28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

February 24,2021

ผลงาน‘ชาติพัฒนา’ชัดเจน พร้อมบริหารเทศบาลนครฯ

‘ประเสริฐ’ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ ๒ ‘โคราชชาติพัฒนา’ พร้อมเต็มที่ เสียงตอบรับดี ผลงานสมัย ‘รศ.เชิดชัย’ เป็นนายกฯ ชัดเจน พร้อมเข้ามาพัฒนาต่อ แม้ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงผลงานที่ผ่านมา ยืนยัน สร้างโคราชเป็นเมืองหลวง

ภายหลังจากที่มีการรับสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา (ส.ท.) ระหว่างวันที่ ๘-๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ โดยมีผู้สมัคร ๔ คน จาก ๔ กลุ่มการเมือง ได้แก่ เบอร์ ๑ นายอัคคชา พรหมสูตร กลุ่มโคราชมหานคร เบอร์ ๒ นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กลุ่มโคราชชาติพัฒนา เบอร์ ๓ นายจักริน เชิดฉาย อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มโคราชเพื่อโคราช และเบอร์ ๔ นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ อดีตส.ท.กลุ่มประสานมิตร คณะก้าวหน้า ซึ่งนายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีหลายสมัยจากกลุ่มประสานมิตรไม่ได้ลงสมัครในสมัยนี้ ส่งผลให้อดีตส.ท.ที่อยู่ในสังกัด กระจายตัวไปลงสมัครตามกลุ่มต่างๆ นี้ ตามที่ “โคราชคนอีสาน” เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ผสมผสานรุ่นเก่า-รุ่นใหม่

นายประเสริฐ บุญชัยสุข ซึ่งเคยผ่านสนามการเมืองท้องถิ่น โดยเริ่มจากการเป็นสมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา (ส.จ.) โดยเคยดำรงตำแหน่งต่างๆ อาทิ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา, รองนายก อบจ.นครราชสีมา, รองประธานสภา อบจ.นครราชสีมา, ส.ส.นครราชสีมา ๓ สมัย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ “โคราชคนอีสาน” ถึงการลงสมัครในครั้งนี้ว่า “จากนี้ไปก็ต้องหาเสียงแข่งขันกัน ในเรื่องของนโยบาย การสร้างความเชื่อมั่นในตัวผู้สมัคร ซึ่งผู้สมัครส.ท.แต่ละเขต ถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ มีความอาวุโส และเป็นคนรุ่นใหม่ ผสมผสานกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นคนในพื้นที่ที่ภูมิลำเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งทุกเขต เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงง่าย หากมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเข้าไปก็จะเข้าถึงง่าย โดยมีสำนักงานโคราชชาติพัฒนาเป็นศูนย์กลาง”

‘โคราชชาติพัฒนา’ผลงานชัด

เมื่อถามว่า ทำอย่างไรให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทราบว่า กลุ่มโคราชชาติพัฒนาและพรรคชาติพัฒนาสร้างผลงานไว้ให้ชาวโคราชอย่างไรบ้างโดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครฯ นายประเสริฐ บุญชัยสุข ตอบว่า “ผมโชคดีที่มีโอกาสคลุกคลี ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น และพบปะผู้คนในเขตเมืองเป็นประจำ เพราะบ้านอยู่ในเมือง การลงพื้นที่ หากถามว่าเขาจะรู้จักไหม ก็ค่อนข้างจะรู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพียงแต่วันนี้จะทบทวนกันว่า ประชาชนเคยให้โอกาสชาติพัฒนาไม่ว่าในระดับชาติหรือระดับท้องถิ่น ทั้งระดับเทศบาล หรือระดับชาติก็มีผลงาน ตั้งแต่สมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ และท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้วางโครงสร้างพื้นฐานให้กับชาวโคราช เมื่อมาถึงยุคสมัย รศ.เชิดชัย โชครัตนชัย ลงสมัครนายกเทศมนตรี ในสังกัดกลุ่มโคราชชาติพัฒนา ก็ได้รับเลือกตั้งยกทีม (ปี ๒๕๔๗) ซึ่งปีนั้นก็ได้เบอร์ ๒ เหมือนผมในสมัยนี้ ช่วงที่ รศ.เชิดชัยได้รับโอกาสนั้น ก็ทำงานเต็มที่ทั้งนายกเทศมนตรีและส.ท. มีผลงานการปรับภูมิทัศน์ลานย่าโม สร้างระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพรวบรวมน้ำเสียเมืองไปที่บึงทะเล รวมทั้งผลักดันงบประมาณมาก่อสร้างศูนย์จำกัดขยะ เฟสแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันงบประมาณมาสร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณูปโภค น้ำประปาให้กับคนเมือง ช่วงนั้นเรามีแหล่งน้ำประปาที่มาจากลำตะคอง เพราะปี ๒๕๓๗-๒๕๓๘ น้ำขาดแคลนมาก ซึ่งได้งบประมาณ ๓,๐๖๐ ล้านบาท มาก่อสร้างระบบประปาแห่งที่ ๒ นำน้ำจากเขื่อนลำแชะมา ถือว่าเป็นแหล่งน้ำสำรองที่สามารถให้บริการประชาชนในเขตเทศบาลนครฯ ได้ เพราะคิดตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าเมืองโคราชจะเติบโตแบบก้าวกระโดด และวันนี้ก็เป็นไปตามคาด ก็จะเติบโตแบบก้าวกระโดดมากขึ้น เพราะถนนมอเตอร์เวย์กำลังจะมา ฉะนั้นเมืองโคราชต้องเตรียมความพร้อม เพื่อคนจะมาอยู่อาศัย ทำธุรกิจการค้า มาลงทุน ซึ่งจะเป็นเมืองอุตสาหกรรม เพราะมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อม มีสาธารณูปโภคพร้อม ทั้งน้ำ ทั้งไฟฟ้า ในช่วงที่นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็นำก๊าซธรรมชาติมา จึงถือว่าวันนี้เรามีความพร้อมมาก”

‘โคราชน่าอยู่อย่างยั่งยืน’

“ฉะนั้นการที่เราได้มีโอกาสและทำงานวางโครงสร้างพื้นฐานในช่วงที่ผ่านมา ก็ต้องการโอกาสจากประชาชนว่า วันนี้เมืองโคราชยังต้องการการแก้ไขปัญหา และการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องการทำให้โคราชเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน เรามองถึงสวนสาธารณะ มองถึงการวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน วางแผนถึงโครงการศูนย์จำกัดขยะ เฟสที่สอง ซึ่งขณะนี้ริเริ่มโครงการไปพอสมควรแล้ว อีกทั้งการพัฒนากระจายและบริการน้ำประปาให้มีประสิทธิภาพ และพอเพียง ซึ่งทราบมาว่าน้ำประปาไหลอ่อน บางจุดไหลกะปริบกะปรอย นี่เป็นปัญหา เมืองโคราชต้องสวยงาม สะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย ร่มรื่น เมืองโคราชจะต้องมีการจราจรที่ลื่นไหล รถไม่ติด เมืองโคราชจะต้องมีเศรษฐกิจชุมชน ต้องพัฒนารายได้ใหม่ๆ ให้คนในชุมชนค้าขายทางออนไลน์ได้ ต้องนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาให้เมืองโคราชเป็นสมาร์ทซิตี้ เช่น Smart Mobility หรือระบบขนส่งอัจฉริยะ, Smart Community ที่ชุมชนต้องสวยงาม ปลอดภัย ร่มรื่น น่าอยู่ และสะอาด, Smart Environment สิ่งแวดล้อมต้องไม่มีมลพิษ ขณะนี้ฝุ่นละออง PM 2.5 ของโคราชเกินค่ามาตรฐาน ทำอย่างไรจะสามารถวางมาตรการป้องกันส่วนนี้ได้, Smart building หรืออาคารอัจฉริยะ การก่อสร้างอาคารแบบใหม่ต้องขอความร่วมมือเป็นอาคารสีเขียวประหยัดพลังงาน, Smart economy หรือเศรษฐกิจอัจฉริยะ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ได้หมด ที่สำคัญ เป็นการทำระบบการบริหารเทศบาลผ่านระบบดิจิทัล ที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งมาถึงยุคที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เราอยู่ในยุคดิจิทัล นี่เป็นสิ่งที่คาดไว้” นายประเสริฐ กล่าว

“โคราชคนอีสาน” ถามถึงกระแสพรรคชาติพัฒนาที่ช่วงหลังถูกโจมตีอย่างมากในโซเชียลมีเดีย จะส่งผลถึงการเลือกตั้งในครั้งนี้หรือไม่? นายประเสริฐ กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “เราต้องทำงานหนัก และชี้แจงความเข้าใจผิดที่ผ่านมา เช่น บางคนอาจจะพูดว่า ท่านสุวัจน์ไม่มีผลงาน ไม่มาพัฒนาโคราช ไปพัฒนาแต่หัวหิน ซึ่งท่านสุวัจน์พัฒนาและวางโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ไม่เคยทอดทิ้ง ท่านสุวัจน์มาร่วมกิจกรรมของโคราชตลอด ทั้งงานลอยกระทง งานสงกรานต์ งานแห่เทียน งานกินเจ งานทิ้งกระจาด งานปิ้งย่าง งานตรุษจีน หรืองานช่วยเหลือ กิจกรรมสตรีแม่บ้าน อสม. กระทั่งงานกำนันผู้ใหญ่บ้าน ท่านสุวัจน์ก็มาตลอด การจัดกีฬา กิจกรรมต่างๆ เช่น มวยไทยไฟว์ (THAI-FIGHT) หรืองานขนมจีนบ้านประโดกก็มาตลอดเวลา ไม่เคยทอดทิ้ง จัดงานกระตุ้นเศรษฐกิจตลอด ท่านสุวัจน์ทำตลอด ไม่ได้ทอดทิ้งคนโคราช เพียงแต่ไม่ได้พูดชี้แจง คนที่ฟังบ่อยๆ จึงเกิดความเชื่อ ส่วนนี้ต้องชี้แจง การที่ไปพัฒนาหัวหินนั้นเป็นโครงการของครอบครัว ซึ่งท่านสุวัจน์มีหลักคิดว่า จะไม่ทำธุรกิจในถิ่นที่เป็นฐานการเมือง เพราะหากทำธุรกิจในฐานการเมือง ก็จะถูกครหาว่า นำฐานการเมืองมาแสวงหาประโยชน์”

สุวัจน์’ย้ำต้องช่วยโคราช

“เรื่องของการพัฒนาโคราช ไม่ได้หยุดคิด เมื่อมีปัญหาหรือประชาชนได้รับความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจ เช่น โควิด-๑๙ ก็มีการตั้งศูนย์ ‘คนโคราช รักจริง ไม่ทิ้งกัน’ ก็ช่วยตลอด ฉะนั้น ผมยืนยันได้ในฐานะที่อยู่ด้วย ท่านสุวัจน์จะบอกตลอดว่า ต้องไม่ทิ้งโคราช ต้องช่วยเหลือคนโคราช และท่านก็มาทำภารกิจเพื่อคนโคราชตลอด ไม่ได้ทิ้งไปไหน ผมเชื่อว่าหากมีโอกาสได้ลงพื้นที่ พูดคุยกับประชาชน ก็จะเข้าใจ และวันนี้ผมก็ลงไปพบหลายชุมชน หลายเขตเลือกตั้ง ก็ได้รับการตอบรับที่ดี เมื่อบอกว่าผมลงสมัครนายกเทศมนตรีก็ได้รับเสียงตอบรับดีมาก ประชาชนเชื่อมั่นว่า เป็นกลุ่ม เป็นทีม ที่จะมาแก้ไขปัญหาและพัฒนาโคราชได้ ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีจากเพื่อน ส.ส. ๓ พรรค เพราะเคยเป็น ส.ส. จึงมีเพื่อน หรือความสัมพันธ์ที่ท่านสุวัจน์มีในส่วนกลาง เชื่อว่า งานพัฒนาโคราช ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะบางโครงการเกินศักยภาพของท้องถิ่น จึงต้องใช้งบประมาณจากส่วนกลางบ้าง โดยเราจะประสาน ผลักดันงบประมาณมาให้ชาวโคราช” ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ ๒ กลุ่มโคราชชาติพัฒนา กล่าว

สำหรับในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ นี้ เรื่องปากท้องของประชาชนมีความสำคัญมาก นายประเสริญ บุญชัยสุข กล่าวถึงการเข้าไปส่งเสริมเศรษฐกิจเพื่อประชาชนในเขตเทศบาลนครฯ ว่า “จะต้องมีการจัดอีเว้นท์ ซึ่งจะต้องดูความเหมาะสมว่าจะกระทบคนเมืองหรือไม่ ส่วนมากก็จะเป็นคนในชุมชนระดับล่าง ที่เดือดร้อนจริงๆ ได้รับผลกระทบจริงๆ ทำอย่างไรจะให้มีตลาด นำสินค้าชุมชนออกมาจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้าที่เกิดจากฝีมือ จากภูมิปัญญา หรืออาหารการกินต่างๆ ซึ่งอาหารจะเป็นปัจจัยสำคัญ ต้องมีตลาดให้ค้าขายสะดวก มีจุดค้าขายและช่วงเวลาที่ชัดเจน ในขณะเดียวกันก็จะนำบุคคลที่มีความรู้ในเรื่องของการค้าขายออนไลน์ ไปสอนให้มีความรู้ในเรื่องสินค้า การนำสินค้ามานำเสนอทางออนไลน์เพื่อให้เกิดการซื้อขายออนไลน์ อีกทั้งมีการจัดแข่งขันกีฬากระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ใหญ่และเจริญมากขึ้น”

นายประเสริฐ บุญชัยสุข กล่าวย้ำในท้ายสุดกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “เราทำเต็มที่ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ หากเห็นว่าทีมของเราเหมาะสมที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาและพัฒนาเทศบาลนครฯ ให้เป็นเมืองที่มีความเจริญเติบโต ทั้งด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ ด้านการค้าขาย และด้านการท่องเที่ยว ก็จะทำเต็มที่ หากประชาชนให้โอกาส เรามีความพร้อม เรามีทีมงานที่มีความรู้ มีความสามารถ มีประสบการณ์” 


964 1600