หญิงเจ้าของบ้านชาว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่จรวด BM21 ฝั่งเขมรยิงโจมตีทหารไทย ตกทะลุกลางหลังคาบ้านฝังใต้พื้นลึก 5 เมตรแต่ไม่ระเบิด EOD ต้องใช้วิธีทำลายทิ้งภายในบ้านทำให้ได้รับความเสียหาย  ล่าสุดภาครัฐเอกชนใช้งบกองทุนฯ ซ่อมสร้างบ้านเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เช่นเดียวกับอีก 14 หลัง ดีใจน้ำตาไหลขอบคุณทุกภาคส่วน  เตรียมนิมนต์พระทำบุญก่อนเข้าอยู่อาศัย  ขณะสวนยางพาราที่เสียหายกว่า 90 ไร่ วัว หมูโดนระเบิดตายก็ได้รับการชดเชยทั้งหมดแล้ว

วันที่ 24 สิงหาคม 2568 ความคืบหน้ากรณีการซ่อมสร้างบ้านให้กับประชาชน  ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ซึ่งมีบ้านเรือนถูกกระสุนปืนใหญ่ และจรวด BM21 ตกใส่บ้านและโดนสะเก็ด ทั้งในพื้นที่ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์  ได้รับความเสียหายรวม 14 หลัง วัด 1 แห่ง ล่าสุดทางหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ได้ดำเนินการซ่อมสร้างบ้านที่ได้รับความเสียหายครบทุกหลังแล้ว โดยใช้งบจากกองทุนฯ ซึ่งมีทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน  พ่อค้า ประชาชนที่มีจิตอันเป็นกุศลร่วมกันบริจาคกว่า 10 ล้านบาท เป็นทุนในการดำเนินการซ่อมสร้าง เพื่อให้เกิดความรวดเร็วไม่ติดระเบียบขั้นตอนของทางราชการ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากภัยสู้รบที่เกิดขึ้น สามารถเข้าไปอยู่ในบ้านเรือนของตัวเองให้เร็วที่สุด แต่ถึงแม้จะเป็นเงินจากกองทุนฯ ที่ได้รับบริจาค ก็จะมีการประเมินความเสียหายจากหน่วยงานภาครัฐ และการใช้เงินกองทุนฯ จะต้องผ่านคณะกรรมการฯ ที่แต่งตั้งขึ้นตามกระบวนการขั้นตอน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส

จากการสอบถาม น.ส.ทองใส ศรีเพชร ชาว อ.บ้านกรวด  เจ้าของบ้านที่ถูกจรวด BM21 ตกกลางบ้าน พูดทั้งน้ำตาว่า  ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหายให้ ตอนแรกที่กลับมาศูนย์อพยพมาเห็นบ้านก็ใจหายน้ำตาไหล ไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาซ่อมบ้าน และไม่รู้ว่าด้วยข้อกำจัดของภาครัฐจะซ่อมได้มากน้อยแค่ไหน แต่พอวันนี้ได้เห็นบ้านที่ซ่อมเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ จากการช่วยเหลือของภาครัฐและเอกชน ก็ดีใจมากถึงกับน้ำตาไหลเหมือนกับได้บ้านหลังใหม่เลย ตอนนี้ก็รอให้ทางจังหวัดทำพิธีส่งมอบ แล้วก็จะนิมนต์พระมาสวดทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคล  ก่อนที่คนในครอบครัวทั้ง 6 ชีวิตจะเข้าไปอาศัยในบ้าน

แต่ น.ส.ทองใส  ยอมรับว่า หลังเกิดเหตุปะทะวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ถึงวันนี้ครบรอบ 1 เดือนเหตุปะทะ ก็ยังระแวงบางวันนอนไม่หลับเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันอีกวันไหน  หากเป็นไปได้ก็อยากให้เหตุการณ์สงบลงชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตและทำมาหากินปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลพบว่าช่วงการสู้รบระหว่างวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2568 มีประชาชนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยกว่า 5 หมื่นคน มีบ้านเรือนพังเสียหาย 14 หลัง วัด 1 แห่ง วัวตาย 3 ตัว  สุกรตาย 5 ตัว  รถยนต์พัง 2 คัน  พื้นที่การเกษตรซึ่งส่วนใหญ่เป็นสวนยางพาราได้รับความเสียหายกว่า 90 ไร่  ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้เงินกองทุนฯ ที่ได้รับบริจาค ทั้งในการซ่อมแซมบ้าน  ชดเชยสัตว์เลี้ยงที่ตาย  และพื้นที่การเกษตรที่เสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทั้งหมดแล้ว แต่หากรายใดสำรวจพบว่ามีความเสียหายจากภารสู้รบ  ก็สามารถรายงานมาเพิ่มเติม เพื่อจะได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือทุกคน   แต่รายใดที่ได้รับการช่วยเหลือแล้วจะไม่มีการจ่ายซ้ำซ้อน