26thApril

26thApril

26thApril

 

January 15,2020

‘พาณิชย์’กางแผนปี ๖๓ เชื่อม ๔ ธุรกิจบริการ สร้างโอกาสเจาะตลาดสูงวัย

สั่งการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทำแผนพัฒนาธุรกิจบริการปี ๒๕๖๓ เจาะตลาดดันกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุเป็นพระเอก รองรับสังคมผู้สูงอายุโต มั่นใจยังมีโอกาสในผู้บริโภคกลุ่มนี้อีกมาก เร่งชี้ช่องผลักดันให้ธุรกิจร้านอาหาร ดูแลผู้สูงอายุ บริหารทรัพย์สิน และเสริมสวย ออกผลิตภัณฑ์เฉพาะ เพื่อบริการแก่กลุ่มสูงวัย 

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี ๒๕๖๒ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุให้ดำเนินธุรกิจบนมาตรฐานสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในธุรกิจทั้งในประเทศและสากล อีกทั้งรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี ๒๕๖๓ ที่คาดว่าจะมีผู้สูงอายุมากถึง ๑๒.๖ ล้านคน หรือ ๑๙.๒๒% ของประชากรในประเทศ จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาการพัฒนาธุรกิจดูแลผู้สูงอายุด้านต่างๆ มีความคืบหน้าไปมาก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความรู้ให้แก่ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องจำนวน ๔๐๐ ราย ให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้อย่างมืออาชีพ, การส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ไปให้คำปรึกษา ณ สถานประกอบการ, การพัฒนาศักยภาพผู้สูงวัยสู่การเป็น Barista มืออาชีพ เพื่อสร้างรายได้และอาชีพแบบไม่ประจำ (Freelance) ให้แก่ผู้สูงอายุ และการนำเสนอธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในงานแสดงธุรกิจ STYLE ปี ๒๐๑๗-๒๐๑๘ เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด

“แนวทางการดำเนินงานในปี ๒๕๖๓ ตนได้มอบนโยบายในการขยายตลาดของธุรกิจบริการภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ ไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหาร ที่ยังคงได้รับความนิยมและเติบโตอย่างต่อเนื่องจากเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการตลาดให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงยุคนี้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงและใช้งานอุปกรณ์การสื่อสารได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ซึ่งโอกาสสำหรับธุรกิจร้านอาหารในตลาดผู้สูงอายุคือ การสร้างสรรค์เมนูเฉพาะผู้สูงอายุ หรืออาหารที่สามารถรับประทานเพื่อควบคุมโรคในวัยของผู้สูงอายุ เช่น ความดันสูง เบาหวาน และหัวใจ เป็นต้น โดยมีโภชนาการของอาหาร การใช้วัตถุดิบ ปริมาณอาหาร และสารอาหาร ที่ให้เหมาะสม ซึ่งจะผลักดันให้ร้านอาหารภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ สามารถเจาะตลาดดังกล่าวได้ต่อไป”

นอกจากนี้ได้กำชับให้กรมฯ เดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนา ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ให้มีมาตรฐานสากล (ในปี ๒๕๖๑ มีธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่จดทะเบียนนิติบุคคล จำนวน ๒๗๓ ราย มีรายได้จำนวน ๑๗๕.๒๔ ล้านบาท) โดยธุรกิจบริการสาขานี้เป็นเพียงด้านหนึ่งจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผู้สูงอายุในภาพรวม แสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสสำหรับผู้ประกอบธุรกิจอีกมากมายที่จะกระโดดเข้ามาสู่ตลาดผู้สูงอายุ ประกอบกับปัจจุบันธุรกิจดูแลผู้สูงอายุมีอัตราการเติบโตมากขึ้นและกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบที่พักระยะสั้นหรือระยะยาว สถานพักฟื้น และอาคารชุดสำหรับผู้สูงอายุ ดังนั้นการบริหารจัดการนิติบุคคลส่วนกลางจำเป็นจะต้องมีระบบระเบียบและมีมาตรฐาน ซึ่งธุรกิจบริหารทรัพย์สิน สามารถเข้ามามีส่วนสำคัญในการบริหารเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคมผู้สูงอายุ

“ทั้งนี้ ธุรกิจเสริมสวย เป็นธุรกิจที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ใกล้ชิดกับชุมชน รวมถึงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยที่ผ่านมาได้ส่งเสริมให้ร้านเสริมสวยสามารถพัฒนามาตรฐานการให้บริการได้แบบมืออาชีพ ซึ่งจากพฤติกรรมของผู้สูงอายุที่มีเวลาส่วนตัวมากกว่ากลุ่มคนวัยทำงาน และจะใช้เวลาว่างนี้ไปร้านเสริมสวยเพื่อดูแลความสวยงามของตนเองและสร้างความผ่อนคลาย จึงเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจที่จะสร้างบริการเฉพาะผู้สูงอายุขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายพร้อมดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้เข้าร้านได้มากขึ้น”

“สำหรับรูปแบบการพัฒนาธุรกิจบริการข้างต้นให้สามารถเจาะตลาดผู้สูงอายุได้นั้น จะใช้การจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ การพัฒนาศักยภาพการตลาดธุรกิจสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ DNA Business Camp ซึ่งจะเน้นผลลัพธ์จากการพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจให้ได้ผลผลิตออกมาเป็นรูปธรรม โดยก่อนจบหลักสูตรจะมีการสร้างสินค้าหรือบริการต้นแบบเพื่อผู้สูงอายุ และ Business Matching เชื่อมโยงธุรกิจเข้าหากัน ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจจะสามารถ นำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปพัฒนาต่อยอดก่อนสร้างรายได้ให้เข้าสู่ตลาดผู้สูงอายุได้จริง” รมช.พาณิชย์ กล่าวในท้ายที่สุด

 

 ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๑ วันพุธที่ ๑๕ - วันอังคารที่ ๒๑ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓

 

 


705 1343