28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

August 27,2021

เปิดกระเป๋า “นายกเทศมนตรี” หน้าใหม่ เทศบาลตำบล ๙ แห่งในเขตอำเภอเมือง

 

ฉบับนี้เปิดข้อมูลทรัพย์สิน-หนี้สินของ “นายกเทศมนตรี” เทศบาลตำบล (ทต.) ๙ แห่งในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา จากทั้งหมด ๑๕ แห่ง ซึ่งใน ๙ รายนี้ เป็นนายกฯ หน้าใหม่ เพราะเพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นสมัยแรก จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ มาดูกันว่า “นายกเทศมนตรี” และคู่สมรสในพื้นที่ใดร่ำรวยมากที่สุด

‘นายกฯ อุ๊’ ทต.หนองไผ่ล้อม

ศุภาณัน คงเกษมภิบาล

เริ่มจาก “ศุภาณัน คงเกษมภิบาล” หรือ “อุ๊” อายุ ๖๐ ปี นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม ผู้โค่นอดีตนายกฯ ชาย ๒ คนลงได้ และถือว่าสามารถฝ่าคู่แข่งผู้ชายอีก ๖ คนเข้าสู่เส้นชัย ระหว่างปี ๒๕๕๖-๒๕๖๑ เคยนั่งเก้าอี้รองนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง ซึ่งคู่สมรสคือ พลโทวีระพงศ์ คงเกษม อายุ ๖๗ ปี และเมื่อได้รับเลือกตั้งก็แต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรีฯ มีลูกด้วยกัน ๒ คน 

รายได้ของ “นายกฯอุ๊” ระบุรายการว่า มาจากเงินเดือน ๔๑๔,๐๐๐ บาท ค่าเช่า ๑๐๘,๐๐๐ บาท รวมรายได้ ๕๒๒,๐๐๐ บาท ส่วนสามี มีรายได้จากเงินเดือน (ข้าราชการบำนาญ) ๙๑๙,๕๐๐ บาท ในขณะที่รายจ่ายของ “นายกฯอุ๊” เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๓๖๐,๐๐๐ บาท และสามีก็มีค่าใช้จ่ายในจำนวนเท่ากัน โดย “นายกฯอุ๊” เสียภาษี ๑๐๘,๐๐๐ บาท สามี ๘๕๒,๗๕๖ บาท

• มีแต่ทรัพย์ไม่มีหนี้สิน

มาดูข้อมูลทรัพย์สินกันบ้าง “นายกฯอุ๊” มีเงินฝาก ๖ บัญชี ๑๙๑,๑๑๘.๓๒ บาท ที่ดิน ๙ แปลง มูลค่า ๘,๒๖๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง มูลค่า ๕,๑๕๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๒ คัน ๑๔๐,๐๐๐ บาท ทรัพย์สินอื่น (ทองคำ เพชร) มูลค่า ๘๙๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๑๔,๖๓๑,๑๑๘,๓๒ บาท ส่วนพลโทวีระพงศ์มีเงินฝาก ๔ บัญชี ๘๑๑,๔๕๕.๖๗ บาท เงินลงทุน ๑,๖๕๕,๕๔๐.๐๙ บาท ที่ดิน ๑๒ แปลง มูลค่า ๔๙,๗๐๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๔ คัน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท และทรัพย์สินอื่น (พระเครื่อง ทองคำ นาฬิกา) มูลค่า ๑,๑๕๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๕๔,๕๑๖,๙๙๕.๗๖ บาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สิน ๖๙,๑๔๘,๑๑๔,๐๘ บาท โดยทั้งคู่ไม่มีหนี้สิน

‘นายกฯต้อม’ ทต.ปรุใหญ่

ฉมามาศ อินทรักษา

ฉมามาศ อินทรักษา (นายกฯ ต้อม) ศรีภริยา ร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา (หลี) ซึ่งสามีดันเข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรก และประสบความสำเร็จในการเป็น นายกเทศมนตรีตำบลปรุใหญ่ สามีเคยนั่งบริหารมาก่อนแล้ว “นายกฯต้อม” อายุ ๕๘ ปี เดิมชื่อ “ศิรดา” เป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารมาแล้วหลายร้าน และร้านล่าสุดคือ “ร้านส้มตำถาดครูต้อม” มีลูกด้วยกัน ๒ คน ชาย ๑ หญิง ๑ ซึ่งลูกชาย (บิ๊ก-กฤษฎวัฒน์) ก็ได้รับการผลักดันให้เข้าสู่วงการเมืองท้องถิ่นเช่นกัน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ และปัจจุบันเป็นผู้ดูแลร้านอาหาร ทั้งนี้ “นายกฯต้อม” ระบุรายได้มาจากเงินเดือน ๓๔๕,๖๐๐ บาท เงินประจำตำแหน่ง ๗๒,๐๐๐ บาท และค่าตอบแทน ๗๒,๐๐๐ บาท รวมรายได้ ๔๘๙,๖๐๐ บาท แต่ไม่ระบุรายได้ของคู่สมรส ส่วนรายจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวของนายกฯ ต้อม ๓๕๐,๐๐๐ บาท ส่วนสามี ๑๐๐,๐๐๐ บาท

• ทรัพย์สิน ๒ คน ๑๖ ล้าน

ในขณะที่รายได้ของ “นายกฯต้อม” เป็นเงินฝาก ๔๖,๐๘๗.๓๑ บาท ที่ดิน ๑ แปลง (๖-๑-๒๘ ไร่) มูลค่า ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท บ้านพักสองชั้น ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๑ คัน รถจักรยานยนต์ ๑ คัน มูลค่า ๓๑๐,๐๐๐ บาท ทรัพย์สินอื่น (นาฬิกา แหวนเพชร) มูลค่า ๔๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๑๕,๓๖๙,๐๘๗.๔๕ บาท ในขณะที่สามีมีเงินฝาก ๒๒,๓๔๑.๘๙ บาท ที่ดิน ๑ แปลง (๕๗ ตร.ว.) มูลค่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท บ้านพักชั้นเดียว ๓๒๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๑ คัน รถจักรยานยนต์ ๒ คัน มูลค่า ๓๒๐,๐๐๐ บาท และทรัพย์สินอื่น (อาวุธปืน ๒ กระบอก) มูลค่า ๖๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๑,๒๒๒,๓๔๑.๘๙ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคน ๑๖,๕๙๑,๔๒๙.๓๔ บาท ส่วนหนี้สินระบุเงินกู้ร่วมกันของสามี-ภริยา จากธนาคารออมสิน ๖ บัญชี รวมยอดหนี้คงเหลือ ๔,๖๓๙,๖๓๓.๒๐ บาท

‘หมออ้วน’ ทต.บ้านใหม่ 

มะลิวัลย์ บางนิ่มน้อย

อีกหนึ่งสตรีที่เข้าสู่เก้าอี้นักการเมืองท้องถิ่น คือ “หมออ้วน” มะลิวัลย์ บางนิ่มน้อย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านใหม่ อายุ ๖๑ ปี เป็นข้าราชการบำนาญ เหตุที่เรียกว่า “หมออ้วน” เพราะทำงานด้านการบริหารสาธารณสุข โดยตำแหน่งล่าสุดก่อนเกษียณคือ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลศรีษะละเลิง (พ.ศ.๒๕๔๑-๒๕๖๓) ตำบลบ้านใหม่ อ.เมืองนครราชสีมา คู่สมรสคือ ร.อ.ท.โสภณ บางนิ่มน้อย อายุ ๖๕ ปี มีลูก ๒ คน คนโตเป็นลูกสาวทำงานที่ รพ.สต.ศรีษะละเลิง ส่วนลูกชายเป็นเจ้าของ ส.โสภณ โต๊ะจีน 

“หมออ้วน” มีรายได้จากเงินบำนาญ ๕๙๕,๒๐๐ บาท เงินเดือน/เงินประจำตำแหน่ง ๒๗๖,๐๐๐ บาท รายได้จากค่าเช่าบ้าน ๒๘๐,๘๐๐ บาท รวมรายได้ ๑,๑๕๒,๐๐๐ บาท ส่วนสามี มีเงินบำนาญ ๔๗๖,๔๐๐ บาท ในขณะที่รายจ่ายต่อปีของ “หมออ้วน” จำแนกเป็น ค่าไฟฟ้า ๑๘๐,๐๐๐ บาท ค่าน้ำ ๑๖,๘๐๐ บาท ค่าผ่อนรถ ๒๗๖,๖๓๘ บาท ค่าเบี้ยประกัน ๓๙,๐๕๐ บาท ค่าผ่อนจ่ายสินเชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์ ๔๓๒,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนจ่ายสินเชื่อสหกรณ์บริการฯ ๒๕๒,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยเงินกู้บุคคล ๔๐๐,๐๐๐ บาท ทำบุญกำแพงวัด/บริจาค ๕๐,๐๐๐ บาท และค่าอุปการะมารดา ๖๐,๐๐๐ บาท รวมรายจ่าย ๑,๗๐๖,๔๘๘ บาท และเสียภาษี ๖๕๕,๔๑๔ บาท ส่วนสามีมีเพียงค่าผ่อนจ่ายสินเชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ๒๗,๐๐๐ บาท

• ทรัพย์สิน ๓๕ ล้าน

สำหรับข้อมูลทรัพย์สิน “หมออ้วน” ระบุเป็น เงินฝาก ๔๗๙,๘๙๙.๔๖ บาท เงินลงทุน ๖๘๙,๔๔๐ บาท ที่ดิน ๑๓ แปลง มูลค่า ๑๑,๔๗๓,๕๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (ตึกแถว บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ โกดัง) ๕,๑๐๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๔ คัน ๒,๒๓๕,๐๐๐ บาท ทรัพย์สินอื่น (สร้อยพระเลี่ยมทอง ทองคำ เพชร พลอย ๑๘ รายการ) ๑,๔๔๖,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๒๑,๔๒๓,๘๓๙.๔๖ บาท ส่วนคู่สมรส มีเงินฝาก ๕๔,๑๖๓.๑๕ บาท เงินลงทุน ๑๘๖,๐๐๐ บาท ที่ดิน ๖ แปลง ๑๑,๙๕๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๘๐๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๒ คัน ๘๗๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๑๓,๘๖๐,๑๖๓.๑๕ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคน ๓๕,๒๘๔,๐๐๒.๖๑ บาท โดย “หมออ้วน” มีเงินเบิกเกินบัญชี ๖๖,๕๐๓.๐๕ บาท เงินกู้จากธนาคาร ๕,๔๐๐,๖๖๐.๘๖ บาท และเงินกู้ ๑๖๕,๙๗๘.๐๑ บาท รวม ๕,๖๓๓,๑๔๑.๙๒ บาท ส่วนคู่สมรสมีเงินกู้จากบุคคล ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมหนี้สิน ๘,๖๓๓,๑๔๑,๙๒ บาท

‘กิติพงศ์’ ทต.โพธิ์กลาง

กิติพงศ์ พงศ์สุรเวท

มาถึงนายกเทศมนตรีที่เป็นบุรุษกันบ้าง เริ่มจาก ‘กิติพงศ์ พงศ์สุรเวท’ อายุ ๕๓ ปี อดีตส.อบจ.อำเภอเมือง เขต ๑ ซึ่งมาลงสมัครครั้งแรกและประสบความสำเร็จ “นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง” แจ้งประวัติการทำงานย้อนหลัง ๕ ปี ดังนี้ พ.ศ.๒๕๕๕-มกราคม ๒๕๖๒ ส.อบจ.นครราชสีมา และมิถุนายน ๒๕๖๒-ตุลาคม ๒๕๖๓ ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวส.ส. ซึ่ง ‘กิติพงศ์’ สมรสกับ ‘วิลาวรรณ พงศ์สุรเวท’ อายุ ๔๙ ปี เป็นเจ้าของร้านพีวาการพิมพ์ (อำเภอสูงเนิน) และเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัวส.ส. มีลูก  ๒ คน หญิง ๑ ชาย ๑ โดยยังไม่บรรลุนิติภาวะ ๑ คน 

สำหรับรายได้ของ ‘กิติพงศ์’ แยกเป็นเงินเดือน ๒๔๐,๐๐๐ บาท ส่วนภริยามีรายได้จากเงินเดือน ๔๘,๐๐๐ บาท ร้านพีวาการพิมพ์ ๖๐๐,๐๐๐ บาท สวนส้มโอ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ไร่อ้อย ๑๘๐,๐๐๐ บาท นาข้าว ๘๐,๐๐๐ บาท และดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืม ๓๐๐,๐๐๐ บาท ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของ ‘กิติพงศ์’ แยกเป็น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๑๒๐,๐๐๐ บาท ค่าเบี้ยประกัน ๓๔,๙๐๖ บาท เสียภาษี ๒๔๐,๐๐๐ บาท ส่วนภริยามีค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๑๒๐,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนรถ ๑๘๖,๑๘๐ บาท ค่าอุปโภคบริโภค ๑๒๐,๐๐๐ บาท ค่าเล่าเรียนบุตร ๑๕๐,๐๐๐ บาท เสียภาษี ๖๔๘,๐๐๐ บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๘๐,๐๐๐ บาท ค่าเบี้ยประกัน ๓๒,๘๑๗ บาท

• ภริยามีทรัพย์สินมากกว่า

ส่วนทรัพย์สิน ‘กิติพงศ์’ มีเงินฝาก ๑๐๓,๓๓๔.๓๙ บาท ที่ดิน ๖ แปลง มูลค่า ๒,๓๐๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท สิทธิและสัมปทาน ๓๑๓,๐๙๘.๒๓ บาท ทรัพย์สินอื่น ๕๒๖,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๙,๒๔๒,๔๓๒.๖๒ บาท ส่วนภริยา มีเงินฝาก ๑๓,๒๗๖,๕๘๓.๑๒ บาท เงินลงทุน ๔๙๗,๓๒๐ บาท เงินให้กู้ยืม (พนักงานบริษัท ๕ คน) ๒,๐๘๐,๐๐๐ บาท ที่ดิน ๑๒ แปลง มูลค่า ๕,๘๐๐,๐๐๐ บาท รถยนต์ ๔ คัน และรถจักรยานยนต์ ๑ คัน ๑,๕๐๕,๐๐๐ บาท ทรัพย์สินอื่น ๘๙๘,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๒๔,๐๕๖,๙๐๓.๑๒ บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เงินฝาก ๗.๓๘ บาท สิทธิและสัมปทาน ๒๙๕,๖๔๗.๘๔ บาท รวมทรัพย์สิน ๒๙๕,๖๕๕.๒๒ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสามคน ๓๓,๔๔๔,๙๙๐.๙๖ บาท ซึ่ง ‘กิติพงศ์’ ไม่มีหนี้สิน มีเพียงภริยาที่มีเงินเบิกเกินบัญชี ๗๑๔,๗๕๕.๙๒ บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ๕๗๗,๕๑๐ บาท รวมหนี้สินของภริยา ๑,๒๙๒,๒๖๖.๙๒ บาท

 ‘กิตติพัทธ์’ ทต.หนองไข่น้ำ

กิตติพัทธ์ แหวนโคกสูง

นายกเทศมนตรีตำบลหนองไข่น้ำ “กิตติพัทธ์ แหวนโคกสูง” อายุ ๔๕ ปี ระบุว่า ระหว่างปี ๒๕๕๓-ปัจจุบัน เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.ราชสีห์มาทรัพย์มหาศาล (ประกอบกิจการค้า ทอง นาก เงิน เพชร พลอย และอัญมณีอื่น รวมทั้งวัตถุทำเทียม /ตรวจสอบพบว่า หจก.นี้ร้างตั้งแต่วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๓) สมรสกับ “ธัลยาณัฐ แหวนโคกสูง” อายุ ๓๒ ปี มีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ๒ คน 

‘กิตติพัทธ์’ แจ้งรายได้มาจากเงินเดือน ๓๓๑,๒๐๐ บาท ค่าตอบแทนนายกเทศมนตรี ๔๘,๐๐๐ บาท และค่าตอบแทนพิเศษ ๔๘,๐๐๐ บาท รายได้จากการทำนา ๒๐๐,๐๐๐ บาท ทำไร่ ๑๐๐,๐๐๐ บาท และรายได้จาก ค่ารับเหมาก่อสร้าง ๖๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนคู่สมรสมี รายได้จากค้าขายออนไลน์ ๖๐๐,๐๐๐ บาท และค่านายหน้า, ท้าวแชร์ ๖๐๐,๐๐๐ บาท ในขณะที่รายจ่ายของ ‘กิตติพัทธ์’  จำแนกเป็น ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๑๘๐,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนรถยนต์ ๓๑๘,๓๗๒ บาท ค่าผ่อนบัตรเครดิต ๒๕๐,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนเงินกู้ธนาคาร ๒๕๐,๐๐๐ บาท ค่าอุปการะบิดา-มารดา ๒๐,๐๐๐ บาท เสียภาษี ๖๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนภริยามีค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๑๘๐,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนบัตรเครดิต ๒๓๕,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนเงินกู้ธนาคาร ๑๖๕,๐๐๐ บาท ค่าเล่าเรียนบุตร ๒๐,๐๐๐ บาท และค่าอุปการะบิดา-มารดา ๒๐,๐๐๐ บาท เสียภาษี ๖๐๐,๐๐๐ บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัวบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ๒ คน ๗๒,๐๐๐ บาท

• ๓๒ ล้านบาทไม่ถือว่าน้อย

มาดูข้อมูลด้านทรัพย์สิน ‘กิตติพัทธ์’ มีเงินฝาก ๗,๔๖๙,๐๖ บาท เงินลงทุน ๙๐๐,๐๐๐ บาท เงินให้กู้ยืม ๑,๐๕๐,๐๐๐ บาท ที่ดิน ๑๐ แปลง มูลค่า ๒๒,๒๑๐,๐๐๐ บาท บ้านชั้นเดียว ๑ หลัง ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท และยานพาหนะ ๑,๑๖๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๒๙,๔๒๗,๔๖๙.๐๖ บาท ส่วนภริยามีเงินสด ๓๓๐,๐๐๐ บาท เงินฝาก ๑๔,๙๖๖.๒๕ บาท ที่ดิน ๑ แปลง มูลค่า ๔๐๐,๐๐๐ บาท บ้านชั้นเดียว ๑ หลัง ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๒๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๗๖๔,๙๖๖.๒๕ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคน ๓๒,๐๙๒,๔๓๕.๓๑ บาท 

ในขณะที่รายการหนี้สิน ‘กิตติพัทธ์’ มีเงินเบิกเกินบัญชี ๗๕๑,๕๓๔.๔๘ บาท เงินกู้จากธนาคาร ๒,๒๘๒,๔๔๕.๒๒ บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ๕,๔๒๖,๐๐๐ บาท รวมหนี้สิน ๘,๔๕๙,๙๗๙.๗๐ บาท ส่วนภริยามีเงินเบิกเกินบัญชี ๘๗๒,๖๐๔.๑๙ บาท เงินกู้จากธนาคาร ๕๐๐,๐๐๐ บาท และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ๒๔๐,๐๐๐ บาท รวมหนี้สิน ๑,๖๑๒,๖๐๔.๑๙ บาท รวมหนี้สินทั้งสองคน ๑๐,๐๗๒,๕๘๓.๘๙ บาท

‘ทองแม้น’ ทต.โคกกรวด

ทองแม้น จรโคกกรวด

‘ทองแม้น จรโคกกรวด’ อายุ ๖๗ ปี นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด จัดว่าเป็น “นายกเทศมนตรี” หน้าใหม่ แต่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีฯ มาก่อนระหว่าง พ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๖๔ มีคู่สมรสคือ “ปราศรัย จรโคกกรวด” อายุ ๖๕ ปี มีลูก ๒ คน ทั้งนี้ ‘ทองแม้น’ แสดงรายได้เป็นเงินเดือน ๓๔๒,๐๐๐ บาท ให้เช่าบ้าน ๑๕๐,๕๐๐ บาท และรายได้จากการทำไร่ข้าวโพด ๓๐๐,๐๐๐ บาท รวมรายได้ ๗๙๒,๕๐๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๕๐๐,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนรถยนต์ ๑๔๓,๗๗๒ บาท ค่าเบื้ยประกันชีวิต ๑๗,๙๐๐ บาท เสียภาษี ๓๔๒,๐๐๐ บาท ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวของภริยา ๒๔๐,๐๐๐ บาท

• ทรัพย์สิน ๔๓ ล้าน

ทรัพย์สินของ ‘ทองแม้น’ แยกเป็น เงินฝากจำนวน ๖๕,๑๕๘.๘๓ บาท ที่ดิน ๑๕ แปลง มูลค่า ๒,๕๘๘,๒๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า ๑๖,๕๗๘,๘๐๐ บาท และรถยนต์ ๑ คัน มูลค่า ๔๐๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๑๙,๘๓๒,๑๕๘.๘๓ บาท ส่วนภริยามีเงินฝาก ๕๖,๔๐๙.๑๗ บาท ที่ดิน ๑๘ แปลง มูลค่า ๒๒,๘๒๕,๓๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๖๑๓,๒๐๐ บาท รถยนต์ ๑ คัน มูลค่า ๔๕๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๒๓,๙๔๔,๙๐๙.๑๗ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคน ๔๓,๗๗๗,๐๖๘ บาท ในส่วนของหนี้สิน “นายกฯ ทองแม้น” ระบุมีเงินเบิกเกินบัญชี ๖๐๐,๐๐๐ บาท และเงินกู้ธนาคาร ๔,๐๙๐,๕๐๖.๔๖ บาท รวมหนี้สิน ๔,๖๙๐,๕๐๖.๔๖ บาท ส่วนคู่สมรสไม่ระบุหนี้สิน 

‘ธูป’ ทต.ตลาด

ธูป รอดจอหอ

‘ธูป รอดจอหอ’ นายกเทศมนตรีตำบลตลาด นับเป็นนายกฯ สูงวัย เพราะอายุ ๗๓ ปี ช่วงปีพ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๖๑ เคยเป็นส.ท. และในปี ๒๕๖๑ เป็นรองนายกเทศมนตรีฯ ส่วนคู่สมรสคือ “จุฑามาศ บุญรอดจอหอ” อายุ ๖๗ ปี มีลูก ๓ คน ‘ธูป’ ระบุรายได้เป็นเงินเดือน ๔๘๐,๐๐๐ บาท รายได้จากการทำนา ๔๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนคู่สมรสมีรายได้จากการให้เช่าบ้าน ๓๒๔,๐๐๐ บาท และขายของชำ ๔๖๕,๐๐๐ บาท ในขณะที่ ‘ธูป’ มีรายจ่าย เป็นค่าอุปโภคบริโภค ๒๔๐,๐๐๐ บาท ค่าพืชผลทางการเกษตร ๖๐,๐๐๐ บาท ส่วนคู่สมรสมีค่าอุปโภคบริโภค ๑๒๐,๐๐๐ บาท และเสียภาษี ๗๘๙,๐๐๐ บาท

• ๔๓ ล้านก็ถือว่าล่ำซำ

 ส่วนทรัพย์สิน “นายกฯ ธูป” แยกเป็นเงินฝาก จำนวน ๒๕๗,๘๑๙,๑๗ บาท ที่ดิน ๗ แปลง มูลค่า ๒๘,๗๐๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๕,๔๐๐,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๒,๙๐๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๓๗,๒๕๗,๘๑๙.๑๗ บาท ส่วนคู่สมรส มีเงินฝาก ๑๖๖,๕๗๔.๒๐ บาท ที่ดิน ๗ แปลง มูลค่า ๕,๘๗๕,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๓๕,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๖,๐๗๖,๕๗๔.๒๐ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคน ๔๓,๓๓๔,๓๙๓.๓๗ บาท นอกจากนี้ ในส่วนของคู่สมรสมีเงินกู้จากธนาคาร ๕๐๘,๒๘๐.๘๒ บาท

‘สุชาติ’ ทต.พุดซา

สุชาติ รอดหมื่นไวย

“สุชาติ รอดหมื่นไวย” นายกเทศมนตรีตำบลพุดซา ปัจจุบันอายุ ๔๙ ปี ระหว่างปี ๒๕๕๕-๒๕๖๓ เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๑๖ ตำบลพุดซา และช่วงปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ ระบุอาชีพร้บจ้าง และสถานภาพหย่า มีลูก ๒ คน โดย ‘สุชาติ’ มีรายได้จากค่าจ้าง ๕,๘๘๐,๐๐๐ บาท ส่วนรายจ่าย แยกเป็นค่าจ้างแรงงาน ๓,๒๑๖,๐๐๐ บาท และค่าซ่อมบำรุง ๒,๓๕๒,๐๐๐ บาท รวมรายจ่าย ๕,๕๖๘,๐๐๐ บาท เสียภาษี ๔๒,๔๕๗.๑๓ บาท

• พ่อหม้ายกับทรัพย์สิน ๙๒ ล้าน

รายการทรัพย์สิน ประกอบด้วย เงินฝาก ๒๘๔,๓๒๔.๘๐ บาท เงินลงทุน ๑๖,๙๐๑.๗๐ บาท ที่ดิน ๓๘ แปลง มูลค่า ๓๒,๑๓๖,๗๕๔ บาท ได้มาจากการซื้อทั้งหมด ยานพาหนะ ๒๖,๓๑๘,๐๐๐ บาท (รถยนต์ ๔๔ คัน มีทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์บรรทุก รถแทรกเตอร์ รถบดถนน รถโดยสารประจำทาง ไมโครบัส และรถจักรยานยนต์ ๔ คัน) สิทธิและสัมปทาน ๓๒,๙๗๗,๘๓๒ บาท และทรัพย์สินอื่น (ปืน แหวนเพชร นาฬิกา สร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง) ๙๕๒,๔๔๘ บาท รวมทรัพย์สิน ๙๒,๖๘๖,๒๖๐.๕๐ บาท ส่วนหนี้สินมีเงินเบิกเกินบัญชี ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เงินกู้ธนาคาร ๒๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมหนี้สิน ๒๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท

‘บรรจบ’ ทต.สุรนารี

บรรจบ ม่วงแม้น

นายกเทศมนตรีตำบลสุรนารี “บรรจบ ม่วงแม้น” วัย ๕๐ ปี ผู้สามารถเอาชนะลูกชายอดีตนายกเทศมนตรีหลายสมัยได้ โดยระหว่างปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ เคยนั่งเก้าอี้ ผู้จัดการบุคคลโรงงาน บริษัท อุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด หรือ จิมทอมป์สัน ที่อำเภอปักธงชัย สมรสกับ อรอุมา ม่วงแม้น หัวหน้าแผนกที่จิมทอมป์สัน มีลูกชายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ๑ คน ทั้งนี้ ‘บรรจบ’ ระบุรายได้ต่อปี มาจากเงินเดือน ๔๗๘,๘๐๐ บาท ค่าเช่า ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท ส่วนคู่สมรสมีรายได้จากเงินเดือน ๓๒๒,๐๔๑.๖๗ บาท ในขณะที่รายจ่ายของ ‘บรรจบ’ เป็นค่าผ่อนที่อยู่อาศัย ๒๓๑,๐๐๐ บาท ค่าผ่อนกิจกรรมหอพัก ธอส. ๑,๐๒๘,๘๐๐ บาท ค่าผ่อนรถยนต์ ๑๙๘,๔๘๐ บาท ค่าอุปโภคบริโภค ๒๐๐,๐๐๐ บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๑๑๔,๐๐๐ บาท ค่าเทอมบุตร ๘๖,๐๐๐ บาท ค่าอุปการะบิดา-มารดา ๓๖,๐๐๐ บาท เสียภาษี ๔๗๘,๘๐๐ บาท ส่วนคู่สมรสมีค่าผ่อนที่อยู่อาศัย ๒๗,๖๐๐ บาท ค่าอุปโภคบริโภค ๑๕๐,๐๐๐ บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ๓๖๕,๖๐๐ บาท เสียภาษี ๓๒๒,๐๔๑.๖๗ บาท ในขณะที่บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีค่าเบี้ยประกัน ๓๕,๗๒๐ บาท และค่าอุปโภคบริโภค ๓๖,๐๐๐ บาท

• มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน

สำหรับรายการทรัพย์สิน แยกเป็นเงินลงทุน ๑,๐๑๐,๓๓๕.๕๑ บาท ที่ดิน ๒ แปลง มูลค่า ๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๘,๕๐๐,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๗๗๙,๙๙๙ บาท รวมทรัพย์สิน ๑๘,๒๙๐,๓๓๔.๕๑ บาท ส่วนคู่สมรสมียานพาหนะมูลค่า ๘๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคน ๑๘,๓๗๐,๓๓๔.๕๑ บาท ส่วนหนี้สินของ ‘บรรจบ’ แยกเป็น เงินเบิกเกินบัญชี ๒๕๓,๗๓๙.๑๒ บาท เงินกู้ธนาคาร ๗,๗๗๗,๒๒๖.๗๐ บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ๗๗๘,๓๒๐ บาท รวมหนี้สิน ๘,๘๐๙,๒๘๕.๘๐ บาท ส่วนคู่สมรสมีเงินเบิกเกินบัญชี ๕๓๒,๗๑๕.๓๙ บาท เงินกู้จากธนาคาร ๗๓๖,๕๙๙.๘๓ บาท รวมหนี้สิน ๑,๒๖๘,๓๑๕.๒๐ บาท รวมหนี้สิน ทั้งสองคน ๑๐,๐๗๗,๖๐๑ บาท

“โคราชคนอีสาน” นำข้อมูลทรัพย์สินและหนี้สินของ “นายกเทศมนตรีตำบล” หน้าใหม่ ๙ แห่งในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา มาเผยแพร่แล้ว ส่วน “นายกเทศมนตรี” คนเก่าอีก ๗ คน จะนำมาเสนอในวาระถัดไป และเชิญชวนประชาชนมาร่วมด้วยช่วยตรวจสอบการทำงานของผู้บริหารเหล่านี้ว่าจะเป็นอย่างไร และเมื่อครบวาระการดำรงตำแหน่งแล้ว สถานะของเงินในบัญชีและทรัพย์สินที่มีอยู่นี้ จะเหมือนเดิม หรือเพิ่มหรือลดอย่างไร

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๙๓ วันพุธที่ ๒๕ - วันอังคารที่ ๓๑ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔


1009 1658