3rdMay

3rdMay

3rdMay

 

March 07,2024

‘ผู้ว่าฯ สยาม’อำลาโคราช แม้อยากอยู่ให้นานที่สุด แต่จะเร่งผลักดันสายการบิน

 

 

เป็นผู้ว่าฯ โคราชแค่ปีเศษๆ ที่สุดแล้ว “สยาม ศิริมงคล” ก็ถูกย้ายไปนั่งเก้าอี้อธิบดี พช. สลับกับ “ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม” ยอมรับอยากอยู่โคราชให้นานที่สุดไม่เคยดิ้นรนไปที่อื่น ไม่เคยวิ่งเต้นเรื่องเก้าอี้ แต่เป็นวิถีข้าราชการ จะเร่งรัดผลักดันให้เกิดการบินพาณิชย์ที่โคราช

ตามที่เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๐ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ได้แก่ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ทรงคุณวุฒิ) ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, นายวัชรเดช เกียรติชานน ที่ปรึกษาด้านการปกครอง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ทรงคุณวุฒิ) ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.), นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน, นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน และนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

 

อำลาส่วนราชการ

โดยเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายสยาม ศิริมงคล กล่าวในที่ประชุมกรมการจังหวัดนครราชสีมาประจำเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ณ หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ว่า “หลายท่านคงทราบดีว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีมติคณะรัฐมนตรีให้ผมย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย การย้ายแม้จะมีความชัดเจนแล้วแต่ต้องรอความสมบูรณ์ ทั้งนี้ตั้งแต่วันมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะใช้เวลาแค่ไหน แต่โดยทั่วไปอาจจะมาณ ๒-๔ สัปดาห์ เป็นที่คาดหมายว่า ผมอาจจะอยู่ไม่ในนครราชสีมาไม่ถึงสินเดือนมีนาคมนี้ จึงตั้งใจจะมาบอกกล่าวทุกท่านด้วยตัวเอง การย้ายไปดำรงตำแหน่งใหม่ จะเห็นว่าเพื่อนข้าราชการบางคนก็ไม่ตรง บางครั้งไปโดยไม่ได้ลาในที่ประชุมประจำเดือน บางครั้งไปโดยไม่รู้ตัวล่วงหน้า แต่อย่างไรก็ตามถือเป็นวิถีข้าราชการ ครั้งนี้ถือเป็นเส้นทางข้าราชการของผม”

 

ไม่เคยวิ่งเต้นเรื่องตำแหน่ง

นายสยาม กล่าวว่า ตนเหลืออายุราชการประมาณ ๑๐ ปี วันแรกที่มาโคราชบอกกับทุกคนว่า จะพยายามอยู่กับพี่น้องชาวโคราชให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ซึ่งก็ประพฤติแบบนั้น ไม่เคยไปวิ่งเต้นว่าอยากจะไปอยู่ตำแหน่งไหน แม้แต่ครั้งนี้ ตนพูดกับหลายคนว่าถ้าเลือกได้ขออยู่ในที่ที่ตัวเองอยากอยู่ พูดตรงๆ ว่าตอนนี้ตนยังอยู่นครพนม รู้สึกว่ากำลังดีแล้ว เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่เกินไป มีสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สวยงาม มีผู้คนที่ไม่มากเกินไป มีความใกล้ชิดระดับชาวบ้าน เดินไปเจอกันเช้าเย็น ตามตลาด ตลาดนัดอำเภอนั้นอำเภอนี้ ไม่มีที่ไม่รู้จักกัน แม้เราจะจำพี่น้องเหล่านั้นไม่ได้ แต่เขาจำเราได้ พอย้ายมาอยู่อุดรธานีก็เป็นอีกแบบ พอมาโคราชก็เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 

 

อยากอยู่โคราชต่อ

“การโยกย้ายแต่ละครั้งไม่รู้ตัวล่วงหน้า รวมทั้งครั้งด้วย บางคนก็ว่าตำแหน่งระดับนี้จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่รู้ตัวล่วงหน้า ก็ไม่ถึงขนาดนั้น มีสัญญาณมาเป็นช่วงๆ เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ท่านชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน ซึ่งเคยเป็นรองผู้ว่าราชการหวัดนครราชสีมา และเคยเป็นนายอำเภอเสิงสาง ลาออกจากราชการ หลังจากนั้นไม่กี่วันท่านผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เสียชีวิตด้วยอาการเจ็บป่วยกะทันหัน ดังนั้นเมื่อตำแหน่งหลักว่างจึงต้องมีการหมุนเวียน โดยเฉพาะประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่มีความสำคัญ ต้องส่งผู้ที่มีประสบการณ์ไปหมุนเวียนกัน จึงเป็นการโยกย้ายหมุนเวียน ซึ่งผมก็คิดว่าตัวเองต้องไปเป็นอะไรสักอย่าง ไม่ได้คิดจะไปเป็นอธิบดี ในหลายจังหวัดมีผู้ว่าฯ ที่อาวุโสกว่าผมไม่มาก คือที่อุดรธานีกับนครปฐมซึ่งเกษียณปีนี้ เชียงใหม่ก็อาวุโสเท่ากันแต่อายุตัวอาวุโสกว่าผม จึงอาจจะมีโอกาสเป็นเรา ปลัดกระทรวงมหาดไทยถามว่ามีความคิดอย่างไร ผมก็บอกว่า ก็แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาจะเห็นว่าเหมาะสมว่าควรไปทำหน้าที่ตรงไหน แต่ว่า มีแต่นิดหนึ่งเพราะเราเริ่มปีกกล้าขาแข็ง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะอยู่โคราชต่อ แล้วก็เงียบหายไป จนได้ยินข่าวว่ามีการนำเสนอชื่อผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เข้าครม. อาทิตย์แรกไม่เข้า อาทิตย์ที่สองเข้า ก็ตรงตามที่เป็นข่าว” นายสยาม กล่าว

 

ไม่ดิ้นรนไปที่อื่น

นายสยาม กล่าวอีกว่า ตนรู้ตัวล่วงหน้าไม่นาน แต่ในใจก็มีหลายอย่าง เช่น ข้าราชการความใฝ่ฝันก็ไม่มีใครอยากไปเป็นปลัดกระทรวง อยากเป็นผู้ว่าฯ ในผู้ว่าฯ ก็มีหลายจังหวัด กว่าจะเดินมาถึงโคราช ไม่ทราบว่าในอดีตเป็นอย่างไร แต่สำหรับตนกว่าจะมาถึงก็เวียนไปหลายปี อายุ ๔๖ ปีเต็มจึงได้มาเป็นผู้ว่าฯ โคราช ซึ่งอาวุโสมากแล้วในระบบราชการ เคยเป็นผู้ตรวจราชการฯ ตอนอายุ ๔๓ ปี เป็นผู้ว่าฯ นครพนมอีก ๒ ปี เป็นผู้ว่าฯ อุดรธานีอีก ๒ ปีจึงได้มาโคราช กว่าจะมาถึงโคราชก็ผ่านอะไรมาเยอะ ฟันฝ่าอะไรมามาก พอมาถึงโคราชยืนยันเลยว่า ไม่มีทางที่จะดิ้นรนไปอยู่ที่อื่น ต่อให้เป็นอธิบดีกรมไหนก็ตาม หรือว่าตำแหน่งที่คนใฝ่ฝันปรารถนาก็ไม่มี จะดิ้นรนไปทำไม ยังเหลือชีวิตราชการอีก ๑๐ ปี เรารู้ตัวดี ถามว่า ใครจะตั้งตนเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะเหลือเวลาอีกตั้ง ๑๐ ปี กระทรวงอื่นอาจจะมี แต่มหาดไทยไม่มีทาง ต่อให้ตั้งได้ก็อยู่ไม่ได้ การเมืองก็มีการปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ ตามยุคสมัย เพราะฉะนั้นตนรู้ดีว่า ณ เวลาไหนควรอยู่ที่ไหน แม้ใจจะอยากอยู่กับพี่น้องชาวโคราช แต่ว่าลึกๆ ในใจนั้นก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ รู้สึกภาคภูมิใจว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีภารกิจที่มีความสำคัญ ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจเลือกให้ไปทำหน้าที่นั้น ซึ่งอธิบดีในกระทรวงมหาดไทยมี ๖ กรม ถือว่าเป็นสถานะที่มีความสำคัญ ผู้ว่าฯ ๗๖ คน ไปเป็นอธิบดี ๑ ใน ๖ คน ก็ถือว่ามีความภูมิใจในแง่นั้น แต่ที่ผ่านมา มีความสบายใจที่ได้อยู่กับเพื่อนข้าราชการ ภาคเอกชน พี่น้องประชาชนชาวโคราช

 

 

ไม่มีการเลี้ยงส่ง

“ตั้งใจว่า อยู่ที่ไหนก็จะทำนุบำรุงที่ๆ เคยอยู่ กรมการพัฒนาชุมชนดูแลทั่วประเทศ แม้จะไม่ใช่กรมที่มีบารมีหรือพระเดชพระคุณเหมือนหน่วยงานอื่น ไม่เหมือนตำรวจ ทหาร หรือฝ่ายปกครอง กรมการพัฒนาชุมชนถือเป็นหน่วยงานระดับรากหญ้า มีภารกิจและบุคลากรถึงระดับตำบล มีพัฒนากรตำบล ชาวบ้านค่อนข้างคุ้นเคย ภารกิจที่ได้รับมอบหมายยังผูกพันกับหน่วยงานภูมิภาค ต้องวนเวียนพบปะกันอยู่แล้ว การไปลามาไหว้เป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าสิ้นเดือนมีนาคมแล้วยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ก็ยังเจอผมอีก จะไม่รู้ล่วงหน้า ดังนั้นจะไม่มีงานเลี้ยงส่ง” นายสยาม กล่าว

 

ผู้ว่าฯ คนใหม่ไม่มีใครบังคับมา

นายสยาม กล่าวต่อไปว่า “อยากอยู่กับพี่น้องชาวโคราชให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ แต่ด้วยวิถีทางราชการเป็นการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชาให้มีการเปลี่ยนในช่วงกลางปีก็ต้องไปตามนั้นด้วยความเต็มใจ ด้วยความภาคภูมิใจว่าผู้บังคับบัญชาเห็นว่าเราพอจะทำงานสำคัญได้ และไม่มีการเลี้ยงส่ง โดยปกติธรรมชาติของผมไม่มีเลี้ยงส่งอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่รู้จักคน ทำงานก็รู้จักคนมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนแต่ไม่อยากให้เป็นภาระ เลี้ยงส่งก็ยังดี แต่ว่าถ้าเลี้ยงยินดีนี้ยุ่งเลย เพราะการย้ายครั้งนี้เป็นการย้ายสลับ โคราชเป็นจังหวัดที่ดี ผมยืนยันว่าผมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เมื่อใดก็ตามที่ไปยืนอยู่ในแวดวงข้าราชการในประเทศ ไม่ว่าจะเป็๋นภูมิภาคหรือส่วนกลางก็ตาม ผมไม่ได้รู้สึกว่าสถานะของผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมานั้นด้อยกว่าอธิบดีกรมใดกรมหนึ่งในประเทศ สามารถที่จะยืนด้วยกันอย่างเท่าเทียม ด้วยสถานะของข้าราชการในส่วนภูมิภาค ผู้ว่าฯ ที่จะมาแทนผมก็มาด้วยความเต็มใจ มีพื้นเพอยู่ที่นี่อยู่แล้ว หลายท่านรู้จักดี มาด้วยความเต็มใจ และเลือกที่จะมาโคราชด้วยตัวเองด้วยซ้ำ ไม่มีใครบังคับให้มา” 

 

โคราช’พื้นที่ที่ขรก.ใฝ่ฝัน

ทั้งนี้ นายสยามยังกล่าวอีกว่า “ผู้บังคับบัญชาเก่าของผมคือท่านพงศ์โพยม วาศภูติ จากการเป็นผู้ว่าฯ หลายจังหวัด ตาก นราธิวาส ภูเก็ต ไปเป็นอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น และอธิบดี ปภ. แต่วันหนึ่งคณะรัฐมนตรีก็มีมติให้มาเป็นผู้ว่าฯ นครราชสีมา ที่ผมพูดเพราะอยู่ใกล้ชิด ท่านบอกว่าสบายใจมากที่มาอยู่โคราช ตั้งใจจะมาเกษียณที่นครราชสีมาเพราะเหลืออายุราชการ ๓-๔ ปี แต่ก็ไม่ใช่ ทุกวันนี้ก็ยังมีความผูกพันและประทับใจกับโคราช จึงขอให้ภาคภูมิใจที่ได้มาอยู่ที่นครราชสีมา ถือเป็นจังหวัดที่เป็นความใฝ่ฝันของคนที่มาเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ครั้งหนึ่งขอให้มาเป็นหัวหน้าส่วนราชการที่จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าชีวิตมีความสมบูรณ์ ซึ่งเส้นทางของผม เป็นผู้ว่าฯ ครั้งแรกที่นครพนม ริมโขง สุดประเทศ ไปอุดรธานีก็ดี เป็นจตุรเทพของภาคอีสาน (โคราช ขอนแก่น อุบลฯ อุดรฯ) คนภายนอกมองว่ามีความก้าวหน้าขึ้น พอมาอยู่โคราชก็ถือว่าสุดขีดแล้ว ผมก็เติบโตอยู่ในภาคอีสาน ถือเป็นที่มุ่งหมายของผู้คนในแวดวงราชการ” 

 

ผลักดันการบินพาณิชย์

ท้ายสุด นายสยามกล่าวว่า ตนต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ มีหลายภารกิจที่ต้องขับเคลื่อน ยิ่งจะไปยิ่งต้องรีบทำ หลายอย่างต้องรีบทำทิ้งไว้ ตอนนี้กำลังเร่งรัดผลักดันให้เกิดการบินพาณิชย์ ความจริงท่าอากาศยานมีแล้ว ต้องเร่งรัดให้เกิดการบินพาณิชย์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับความเมตตาจากผู้บัญชาการทหารอากาศปัจจุบัน มีทิศทางที่ดี แต่ยังมีขั้นตอนระเบียบทางการบิน จะต้องเร่งรัด ธนารักษ์จะต้องช่วยกัน เพราะต้องหาพื้นที่รองรับในการผลักดันให้เกิดศูนย์ประชุมนานาชาติ หลายอย่างที่จะต้องผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นแม็กเน็ตของภาคอีสาน ในการดึงดูดการพัฒนาเพื่อที่จะกระจายลงไปในพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมด ถ้าโคราชดี รอบๆ ก็ดีไปด้วย

 

เส้นทางชีวิตราชการ “สยาม ศิริมงคล”

อนึ่ง นายสยาม ศิริมงคล (เก๋า) เกิดเมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๑๗ จบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็น “สิงห์ดำ” และระดับปริญญาโทรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จบหลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ ๖๑ (วิทยาลัยการปกครอง) และหลักสูตรนักปกครองชั้นสูง รุ่นที่ ๘๐ (สำนักงาน ก.พ.) นอกจากนี้ ยังเคยได้รับการแต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้เลขาธิการสมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ส.ร.จ.) ประจำปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ และปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙


“ผู้ว่าฯ สยาม” เคยรับราชการในตำแหน่งสำคัญ ดังนี้ พ.ศ.๒๕๕๔-๒๕๕๕ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย, พ.ศ.๒๕๕๗-๒๕๕๘ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย, พ.ศ.๒๕๕๘-๒๕๖๐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ, พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๑ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๑-๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓-๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ และล่าสุดในปี ๒๕๖๗ มีคำสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

ด้านชีวิตครอบครัว ช่วงที่นายสยามดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ อุดรธานี สมรสกับนางอรจิรา ศิริมงคล (แก้วสว่าง) หรือ “คุณนายฟ้าใส” อดีตดารานักแสดง (เกิดวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๓๗) จบการศึกษาปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันมีบุตร ๑ คน คือเด็กชายชัชรวี ศิริมงคล หรือ “น้องตวัน”  

 

เขยโคราชหวนสู่โคราช

ทางด้านนายชัยวัฒน์ (ติ๊ก) ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่จะย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ โคราชแทนนายสยาม เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๑๐ ปัจจุบันอายุ ๕๕ ปี บ้านเกิดอยู่ที่บ้านบุงคล้า หมู่ ๕ ตำบลวังสะพุง จ.เลย จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านวังสะพุง และชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนชุมชนวังสะพุง โดยไม่ได้เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษา (เนื่องจากฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน ต้องดิ้นรนขวนขวายไปสมัครสอบเทียบชั้น ม.๓ ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเลย โดยเรียนควบคู่ไปกับการศึกษาผู้ใหญ่ภาคค่ำ กระทั่งได้วุฒิ ม.๓ มาพร้อมกัน ๒ ใบ) จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเลย และการศึกษาผู้ใหญ่ภาคค่ำ จากโรงเรียนเลยพิทยาคม โดยนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ถือว่าเป็นเขยโคราช เพราะสมรสกับนางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม (ธัญญเศรษฐ์) บุตรีนายจรินทร์ ธัญญเศรษฐ์ (เสียชีวิต) เจ้าของโรงสีธัญญเจริญ

นายชัยวัฒน์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเรียนจบด้วยการได้รับเกียรตินิยมอันดับ ๒ ส่วนระดับปริญญาโท จบสาขารัฐศาสตร์ (การปกครอง) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเช่นกัน เรียกว่าเป็น “สิงห์ดำ” จบหลักสูตรการอบรมนายอำเภอ รุ่นที่ ๔๙, นักปกครองระดับสูงรุ่นที่ ๕๑, การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า รุ่นที่ ๑๗ และหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ (Top Executive Program in Commerce and Trade : TEPCoT) รุ่นที่ ๙

สำหรับประวัติการทำงานที่สำคัญ ได้แก่ ปี ๒๕๓๕-๒๕๔๖ ปลัดอำเภอ จังหวัดหนองคาย อุดรธานี เลย ขอนแก่น นครราชสีมา, ปี ๒๕๔๗-๒๕๕๑ ผู้ตรวจการส่วนท้องถิ่น/หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์, ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๕ ท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา, ปี ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, ปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย, ปี ๒๕๕๘ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, ปี ๒๕๕๘-๒๕๕๙ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๐ ที่ปรึกษาด้านการปกครอง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย, ปี ๒๕๖๐ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี, ปี ๒๕๖๐ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย, ปี ๒๕๖๓ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี, ปี ๒๕๖๔ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย, เดือนตุลาคม ๒๕๖๖ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) และล่าสุดเดือนมีนาคม ๒๕๖๗ เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๙ ฉบับที่ ๒๗๖๒ วันที่ ๑๕ เดือนกุมภาพันธ์ - วันที่ ๑๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗


80 1,812