุกข์ยาก ความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนไปสู่การแก้ไขในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ปัญหาและความเดือดร้อนต่างๆ

          “ซึ่งพรรคชาติพัฒนายึดสโลแกน No Prolem คือ “พรรคชาติพัฒนา ไม่มีปัญหา” เป็นคำพูดของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ความหมายคือ ๑.พรรคชาติพัฒนาจะทำงานการเมืองที่ไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศ ไม่ทะเลาะกับใคร เดินสายกลางเป็นมิตรทุกฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนอยากเห็นการเมืองที่ไม่ทะเลาะกัน ๒.พรรคชาติพัฒนา No Problem หมายความว่า ประเทศชาติมีปัญหา มีเรื่องอะไร เรื่องการเกษตร เรื่องความยากจน พรรคชาติพัฒนา มีแนวทางแก้ไขปัญหา เหมือนที่ท่านชาติชาย แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาต่างๆ อย่างชัดเจน ซึ่งพลเอกชาติชายเคยแปรสนามรบเป็นสนามการค้า ทำให้อีสานเป็นประตูสู่อินโดจีน ให้โคราชเป็นประตูสู่อีสาน อีสานเป็นประตูสู่อินโดจีน ถือเป็นยุคทองเศรษฐกิจที่มีค่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP ถึง ๑๐% เป็นประเทศเดียวในอาเชียนที่ GDP โต ๑๐% เป็นเวลา ๓ ปีซ้อน” นายสุวัจน์ กล่าวย้ำ

          นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคของชาวโคราช ต้นกำเนิดมาจากพรรคปวงชนชาวไทย ของพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก บิดาของพลเอกฐิติวัจน์ กำลังเอก รองหัวหน้าพรรคฯ หลังจากนั้นปี ๒๕๓๕ มีการเปลี่ยนชื่อพรรคมาเป็นพรรคชาติพัฒนา โดยมีพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคนแรก ซึ่งพลเอกชาติชายเริ่มพัฒนาถนนมิตรภาพจากสระบุรีมาโคราชจาก ๒ เลนเพิ่มเป็น ๔ เลน เศรษฐกิจยุคนั้นมีแต่ความเจริญ เพราะพลเอกชาติชาย พูดเสมอว่า No Problem ไม่มีปัญหา การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจจะไม่มีปัญหา ซึ่งสร้างความเจริญให้กับชาวโคราชมากมาย โคราชเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญเรื่องของเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนาจึงอยากจะพัฒนาเมืองโคราชให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น การเลือกตั้งครั้งนี้เขตเลือกตั้งที่ ๓ กินพื้นที่มาถึงอำเภสีคิ้ว พรรคจึงคิดว่าจะนำใครมารับใช้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอสีคิ้วที่เหมาะที่สุด ท่านประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีกระทรวงอุสาหกรรม เจ้าของพื้นที่เขต ๓ อำเภอสูงเนินน่าจะรู้ปัญหาของชาวอำเภอสีคิ้วเป็นอย่างดี เพราะมีพื้นที่ติดต่อกัน

          ด้านนายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต ๓ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจํานวน ๑๔ คน เป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น ๑๔ เขตเลือกตั้ง ซึ่งศูนย์ประสานงานแห่งนี้ อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ ๓ ประกอบด้วย อําเภอสูงเนิน อําเภอขามทะเลสอ อําเภอสีคิ้ว (เฉพาะตําบลลาดบัวขาว, ตําบลหนองน้ำใส, ตําบลคลองไผ่, ตําบล        มิตรภาพ, ตําบลหนองหญ้าขาว และตําบลสีคิ้ว) แต่เดิมเขตเลือกตั้งที่ ๓ จังหวัดนครราชสีมาจะมีเพียง อำเภอเมือง อำเภอขามทะเลสอ และอำเภอสูงเนิน แต่เมื่อกกต.ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่แล้วตัดอำเภอเมืองทิ้งไปแล้วเอาอำเภอสีคิ้ว (เฉพาะ ๖ ตำบล) เข้ามาแทน ทำให้การบริหารจัดการของพรรคต้องปรับเปลี่ยนไป ซึ่งตนมีความจำนงจะลงสมัครเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ ๓ แต่ต้องรอเรื่องการสรรหาหรือทำไพรมารีโหวตภายในพรรคก่อนว่า ผู้ใดมีสิทธิลงเป็นตัวแทนของพรรคตามกฎหมายการเลือกตั้ง

          ส่วนจากการสอบถามประชาชนที่มาสมัครสมาชิกพรรคชาติพัฒนา ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการให้แก้ปัญหาเรื่องของน้ำทำการเกษตรเป็นลำดับแรก หากมีการแก้ปัญหาเรื่องของระบบน้ำเพื่อการเกษตรอย่างจริงจัง ประชาชนสามารถประกอบอาชีพมีรายได้เลี้ยงชีพพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ต้องไปทำมาหากินที่เมืองหลวง นี่คือปัญหาของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาต้องการ

‘ภูมิใจไทย’ ส่ง ‘สจ.ดุ่ย’ ลุยเขต ๓

          เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่โรงพยาบาลสูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ หรือ “สจ.ดุ่ย” อดีตนายกอบจ.นครราขสีมา และส.อบจ.นครราชสีมา เขต อ.สูงเนิน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต ๓ นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนออกเดินพบปะอาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน (อสม.) และบุคลากรสังกัดหน่วยงานสาธารณสุข รวมทั้งประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมผนึกกำลังสร้างสรรค์อำเภอสูงเนินสุขภาวะ เพื่อประชาสัมพันธ์แนะนำตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เขต ๓ พร้อมสอบถามปัญหาและความต้องการ

          นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ภูมิใจไทย เขต ๓ เปิดเผยว่า การจัดแบ่งเขตเลือกตั้งที่ ๓ โดยตัด อ.เมือง ออก แล้วนำ ๖ ตำบล ของ อ.สีคิ้ว ประกอบด้วย ต.คลองไผ่ ต.หนองน้ำใส ต.หนองหญ้าขาว ต.มิตรภาพ ต.ลาดบัวขาว และต.สีคิ้ว มารวมกับ อ.ขามทะเลสอ และ อ.สูงเนิน ประกอบกับคู่แข่งมีดีกรีเป็นอดีตรัฐมนตรี ๒ คน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนพื้นที่เลือกตั้งกว่าร้อยละ ๕๐ จึงจัดวางแผนรณรงค์หาเสียง นัดพบปะแกนนำและประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ ๓ รวม ๒๒ ตำบล ตั้งแต่เช้าถึงเย็นต่อเนื่องทุกวัน

          “จากการรับฟังปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเรื่องปากท้องเศรษฐกิจซบเซา เคราะห์ซ้ำกรรมชัดช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรเผชิญภัยแล้งช่วงสุดท้าย ส่งผลให้ผลผลิตไม่ดีตามมาตรฐานเกิดปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ตนได้เก็บรวบรวมปัญหาเพื่อนำเสนอให้ทางพรรคพิจารณาหาแนวทางแก้ไข โดยชูสโลแกน “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” ผลักดันให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด สามารถเข้าถึงอำนาจการเมือง เน้นนำพาความเจริญสู่วิถีชีวิต แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง จะสามารถบรรเทาปัญหาได้เป็นรูปธรรม ปรากฏเสียงตอบรับดีมาก ชาวบ้านให้ความสนใจแนวทางนี้เป็นพิเศษ สร้างความมั่นใจให้กับทีมงานที่หมายมั่นขอเป็นตาอยู่โค่นแชมป์เก่าให้ได้” นายรักชาติ กล่าว

          อนึ่ง เขตเลือกตั้งที่ ๓ เดิมจะมีเพียง อำเภอเมือง อำเภอขามทะเลสอ และอำเภอสูงเนิน ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคชาติพัฒนาเดิม แต่เมื่อมีการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ตัดอำเภอเมืองออกแล้วเพิ่มอำเภอสีคิ้ว (เฉพาะตําบลลาดบัวขาว, ตําบลหนองน้ำใส, ตําบลคลองไผ่, ตําบลมิตรภาพ, ตําบลหนองหญ้าขาว และตําบลสีคิ้ว) เข้ามาแทน ทำให้พรรคชาติพัฒนาปรับยุทธศาสตร์ใหม่ เพราะเขตอำเภอสีคิ้วเดิมเป็นฐานเสียงหลักของพรรคเพื่อไทยที่มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นเจ้าของพื้นที่ จากเดิมที่พรรคชาติพัฒนาตั้งใจจะให้นายประเสริฐ บุญชัยสุข ไปลงสมัครระบบบัญชีรายชื่อ แล้วส่งนายสมบัติ กาญจนวัฒนา ประธานสภาอบจ.นครราชสีมา ลงสมัครในเขตนี้แทน แต่จำต้องเปลี่ยนกัน ให้นายสมบัติไปลงระบบบัญชีรายชื่อแทน แล้วให้นายประเสริฐ บุญชัยสุข มาลงสมัครในระบบเขตเหมือนเดิม เพราะต้องเจอคู่แข่งอย่างนายประเสริฐ จันทรรวงทอง พรรคเพื่อไทย และนายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ พรรคภูมิใจไทย

‘เทวัญ’นำ‘ธงชัย’ลุยตลาด

          สำหรับความเคลื่อนไหวในเขตเลือกตั้งที่ ๑ นั้น เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๖.๐๐ น. ที่ตลาดแม่กิมเฮง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมนายธงชัย (เบิร์ด) ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่พบผู้แทนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดและ      ผู้ประกอบธุรกิจละแวกลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ที่ร้านฐานิช เพื่อนั่งกินกาแฟพร้อมพูดคุยสอบถามภาพรวมเศรษฐกิจในท้องถิ่นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการแก้ไขปัญหา ส่วนใหญ่เป็นปัญหาปากท้องและร้องขอให้จัดระเบียบสถานที่จอดรถใหม่ นอกจากนี้ ยังเดินพบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายเทวัญ ที่เป็นขวัญใจของบรรดาแม่ค้าได้มาขอถ่ายเซลฟี่และบางรายได้มอบอาหารเครื่องดื่มพร้อมเสียงตะโกน “ชาติพัฒนาสู้ สู้” ตลอดเวลา

‘ธงชัย’ยืนยันไม่ได้มาเล่นๆ

          นายธงชัย ลืออดุลย์ ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส เขต ๑ นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา เปิดเผยว่า ตนเสนอตัวรับใช้ชาวโคราช อีกครั้งหลังเกษียณอายุราชการกว่า ๓ ปี ตัดสินใจสังกัดชาติพัฒนา ซึ่งเป็นพรรคเก่าแก่ของคนโคราช ขณะนี้ลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำเสนอผลงานที่เคยทำประโยชน์ไว้ในช่วงรับราชการในพื้นที่ จ.นครราช สีมา เป็นเวลาร่วม ๑๙ ปี จากการรับฟังปัญหา พบสภาวะเศรษฐกิจซบเซาต้องแก้ไขเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความคึกคัก ส่วนปัญหาการจับจ่ายใช้สอยในตลาดเงียบเหงา ส่วนหนึ่งเกิดจากไม่มีสถานที่จอดรถ ต้องอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวที่มากราบไหว้สักการะย่าโม โดยจัดพื้นที่จอดรถให้เพียงพอและเตรียมให้บริการด้านจราจร เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ส่วนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก สังคมตั้งคำถามสมัยดำรงตำแหน่งเป็นพ่อเมืองโคราช ทำไมไม่ทำ ขอชี้แจงว่า ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในเขตเมืองทั้ง ๗ จุด ต้องผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงระบบระบายน้ำทั้งหมดให้สอดคล้องกัน รวมทั้งต้องดำเนินการขุดลอกลำตะคองตั้งแต่ประตูระบายน้ำบ้านคนชุม ตำบลปรุใหญ่ ถึงบ้านข่อยงาม ต.หัวทะเล อ.เมือง ระยะทางประมาณ ๑๑ กิโลเมตร ต้องประสานหน่วยงานหลายแห่งและใช้ระยะเวลาดำเนินการนานพอสมควร
 “ผมเป็นผู้ว่าฯ โคราช ๑๖ เดือน ขอชี้แจงเหตุผลตัดสินใจเสนอตัวรับใช้พี่น้องชาวโคราชในสังกัดพรรคชาติพัฒนา การพัฒนาเมืองโคราชครั้งนี้ ผมต้องตั้งใจทำอย่างเต็มที่ สุดกำลัง แต่บริบทต้องเปลี่ยนจากข้าราชการเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งสามารถมีอำนาจบทบาทในการตัดสินใจ โดยนำเสนอผลักดันโครงการต่างๆ ที่พัฒนาเมืองโคราชให้เจริญรุ่งเรืองและมีความตั้งใจจริง หากเสนอตัวเข้ามาสมัคร ส.ส. เพื่อความสนุก ขออยู่เฉยๆ ดีกว่า รวมทั้งมีความเสี่ยงต้องรับผิดชอบต่อความสำเร็จความคาดหวังของพี่น้องประชาชน พรรคชาติพัฒนาฝากความหวังให้ผมช่วยแก้ไขปัญหาเมืองโคราช แต่จะตอบสนองความคาดหวังมากน้อยเพียงใด ต้องประเมินสถานการณ์หลังการเลือกตั้งอีกครั้ง” นายธงชัย กล่าว

ชพน.ลุยแดนใต้ กระแสดีเกินคาด

          ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า กระแสตอบรับจากประชาชนทั่วประเทศ อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี การเดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่หาดใหญ่และปาดังเดซาร์ ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ จนรู้สึกได้ว่า พรรคชาติพัฒนา ไม่เคยมีผู้แทนราษฎรในเขตภาคใต้ แต่ปีนี้อาจมีโอกาส

          “พรรคชาติพัฒนา เป็นพรรคการเมืองเดินสายกลาง มีนักการเมืองที่ไม่มีปัญหาและไม่สร้างปัญหา ประชาชนคาดหวังไม่ต้องการให้การเมืองกลับไปสู่ยุคเก่าๆ ทุกคนต้องการความสร้างสรรค์ เลือกตั้งครั้งนี้เราส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต กว่า ๘๐% ประมาณ ๒๘๐ เขต ส่วนจังหวัดนครราชสีมา ส่งครบ ๑๔ เขต วางแผนออกเดินรณรงค์หาเสียงอย่างต่อเนื่อง จึงค่อนข้างมีความมั่นใจในทุกเขต เรามีหลากหลายเป้าหมาย เมื่อใกล้ช่วงเลือกตั้งน่าจะมีความคืบหน้าอีกครั้ง ชาติพัฒนาเป็นพรรคเก่าแก่ มีอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ รวมทั้งนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตหัวหน้าพรรคคนขยันทำผลงานให้มากมาย นอกจากนี้ พรรคชาติพัฒนา เป็นพรรคการเมืองขนาดกลางที่เรียบร้อย สร้างสรรค์   ต่อข้อถามว่า มีแนวทางจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ นายเทวัญ กล่าวว่า “ขณะนี้คำตอบยังอยู่ห่างไกล ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ทราบเลยพรรคใดจะมีเสียงข้างมาก” 

อุดรธานีส่งครบ ๘ เขต

          ในขณะที่เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๑ ที่โรงแรมการิน จังหวัดอุดรธานี พรรคชาติพัฒนาจัดประชุมสมาชิกพรรค เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรค การเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ บัญญัติไว้โดยมีสาระสำคัญคือ “ให้เขตเลือกตั้งในจังหวัดที่มิได้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่หรือสาขาพรรค หากมีสมาชิกซึ่งมีภูมิลำเนาในอยู่ในเขตเลือกตั้งเกินหนึ่งร้อยคน ให้พรรคการเมืองแต่งตั้งสมาชิกซึ่งมีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้งนั้น มาจากการเลือกของสมาชิก เป็นตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด

            ที่ประชุมมีมติเลือก ดร.ภพ สมศรีโหน่ง สมาชิกพรรคชาติพัฒนา จังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมดำเนินการเลือกตัวแทนพรรค และสมาชิกเห็นชอบเลือก นายธีรภัทร พรหมทะสาร สมาชิกพรรคชาติพัฒนา จังหวัดอุดรธานี เขตเลือกตั้งที่ ๑ เป็นตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และกำหนดสำนักงานที่ทำการพรรค เลขที่ ๕๒๗/๕ หมู่ ๗ ชุมชนโนนพิบูลย์ ถนนอุดรดุษฎี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี

นายธีรภัทร พรหมทะสาร ตัวแทนพรรคชาติพัฒนาประจำจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า เพื่อให้เป็นไปตามข้อบัญญัติของกฎหมาย จึงเชิญสมาชิกพรรคชาติพัฒนาจังหวัดอุดรธานี มาประชุม ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา ๓๕ แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๖๐ เพื่อให้พิจารณาเลือกตัวแทนพรรคชาติพัฒนาประจำจังหวัดอุดรธานี ขณะเดียวกันมีการวางตัวผู้สมัครลงครบทุกเขตเลือกตั้ง แต่ยังอยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด คงจะต้องรายงานการประชุมครั้งนี้ให้พรรครับทราบและรายงานให้ กกต.ทราบต่อไป

“พรรคชาติพัฒนา ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่เก่าแก่พรรคหนึ่งของการเมืองไทย โดยมีพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ ๑๗ และพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีต ส.ว.จังหวัดเลย เป็นผู้ก่อตั้ง มีนโยบายที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” เป็นนโยบายต่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน หลังมีการเจรจาร่วมระหว่างเขมร ๔ ฝ่ายเพื่อยุติการสู้รบ และพรรคชาติพัฒนาในวันนี้ ภายใต้การนำของ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ เป็นกุนซือใหญ่ได้วางหมากด้านกลยุทธ์ และยุทธศาสตร์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคนำนโยบาย เดินทางสายกลาง เสริมสร้างความปรองดอง แบบ NO Problem หันหน้าเข้าหากัน สร้างสรรค์เศรษฐกีจไทย จะเคียงข้างประชาชน และสร้างสรรค์ประเทศในสิ่งที่ดีต่อไป” นายธีรภัทร กล่าว

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๔๔ วันศุกร์ที่ ๒๑ - วันอังคารที่  ๒๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑