27thJuly

27thJuly

27thJuly

 

June 10,2024

ด้อมส้มโคราชแห่ดูหนังสารคดี breaking the cycle สองผู้กำกับปลื้มกระแส FC ตอบรับดี

 

ด้อมส้มโคราชแห่ดูหนังสารคดี breaking the cycle สองผู้กำกับปลื้มกระแส FC ตอบรับดี นัยยะเข้ากับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก้าวไกลจะถูกยุบเหมือนอนาคตใหม่ไหม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน ที่โรงภาพยนตร์ SFX Cinema ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช นายชลัท ศิริวาณิชย์ ผู้ก่อตั้งโรงภาพยนตร์อิสระ 'Homeflick' เพื่อฉายภาพยนตร์นอกกระแสในจังหวัดนครราชสีมา พร้อมแนวร่วมกลุ่ม Homeflick x HAL “โฮมฟลิค” บ้านเดียวกัน ดูด้วยกัน" จัดกิจกรรมชวนคนโคราชไปดูหนังสารคดี “Breaking the Cycle – อำนาจ ศรัทธา อนาคต” รอบพิเศษ ซึ่งมีนายเอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ และนายธนกฤต ดวงมณีพร สองผู้กำกับเลือดใหม่ได้มาพบปะผู้ชมและร่วมเสวนาหลังหนังจบ พบ ส.ส เขต จ.นครราชสีมา พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย เขต 1 นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ และ เขต 3 นายศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์ พร้อมแฟนคลับด้อมส้มและพี่น้องประชาชนหลากหลายสถานะกว่า 100 คน ทยอยเดินทางมายืนเข้าคิวรอซื้อบัตรชมภาพยนตร์และร่วมถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึกกันอย่างคึกคัก

 

นายธนกฤต เปิดเผยว่า โคราชเป็นจังหวัดที่ 5 ได้มาพบปะกับผู้ชมโดยตรง ปรากฏกระแสตอบรับและความสนใจจากชาวโคราชเป็นอย่างดี ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องราวเส้นทางและชะตากรรม “'พรรคอนาคตใหม่” พรรคการเมืองใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์ให้สังคมไทยไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่สำคัญพรรคก้าวไกลกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรมคำตอบจะเป็นเหมือน “พรรคอนาคตใหม่” หรือเปล่า จึงมีผู้สนใจตีตั๋วเข้าชมค่อนข้างเนืองแน่น

 

ด้านเอกพงษ์ เปิดเผยว่า ใช้เวลากว่า 6 ปี ในการบันทึกและถ่ายทอดประวัติศาสตร์ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองไทย มาถ่ายทอดเพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาชนทุกคนยังมีความหวังและแสงสว่างในการต่อสู้ทางการเมืองในแนวทางประชาธิปไตย และอำนาจเสรีของประชาชน แม้นว่ากระแสข่าวการยุบพรรคก้าวไกล ยังเป็นที่สนใจของสังคม การฉายภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการหาเสียงเรียกคะแนนสงสารหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของการเมือง เนื่องจากกำหนดการฉายภาพยนตร์เป็นไปตามระบบไม่มีนัยยะแฝงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีแผนการดำเนินการสร้างภาพยนตร์ภาคต่อไปแต่อย่างใด

 

นายชลัท ผู้ก่อตั้งโรงภาพยนตร์อิสระ 'Homeflick' เพื่อฉายภาพยนตร์นอกกระแสในจังหวัดนครราชสีมา เผยว่า กิจกรรมครั้งนี้เกิดมาจากต้องการให้ความสำคัญกับภาพยนตร์นอกกระแสรวมทั้งเชิดชูคนทำหนังไทย สร้างสรรค์อยู่บนกรอบที่มีความอิสระ โดยเชิญ 2 ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้มาพบปะกับผู้ชมภาพยนตร์โดยตรง เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็น ขั้นตอนในการทำงาน มุมมองของภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง และอื่นๆที่น่าสนใจ ระหว่างการดำเนินการสร้างภาพยนตร์สารคดี

 


16 139