February 06,2021
ชาวเมืองส่งเสียงถึง‘ว่าที่นายกเล็ก’ มองประโยชน์ปชช.ไม่ใช่กลุ่มตนเอง
ภาคประชาสังคม เสนอความต้องการพัฒนาท้องถิ่น ถึงผู้ลงรับเลือกตั้งท้องถิ่น หวังให้นักการเมืองมองเห็นผลประโยชน์ของประชาชน สานต่อโครงการดีๆ แทนผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มของตนเอง
เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ที่ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้าจังหวัดอุบลราชธานี ภาคประชาสังคมในจังหวัด มีการระดมความเห็นจากคนหลายกลุ่ม ทั้งคนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน และพลเมืองอาวุโส เพื่อรับฟังสิ่งที่ภาคพลเมือง ต้องการเห็นทิศทางการพัฒนาบ้านเมือง หลังการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
โดยที่ประชุมมีการนำเสนอความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองให้มีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการเดินทางของคนในเมือง เพื่อลดความแออัดในการใช้พาหนะส่วนตัว การพัฒนาชุมชนแออัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน จัดให้มีลานปฏิบัติธรรม เนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเมืองนักปราชญ์ มีวัดจำนวนมาก แต่ยังไม่มีลานปฏิบัติธรรมเหมือนสวนโมกข์ จัดทำระบบการศึกษาให้กระจายถึงชุมชน เด็กจะไม่ต้องเดินทางข้ามเมืองเข้ามาหาความรู้ในเมืองเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำแหล่งออกกำลังกายให้ทั่วถึง อยู่ใกล้ชุมชน เพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ต้องเดินทางไกลมาออกกำลังกาย และลดความแออัดจากคนที่มาใช้จำนวนมากในแต่ละวัน
ประการสำคัญคือ ต้องการให้นักการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อการเลือกตั้งผ่านไปให้หันมาร่วมใจกันทำงาน เพื่อสานต่อโครงการเดิมที่ดี ไม่ใช่เปลี่ยนคณะผู้บริหารก็มุ่งสร้างโครงการเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
ด้านนายนิกร วีสเพ็ญ พลเมืองอาวุโสชาวจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเข้าร่วมเวทีรับฟังความเห็นวันนี้ กล่าวว่า วันนี้เป็นการรวมตัวของคนหลายวัย เพื่อทวงความเป็นพลเมืองในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เพื่อไปสู่การพัฒนาแบบยั่งยืน ไม่ใช่เป็นของกลุ่มนักการเมืองใดกลุ่มหนึ่งที่เสนอตัวมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น แผนงานของเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งที่คนรุ่นใหม่มาร่วมกันวาดฝันในวันนี้ว่า อยากเห็นการพัฒนาในเทศบาลนครฯ ในฐานะที่เป็นภาคพลเมืองอย่างไร จึงเป็นหัวใจสำคัญที่เอาความฝันไปแปรเป็นรูปธรรมให้กลุ่มการเมืองต่างๆ นำไปพัฒนา
“ทั้งนี้ ในอนาคตโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเทศบาลนครฯ เป็นแนวคิดของประชาชน กลุ่มใดที่ได้รับการเลือกตั้งก็ต้องช่วยกันสานต่อความฝันของภาคประชาชนให้เป็นจริง เพราะโครงการต่างๆไม่ใช่เป็นของกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเป็นโครงการที่ทำเพื่อลูกหลาน รวมทั้งเป็นการมีส่วนร่วมในการพัฒนา แสดงถึงการเป็นเจ้าของชุมชน เจ้าของเมืองของพวกเรา” นายนิกร กล่าว
สำหรับเทศบาลนครอุบลฯ มีพื้นที่ประมาณ ๒๙ ตารางกิโลเมตร เป็นเทศบาลนครที่มีประชากรตามทะเบียนราษฏรในปี ๒๕๖๐ จำนวนประมาณ ๗๖,๐๐๐ คน มากเป็นอันดับที่ ๔ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองจากเทศบาลนครอุดรธานี เทศบาลนครนครราชสีมา และเทศบาลนครขอนแก่น มีงบประมาณใช้จ่ายปีละกว่า ๘๐๐ ล้านบาท กว่าครึ่งเป็นงบใช้จ่ายประจำ
โดยการเลือกตั้งในสมัยที่ผ่านมา นางสาวสมปรารถนา (แอน) วิกรัยเจิดเจริญ จากกลุ่มคุณธรรม ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีฯ เอาชนะนางรจนา กัลป์ตินันท์ ภริยานายเกรียง ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมีการประกาศเลือกตั้งนายก อบจ. นางสาวสมปรารถนาได้ลาออกเพื่อไปสมัครเลือกตั้งนายกอบจ.อุบลฯ และเปลี่ยนชื่อเป็น “นางสาวนายก แอนสมปรารถนา” แต่ก็พ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับนายกานต์ กัลป์ตินันท์ พี่ชายนายเกรียง ในการเลือกตั้งอบจ.เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๓
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๖๔ วันพุธที่ ๓ - วันอังคารที่ ๙ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔
42 1,612