28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

June 28,2019

‘อนาคตใหม่’เจาะท้องถิ่น ตั้งกลุ่ม‘มหานครสุรนารี’ ขยับลุยเทศบาล-อบจ.

พรรคอนาคตใหม่ ยึกลงพื้นที่ภาคอีสาน ประกาศส่งผู้สมัครชิงชัยการเมืองท้องถิ่น เล็ง ๒๐ จังหวัด จากทั่วประเทศ เน้นพื้นที่ยุทธศาสตร์ พรรคพร้อมดันลงแข่งขัน ด้าน ‘โคราช’ เดินหน้าประชุมลับ ตั้งกลุ่ม ‘มหานครสุรนารี’ เพื่อพัฒนาเมือง หวังกระแสอนาคตใหม่แรงในโคราช เป็นคะแนนเสียงชิงนายกอบจ. ด้านส.ส.สอบตก โดดลงเทศบาลนครฯ หวังล้มอำนาจเก่า

เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่ร้าน ID workspace ตรงข้ามโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา นายอุบล เอื้อศรี อดีต ส.ว.นครราชสีมา และอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดนครราชสีมา เชิญอดีตผู้บริหารเทศบาลนครนครราชสีมา ข้าราชการบำนาญ นักธุรกิจ นักวิชาการอิสระ และอดีตผู้สมัครการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่น ซึ่งมีความสนใจสนามการเมืองเทศบาลนครนครราชสีมา โดยจะมีการจัดการเลือกตั้งแทนตำแหน่งเดิมที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ ร่วมแสดงความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาและนำเสนอปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข

นายอุบล เอื้อศรี ประธานที่ปรึกษาฯ เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า จากกรณีที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ลงพื้นที่ภาคอีสาน ทั้งที่จังหวัดอุดรธานี และขอนแก่น พร้อมชูประเด็น ปัญหาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่ไม่มีอำนาจ ไม่มีงบประมาณ ต้องยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ ซึ่งนั่นก็คือทำให้อำนาจเป็นของท้องถิ่น ให้ท้องมีอำนาจในการจัดสรรตัวเอง ออกแบบผังเมืองด้วยตัวเอง เก็บภาษีด้วยตัวเอง ขีดเส้นป่าแบ่งที่ดินทำกินด้วยตัวเอง บริหารโรงเรียนบริหารโรงพยาบาลได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคจะส่งผู้สมัครลงสนามการเมืองท้องถิ่น แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นจังหวัดใดบ้างใน ๒๐ จังหวัดทั่วประเทศที่พรรคได้วางไว้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เจ้าหน้าที่ของพรรคลงพื้นที่มาให้ข้อมูลกับสาขาพรรคที่โคราชว่า ทางพรรคจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ. ๓ จังหวัดในภาคอีสาน แต่ยังไม่ระบุพื้นที่ที่ชัดเจน เพียงแต่ให้ทางสาขาพรรคได้เตรียมตัว ซึ่งตนได้มีการประชุมหารือกับกลุ่มบุคคลที่สนใจ และจัดตั้งกลุ่มมหานครสุรนารีขึ้นมา เพื่อร่วมพัฒนาเมืองโคราช และรับสมัครสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มโดยไม่กำหนดว่าจะต้องสังกัดพรรคการเมืองใด

“ล่าสุดมีหลายกลุ่มที่ให้ความสนใจจะลงสมัครเพื่อชิงตำแหน่งนายก อบจ.โคราช โดยแต่ละกลุ่มต้องมีทีมงานครบทั้ง ๔๘ คน ๔๘ เขต และต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น ส่วนการตัดสินใจขึ้นอยู่ที่พรรคอนาคตใหม่ สาขาพรรคไม่มีอำนาจในการตัดสินใจว่า จะเสนอชื่อใครลงสมัคร ขณะนี้มีประมาณ ๔ กลุ่มที่พร้อมจะยื่นใบสมัคร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ รอให้ถึงวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ จะเป็นวันเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการของสาขาพรรคที่โคราช หรือกลุ่มใดจะยื่นผ่านไปทางพรรคเลยก็ได้ พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้กำหนดว่าต้องผ่านตัวแทน เพราะพรรคอนาคตใหม่เปิดแบบอิสระเสรี เพียงแค่ส่งข้อมูลส่วนตัว นโยบาย และอดุมการณ์ที่เหลือพรรคจะเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมด ซึ่งอาจจะดูจากความประพฤติส่วนตัวเป็นหลัก” นายอุบล กล่าว

นายอุบล เอื้อศรี เปิดเผยอีกว่า จากผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ๑๔ เขต เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ จังหวัดนครราชสีมา พรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนเสียงกว่า ๑๖๐,๐๐ คะแนน แต่น่าเสียดายพรรคไม่ได้ ส.ส.เขต จุดนี้อาจจะทำให้เราเสียเปรียบทางด้านจังหวัดขอนแก่นที่ได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต ๑ คน แต่อย่างไรเราก็สู้เต็มที่และเตรียมผู้สมัครให้พร้อม เพราะพรรคใหญ่ๆ อย่าง พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และเพื่อไทย ต้องส่งผู้สมัครลงมาชิงตำแหน่งด้วยแน่นอน

ทำลายการผูกขาดเทศบาล

อดีต ส.ว.อุบล เอื้อศรี เปิดเผยอีกว่า บริบทของเทศบาลนครนครราชสีมา มีขนาดพื้นที่ ๓๗.๕ ตารางกิโลเมตร จัดแบ่งเป็น ๙๐ ชุมชนและมีงบบริหารจัดการเฉลี่ยปีละ ๑,๖๐๐ ล้านบาท โดยมีงบมากที่สุดในภาคอีสานและเป็นลำดับที่ ๔ ของประเทศไทย เป็นเวลากว่า ๑๐ ปี ถูกผูกขาดด้วยกลุ่มการเมืองเดิม เมืองโคราชจึงไม่ได้พัฒนาเท่าที่ควรและมีปัญหาหลากหลายมิติ หากเปรียบเทียบกันกับเทศบาลนครขอนแก่น   ที่มีงบน้อยกว่าหลายร้อยล้านบาท แต่กลับพัฒนาเมืองดีกว่าชัดเจน แม้นอนาคตใหม่ยังไม่ได้ส่งใครลงสมัครและแสดงท่าทีสนใจต่อสนามเลือกตั้งเทศบาลนครนครราชสีมา ด้วยความเป็นห่วงบ้านเมือง ตนเชิญผู้ที่หวังดีและสนใจอยากเปลี่ยนเมืองโคราชมาพบปะพูดคุยกัน นำเสนอเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งนี้วาระการดำรงตำแหน่งผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม ๓๓๔ แห่ง ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาลนคร (ทน.) เทศบาลเมือง (ทม.) เทศบาลตำบล (ทต.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ได้สิ้นสุดแล้ว คาดจะมีการจัดการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ ผู้ที่สนใจสนามการเมืองทุกระดับและต้องการลงสมัครในฐานกลุ่มอนาคตใหม่ให้ทำการบ้าน ลงพื้นที่สำรวจปัญหาและเตรียมแนวทางการพัฒนา อนาคตใหม่จะเปิดรับสมัคร เพื่อคัดกรองผู้ที่มีคุณสมบัติและมีอุดมการณ์ในการพัฒนาท้องถิ่นที่สำคัญต้องยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและไม่ซื้อเสียงอย่างเด็ดขาด


สำหรับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ คะแนนเสียง ส.ส.แบบแบ่งเขต ในจังหวัดนครราชสีมา พรรคอนาคตใหม่ มีคะแนนเสียงรวม ๑๖๙,๕๒๐ คะแนน อยู่อันดับที่ ๔ โดยมี พลังประชารัฐ เป็นอันดับที่ ๑ มี ๓๘๘,๒๕๒ คะแนน, ภูมิใจไทย อันดับที่ ๒ มี ๓๔๒,๖๑๐ คะแนน และ เพื่อไทย อันดับที่ ๓ มี ๓๒๑,๑๗๒ คะแนน

‘เสี่ยจิว’ พร้อมชิงนายกอบจ.

นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ หรือเสี่ยจิว แกนนำกลุ่มคนโคราชเลือดใหม่ อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต ๑๑ จังหวัดนครราชสีมา พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) มาร่วมกิจกรรมแสดงความคิดเห็นด้วย กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนและหาข้อมูลน่าจะมีหลายพรรคการเมืองสนใจสนามการเมืองท้องถิ่น ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวการพัฒนาเมืองโคราชกับกลุ่มผู้บริหารอนาคตใหม่โคราช สำหรับบทบาททางการเมืองของตนมีความสนใจตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา โดยลงสมัครในนามกลุ่มโคราชเลือดใหม่ ส่วนจะมีพรรคการเมืองใดสนับสนุนยังไม่ขอเปิดเผย

“แนวคิดพัฒนาเมืองคือ พลิกฟื้นสนามบินโคราช นำไปสู่สนามบินนานาชาติและเตรียมแผนฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจควบคู่กับการยกระดับพัฒนาการเรียน การสอนโรงเรียนมัธยม ๕๘ แห่ง ที่สังกัด อบจ.นครราชสีมา ส่วนรายละเอียดข้อปลีกย่อยจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง” นายวัฒนะชัย กล่าว  

“อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการเมืองโคราชยึดโยงกับกลุ่มเดิมๆ นักการเมืองหน้าใหม่ที่เป็นลูกหลานโคราช จึงไม่มีโอกาสมีบทบาทการเมืองมากนัก ขณะนี้ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง ขอนำเสนอกลุ่มโคราชเลือดใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ของคนโคราชที่ต้องการเปลี่ยนบ้านเมืองไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลายปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้โคราชไม่เจริญเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆที่มีโอกาสดีกว่าจังหวัดอื่นๆ ซึ่งมีเมกะโปรเจ็กต์รองรับอย่างหลากหลาย” นายวัฒนะชัย กล่าวปิดท้าย

อดีตผู้สมัคร ส.ส. โดดลงเทศบาลฯ

นายสนอง พรสันเทียะ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผู้เป็นบิดานายสุธรรม หรือโย พรสันเทียะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต ๒ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวจะให้นายสุธรรม หรือโย ลงสมัครในตำแหน่งนายกเทศมนตรีว่า ครอบครัวสนใจสนามการเมืองท้องถิ่นที่ไม่ได้รับการแก้ไขและมีแนวคิดการพัฒนา หากลูกชายมีโอกาสเป็นผู้สมัคร โดยมีอนาคตใหม่สนับสนุนถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เนื่องจากกระแสอนาคตใหม่ในโคราช ค่อนข้างดีและอาจเปลี่ยนการผูกขาดได้ แต่ลูกชายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขต ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง อาจมีปัญหาคุณสมบัติต้องห้าม ขณะนี้กำลังตรวจสอบการเสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรียนและที่ดินหรือกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ให้กับเทศบาลนครฯ เป็นเวลาติดต่อกัน ๓ ปี หรือไม่ จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง   


 
นายนันทวัฒน์ กมลวัทน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย เขตเลือกตั้งที่ ๒ จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วมีความสนใจในการเมืองระดับท้องถิ่น และมองว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมาในอนาคตตนมีความสนใจ เพราะต้องการอยากเข้ามาช่วยพัฒนาบ้านเมืองโคราช ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวในตัวเมืองโคราชมีน้อยมาก ส่วนใหญ่ประชาชนจะมา กราบไหว้ขอพรคุณย่าโมแล้วก็เดินทางกลับ ไม่มีแลนด์มาร์คในตัวเมืองโคราชให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรม เศรษฐกิจการจับจ่ายซื้อของก็เงียบเหงา ในตัวเมืองโคราชมีวัดสำคัญมากมาย มีคูเมืองที่ควรได้รับการบูรณะอย่างเป็นรูปธรรม จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำอย่างน้อย ๒ ชั่วโมง เหมือนที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีกรุงฮานอยเป็นเมืองหลวง มีจักรยานสามล้อปั่นรับจ้าง หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ซิโคล่” ที่คนนั่งจะอยู่ข้างหน้าคนปั่นจะอยู่ข้างหลัง ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจในเขตเทศบาลนครฯ มีระบบ SME เกิดขึ้นมากมาย แต่ยังไม่มีระบบแฟรนไชส์ที่เป็นของคนโคราชแท้ๆ ตัวเมืองโคราชไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว แต่เราจะพัฒนาวัฒนธรรมที่ถูกลืมทั้ง สามล้อปั่น รถตุ๊กๆ วัด และคูเมือง ให้เป็นสถานที่ และสิ่งดึงดูกนักท่องเที่ยว

‘ธนาธร’ ลงพื้นที่ ‘ขอนแก่น’

เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๔.๐๐ น. ที่ห้องประชุมวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนก เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดเวทีปราศรัยเพื่อพบปะกับสมาชิกพรรคและผู้ให้การสนับสนุนของพรรคในพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมทั้งปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “๒๔ มิถุนา วันประชาธิปไตยและคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น” ท่ามกลางความสนใจของคนอีสานที่เข้าร่วมรับฟังจนล้นห้องประชุม ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า ปัญหาของคนอีสานมีอยู่หลายเรื่อง ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เดินทางไปทั่วประเทศ และวันนี้มาที่ขอนแก่น ซึ่งไม่ได้มาพบปะประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาเพียงอย่างเดียว แต่มาจัดงานภายในของพรรคในระดับภูมิภาค ที่เน้นไปที่การพบปะสมาชิกและการระดมทุน ซึ่งหากมองย้อนหลังกลับไปในวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ เป็นวันเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองจากระบอบการปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งความหมายก็คืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนในรอบ ๘๗ ปีของการพัฒนาประชาธิปไตย

“การพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทยมีลักษณะนุ่มๆ ซึ่งเราจะต้องสานต่อให้จบ และที่สำคัญคือการอยากจะเห็นการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของการเฉลิมฉลองอำนาจของประชาชน พวกเราไม่ได้ช่วยให้ความสำคัญ ทำให้วันนี้เราเป็นประชาธิปไตยที่ไม่เข้มแข็ง ผมจึงอยากให้ความสำคัญของการฟื้นฟู ๒๔๗๕ กลับมาสู่ประเทศไทย ซึ่งการคาดหวังกับนักศึกษาอย่างเดียวไม่ถูก คงคาดหวังกับคนทุกวัยไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา วัยทำงาน หรือคนที่เกษียณอายุแล้ว คาดหวังอยากจะเห็นทุกคนตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่ของคำว่า พลเมือง ก่อนหน้า ๒๔๗๕ ไม่มีคำว่า พลเมือง มีพลเมืองเพราะมีประชาธิปไตยพลเมืองที่มีหน้าที่ ถ้าอยากจะรักษาประชาธิปไตยตั้งมั่นในสังคมไทยพวกเราในฐานะพลเมืองมีหน้าที่ปกป้องประชาธิปไตย มีหน้าที่ที่จะพิทักษ์ไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญของประชาชน ต่อต้านการทำรัฐประหารยึดอำนาจทุกรูปแบบเป็นความคาดหวังให้ทุกคนตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพที่เกิดขึ้น”

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่ออีกว่าในการเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคคงไม่ได้ส่งครบทั้ง ๗๗ จังหวัดเนื่องจากพรรคของเราเพิ่งเกิดและเติบโตได้เพียง ๑ ปียังมีเครือข่ายไม่เข้มแข็งพอ ดังนั้นขณะนี้พรรคคงจะส่งผู้สมัครที่พร้อมเพียงแค่ ๒๐ จังหวัด สำหรับขอนแก่นเป็นพื้นที่ศักยภาพเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ถ้ามีทีมพร้อมทีมที่ดีมีนโยบายที่ดี พรรคก็พร้อมที่จะส่งลงแข่งขันในระดับท้องถิ่น

“ผมขอขอบคุณ New vote ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ทั้งนักศึกษา คณาจารย์บุคลากร ที่ทำให้พรรคชนะ ส.ส.ในระดับเขตได้ ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ผลักดันให้มาถึงตรงจุดนี้ ส่วนการขยายสู่การเมืองท้องถิ่นคงจะต้องทำทีละก้าว เพราะเพิ่งผ่านการเลือกตั้งในระดับชาติมาไม่นาน ซึ่งจากนี้ไปคาดว่าไม่ถึง ๑ ปีจะมีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นคงจะใช้เครือข่ายพลังที่มีความรู้ประสบการณ์จากทำงานการเมืองระดับชาติมาประยุกต์ใช้กับการเมืองระดับท้องถิ่น จึงขอฝากประชาชนที่สนับสนุนในระดับชาติให้สนับสนุนในระดับท้องถิ่นด้วย” นายธนาธร กล่าว

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๘๐วันพุธที่ ๒๖-วันอาทิตย์ที่ ๓๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒


784 1443