16thApril

16thApril

16thApril

 

August 09,2022

รวบโจรแม่ลูกสาม อ้างไม่มีเงินส่งลูก เลือกเหยื่อมีอายุ อยู่บ้านเพียงลำพัง

รวบโจรแม่ลูกสามตระเวนฉกทรัพย์คนแก่อยู่บ้านลำพังแม่เฒ่า 90 ก็ไม่เว้นหมายจับเพียบเกือบ 10 คดีอ้างไม่มีเงินส่งลูกเรียน

 

ตำรวจ สภ.นาโพธิ์  จ.บุรีรัมย์  รวบโจรแม่ลูกสามตระเวนฉกทรัพย์คนแก่อยู่บ้านคนเดียว  ทำทีพูดคุยตีสนิทให้เผลอก่อนฉกเอาเงินแล้วขับรถหนี  แม่เฒ่าวัย 90 แทบก็ไม่เว้น   อ้างปลูกผักขายรายได้ไม่พอส่งลูกเรียนจึงก่อเหตุ   แต่ ตร.ไม่เชื่อเพราะมีหมายจับหลายจังหวัดเกือบ 10 คดี ทั้งเคยถูกจับติดคุกมาแล้วแต่พ้นโทษออกมาก็ไม่สำนึกยังก่อเหตุซ้ำ  คนแก่ที่ตกเป็นเหยื่อแห่ชี้ตัว ผู้ต้องหาก้มกราบขอโทษยายสั่งสอนอย่าทำแบบนี้อีก


เมื่อวันที่ 6 ส.ค.65  พ.ต.ท.ประภาส   พวงศรี   รองผู้กำกับการ (สอบสวน)  สภ.นาโพธิ์  จ.บุรีรัมย์  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ภ.นาโพธิ์   ได้ติดตามจับกุมตัว น.ส.จรัสศรี   เสนาภักดิ์   อายุ  40 ปี ชาว อ.ธวัชบุรี  จ.ร้อยเอ็ด  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.บุรีรัมย์   คดีลักทรัพย์ในเคหะสถาน  ได้ที่บริเวณถนนบ้านหนองหว้า  ต.นาโพธิ์  อ.นาโพธิ์  ขณะขับรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะหลบหนี   สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31  ก.ค. และ 1 ส.ค.65 ที่ผ่านมา  ผู้สูงอายุหลายรายในพื้นที่ อ.นาโพธิ์  ได้ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่ามีคนร้ายเป็นหญิงอายุประมาณ 35 – 40 ปี  ขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ผู้สูงอายุในหมู่บ้าน  โดยพฤติการณ์จะทำทีตีสนิทหลอกให้เหยื่อเผลอก่อนจะฉกเอาเงิน  บัตรเอทีเอ็ม และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ยายซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือตามจุดต่างๆ  แล้วรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนี     ซึ่งหลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกสืบสวนหาข้อมูลเบาะแส  ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่คนร้ายขับรถผ่าน  รวมถึงตู้เอทีเอ็ม  ที่คนร้ายใช้บัตรของเหยื่อไปกดถอนเงิน  กระทั่งพบรูปพรรณคนร้ายและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ    ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้ยื่นขออนุมัติศาลออกหมายจับโจรสาวแสบรายดังกล่าว  พร้อมติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง   

คาดว่าน่าจะวนเวียนหาเหยื่ออีกเพราะย่ามใจที่ได้เงินจากผู้สูงอายุไปหลายราย    แต่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นและมั่นใจว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกับที่ก่อเหตุก่อนหน้านี้ที่ถูกออกหมายจับ   จึงได้วิทยุให้สกัดจับแต่คนร้ายพยายามขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี  เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามขับติดตามไปไกลกว่า 10 กม.  จึงสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ   ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.นาโพธิ์ 

ซึ่งทันทีที่นำตัวมาถึงโรงพักผู้ต้องหาเห็นเหยื่อที่ตนเองก่อเหตุลักทรัพย์  ก็เข้าไปก้มกราบขอโทษอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ   ขณะที่ยายโหน   เศษมาก อายุ 69 ปี   หนึ่งผู้เสียหายก็ได้ใช้มือจับศรีษะผู้ต้องหาแล้วพูดสั่งสอนว่าอย่าทำแบบนี้อีก  ให้สงสารคนแก่บ้าง   เพราะเงินแต่บาทที่ลูกหลานหามาก็ยากลำบากและยายต้องเก็บไว้ใช้จ่ายและซื้อกิน  โดยยายบอกว่าถูกฉกเอาเงินไป 5,100 บาท เป็นเงินสด 1,100 บาท แล้วคนร้ายเอาบัตรเอทีเอ็มไปกดอีก 5,000 บาท  ทั้งยังเอาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของยายไปด้วย  ก็ดีใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว  จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก

ด้านยายไสว   แก้วไธสง   อายุ 90 ปี ผู้เสียหายอีกราย  บอกว่า  ปกติจะอยู่กับลูกสาวคนเล็ก  วันเกิดเหตุหลังจากลูกสาวออกไปทำงาน  ตนเองก็นั่งเล่นอยู่ที่บ้านคนเดียว  แล้วคนร้ายก็ขี่รถ จยย.เข้ามาจอดหน้าบ้าน  เหมือนกับรอจังหวะให้ลูกออกไปแล้วก็เข้ามา   จากนั้นก็มาพูดคุยตีสนิทแล้วจู่ๆ ก็ล้วงเอาเงินในกระเป๋าเสื้อคอกระเช้าของตนเองซึ่งมีเงินสดอยู่ 13,000 บาท  แล้วรีบขับรถหนีไปตนพยายามตะโกนให้คนช่วยแต่ไม่มีใครได้ยิน กระทั่งลูกกลับมาจึงเล่าให้ลูกฟัง แล้วมาแจ้งความ

 

ซึ่งจากการสอบปากคำ น.ส.จรัสศรี   ผู้ต้องหา  ก็ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ผู้สูงอายุในท้องที่ อ.นาโพธิ์  3 ราย ท้องที่ จ.ศรีสะเกษ 1 ราย ได้เงินหลักพันถึงหลักหมื่นบาท  หลังก่อเหตุเสร็จก็จะขับรถไปเรื่อยแวะนอนตามรีสอร์ท  อ้างว่ามีอาชีพปลูกผักขายแต่รายได้ไม่พอใจใช้จ่ายและส่งลูกเรียนถึง 3 คน  จึงได้ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์เงินผู้สูงอายุโดยจะเลือกเหยื่อที่อยู่บ้านคนเดียว   ก็จะทำทีเข้าไปพูดคุยตีสนิทพอเหยื่อเผลอก็จะฉกเอาเงินแล้วขับรถหลบหนี   อ้างว่าเงินที่ได้ก็จะส่งให้ลูกที่เรียน  และบอกว่าสำนึกผิดถ้าติดคุกออกมาจะไม่ทำอีก 

แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะจากการตรวจสอบประวัติมีผู้ต้องหามีหมายจับคดีลักทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์ เกือบ 10 หมาย อาทิ สภ.เมืองอุบลราชธานี  สภ.เมืองยโสธร    สภ.กันทรารมย์   สภ.เมืองร้อยเอ็ด  สภ.ร่องคำ   สภ.หนองแววดาว  และล่าสุดมีหมายจับ สภ.นาโพธิ์  ทั้งยังเคยถูกจับดำเนินคดี  ถูกคุมขังที่เรือนจำหลายครั้ง  แต่พ้นโทษออกมาก็ไม่สำนึกยังมาก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ผู้สูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียวซ้ำอีก  เบื้องต้นได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน”  ซึ่งหากใครที่ตกเป็นเหยื่อก็สามารถมาแจ้งความและชี้ตัวเพิ่มเติมได้ที่ สภ.นาโพธิ์


702 1343