16thApril

16thApril

16thApril

 

May 22,2019

พร้อมขาย“ฮอนด้าแอคคอร์ด ใหม่”๓ รุ่น ‘TURBO EL-HYBRID-HYBRID TECH’ ตอกย้ำผู้นำแห่งยนตรกรรมยุคใหม่ไฮเทค

        “ฮอนด้า” พร้อมวางจำหน่ายฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชันที่ ๑๐ เป็นทางการ ทั้ง ๓ รุ่น TURBO EL, HYBRID และ HYBRID TECH ตอกย้ำผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมยุคใหม่ ทั้งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกและภายใน ผสมผสานความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัว 

        นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า แอคคอร์ด นับเป็นรถยนต์ที่เป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ๆ เข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านยอดขายใน D-segmentมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้การประกาศราคา พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ จะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดในภาพรวมให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง และฮอนด้า เชื่อมั่นว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ จะเป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมซีดานที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยทั้งขุมพลังการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ลงตัวกับดีไซน์สไตล์สปอร์ตและหรูหราสง่างามเหนือระดับ ซึ่งจะมาสร้างโลกบทใหม่แห่งยนตรกรรมที่ก้าวล้ำไปอีกขั้น”

        ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มาพร้อม ๒ ขุมพลัง การขับเคลื่อน ได้แก่ เครื่องยนต์ ๑.๕ ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด ๑๙๐ แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิด ๒๔๓ นิวตัน-เมตร จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังกว่าเครื่องยนต์ ๒.๔ ลิตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ ๑๖.๔ กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งดีกว่าเครื่องยนต์ขนาด ๒.๐ ลิตรในรุ่นเดิม โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย

        ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด ๒.๐ ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC ๔ สูบ ๑๖ วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง ๒ ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง ๒๑๕ แรงม้า สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ โดยระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง ๒๔.๔ กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง ๙๗ กรัม/กิโลเมตร

        นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ประกอบด้วย ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS), ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW) และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

        พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยระดับพรีเมียม อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่าน ขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM) ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) เป็นต้น
อีกขั้นของดีไซน์ภายนอกและภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตผสมผสานเอกลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมียมได้อย่างลงตัว พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย อาทิ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด ๗ นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด ๘ นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อApple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (WirelessCharger) เป็นต้น

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด ๔ สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล  (เมทัลลิก) มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร ๓ สี ได้แก่ สีไอวอรี่เบจ สีดำ และสีน้ำตาล (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) ซึ่งขึ้นอยู่กับสีตัวรถภายนอก โดยมีให้เลือก ๓ รุ่น ได้แก่ รุ่น HYBRID TECH ราคา ๑,๗๙๙,๐๐๐ บาท, รุ่น HYBRID ราคา ๑,๖๓๙,๐๐๐ บาท และรุ่น TURBO EL ราคา ๑,๔๗๕,๐๐๐ บาท

        ทั้งนี้ สามารถยกระดับความโดดเด่นและเพิ่มเติมความสปอร์ตเร้าใจในสไตล์ของตัวเองได้อีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งระดับพรีเมียม โมดูโล (Modulo) รอบคัน ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด ๓ แพ็กเกจ ได้แก่ ๑.Modulo Aero Supreme Package ราคา ๔๓,๙๐๐ บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ ๒ ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ ๒ ชิ้น สปอยเลอร์หลัง แบบดักเทล กระจังหน้าแบบสปอร์ต และคิ้วกันชนหลังโครเมียม ๒.      Modulo Aero Sport Package ราคา ๓๐,๙๐๐ บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ ๒ ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ ๒ ชิ้น และสปอยเลอร์หลัง แบบดักเทล และ ๓.Modulo Aero Smart Package ราคา ๒๒,๕๐๐ บาท ประกอบด้วยสเกิร์ตหน้า แบบ ๒ ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ ๒ ชิ้น

        สำหรับสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เมื่อจอง ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ รุ่น TURBO EL ตั้งแต่วันที่ ๑๖-๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ และรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม-๓๑ กรกฏาคม ๒๕๖๒ หรือเมื่อจองฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ รุ่น HYBRID หรือ HYBRID TECH ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม-๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๒ และรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม-๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ รับนาฬิกา Garmin (Garmin Smartwatch) Limited Edition รุ่น Forerunner ๖๔๕ Music สี Slate มูลค่า ๑๖,๙๙๐ บาท โดยบริษัทฯ จะจัดส่ง Garmin Smartwatch ผ่านทางผู้จำหน่ายที่ลูกค้ารับรถยนต์ ภายใน ๓๐ วันหลังเดือนที่รับรถยนต์ 

 


700 1347