19thApril

19thApril

19thApril

 

November 25,2022

ชาวนาโอด ฝนตกตากข้าวไม่แห้ง ถูกกดราคาเพราะข้าวชื้น

วันนี้ (24 พ.ย.65) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้ออกสำรวจพื้นที่ทำนา ในเขตอำเภอสำโรงทาบ อำเภอศีขรภูมิ และอำเภอลำดวน  จังหวัดสุรินทร์ พบชาวนากำลังนำข้าวเปลือกนำมาตากแดด ในบริเวณถนนหน้าบ้านและตามท้องถนน ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อนำข้าวเปลือกมาตากแล้วในช่วงวันนี้ ก็มีอุปสรรค์คือมีฝนตกลงมา และเมื่อนำไปขายแล้วจะถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาต่ำ  โดยอ้างว่ามีความชื้นมากจากราคาที่ประกาศเอาไว้ 12 บาท พอนำไปขายจริงได้เพียง 8.50 ตังค์เท่านั้น 

นายบุญเยี่ยม สืบสาย อายุ 54 ปี บ้านหนองผักบุ้งตำบลแตล  อำเภอศีขรภูมิ  จังหวัดสุรินทร์  เผยว่าตนเองทำนาจำนวน 10 ไร่ ให้รถเกี่ยวมาเกี่ยวข้าวให้ไร่ละ 600 บาท ไหนค่าปุ๋ยอีกกระสอบละ 1,400 บาท และค่าแรงค่าจิปาถะรวมแล้วถ้าหากนำไปขายถ้า ได้ราคาอยู่ที่ 15 บาท คงจะคุ้ม แต่พอนำมาขายได้ราคาที่ถูกกดต่ำสุดคือกิโลละ 8 บาท 50 สตางค์ ทำให้ตนเองเสียความรู้สึกกับราคาข้าวที่นำไปขาย

นายบุญเยี่ยม ยังบอกอีกว่า ถือว่ายังโชคดีที่ทางรัฐบาลที่มีความห่วงใยชาวนาทั่วประเทศและมอบนโยบายให้ ธ.ก.ส.เร่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรตามมติคณะรับมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่15 พฤศจิกายน 2565 ต่อมาคณะกรรมการ ธ.ก.ส.มีมติเมื่อวันที่ 21พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบให้ธ.ก.ส.ดำเนินมาตรการช่วยเหลือและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายได้นำเงินในการประกันราคาข้าวไร่ละ 1,000 บาท และได้เงินจำนวนนี้ได้ไปจ่ายค่าเก็บเกี่ยวและได้ลดราคาค่าปุ๋ยลงได้พอบรรเทาความลำบาก  และอยากให้ทางรัฐบาลช่วยผลักดันราคาข้าวเปลือกนาปี ให้อยู่อย่างต่ำกิโลกรัมละ 15 บาท ชาวนาพออยู่ได้

ถึงอย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจตามพื้นที่ต่างๆของพี่น้องเกษตรกรที่พากันนำข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วนำมาตากอยู่บนท้องถนนต่างก็บ่นท้อแท้กับสภาวะฝนที่ตกมานอกฤดูกลาลทำให้ขนเข้าขนออกมาทุกเช้าเย็นและบางรายถึงกับบ่นและท้อแท้ว่าข้าวที่ตนเองที่เก็บเกี่ยวมาเมล็ดข้าวจะสวยมากตากแดดเสร็จแล้วนำไปขายก็ถูกกดราคาให้ราคาที่ต่ำมากอ้างว่าเมล็ดข้าวดำบ้างแดงปะปนมาบ้างและความชื้นบ้าง เกิดเป็นชาวนาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินกว่าจะได้เมล็ดข้าวที่นำมาตากแดดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายจึงวอนไปถึงทางรัฐบาลให้ออกมาราคาประกันราคาข้าวให้  ชาวนาจะลืมตาอ้าปากได้และฝากถึงนายทุนอย่ากดราคาชาวบ้านจนเกินไปอย่างน้อยก็ขอให้ชาวนาได้รับความยุติธรรมบ้าง

ขณะที่นางจำปี  ก้านอินทร์ อายุ 79 ปี  ชาวบ้านกระโพ ม.1  ต.กระโพ  อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งทำนาอยู่ 34 ไร่ ก็นำข้าวมาตากไว้บนลานซีเมนต์ภายในวัดโพธิ์ทอง และได้นำลูกหลาน มาช่วยกันเกลี่ยผึ่งข้าวที่เปียกชื้นเพื่อไม่ให้ข้าวอมน้ำ เพราะเกรงว่าเมล็ดข้าวจะงอก นางจำปี บอกว่า เมื่อวานฝนตกหนัก แล้วกลางคืนตกมาอีก 2 รอบ ข้าวที่ตากไว้เปียกหมดเลย ไม่รู้หน้าหวานหรือหน้าฝนกันแน่ ทำนาปีนี้ลำบาก ตากข้าวกำลังจะแห้งก็โดนฝนตกลงมาใส่ 2-3 รอบแล้วที่โดนฝน

ด้านนางปนัดดา ก้านอินทร์ อายุ 48 ปี ลูกสาวนางจำปี บอกว่า ตนตากข้าวมาได้ 2 วันแล้ว กำลังจะแห้งเตรียมเก็บขึ้นยุ้ง ก็โดนฝนตกลงมาอย่างหนักตอนเที่ยงคืน 2 รอบ จนข้าวลอยตามน้ำ เลยต้องเริ่มต้นตากใหม่ และต้องย้ายจากจุดที่มีน้ำขัง ไม่อย่างนั้นข้าวจะงอกอีก แต่ราคาข้าวก็ดีกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ แต่ค่าปุ๋ยก็แพงปีนี้ แล้วมาเจอแบบนี้ก็แย่เหมือนกัน ถ้าไม่มีแดดวันสองวันนี้กลัวแต่ข้าวจะงอกก่อน จึงต้องมาผึ่งและเกลี่ยกันแบบนี้ ส่วนคนที่ตากบนดินยิ่งลำบากกว่านี้อีก


705 1344