January 09,2020
ปปช.ส่งเรื่องเรียกเงินสอบบรรจุท้องถิ่น ให้ตำรวจจัดการเข้าข่ายคดีอาญา
ป.ป.ช.ส่งเรื่องร้องเรียกรับเงินสอบบรรจุข้าราชการท้องถิ่น ให้พนักงานสอบสวนจัดการ เข้าข่ายคดีอาญา ไม่ใช่กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เพราะผู้ถูกร้องไม่มีอำนาจ จัดสอบโดยตรง
จากกรณีที่มีผู้สมัครสอบแข่งขันบรรจุเป็นข้าราชการท้องถิ่น ปี ๒๕๖๒ ที่คณะกรรมการกลางได้เปิดสอบ นำเอกสารหลักฐานคลิปเสียงการสนทนา เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐหลอกเรียกรับเงินรายละ ๖๐๐,๐๐๐-๖๕๐,๐๐๐ บาท โดยอ้างว่าจะสามารถช่วยให้สอบบรรจุเป็นข้าราชการท้องถิ่นได้ แต่หากสอบไม่ผ่านจะคืนเงินให้ทั้งหมด กระทั่งประกาศผลสอบ กลับไม่มีชื่อขึ้นบัญชีว่า ผ่านการสอบบรรจุ แต่เมื่อไปขอเงินคืนตามที่ตกลงกันไว้กลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนให้ จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ทั้งนำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม และ ป.ป.ช.จังหวัด
ล่าสุด นางสาวสุรีรัตน์ นวลฉิมพลี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า มีผู้เข้ามาร้องเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจำนวน ๑ ราย ซึ่งเบื้องต้นพนักงานไต่สวน ก็ได้ตรวจเอกสารหลักฐานและสอบปากคำผู้ร้องแล้ว พบว่า เป็นการเปิดสอบจากส่วนกลาง แต่มีบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไปแอบอ้างเรียกรับเงินกันเอง โดยอ้างว่าจะสามารถช่วยให้สอบบรรจุได้แต่เมื่อประกาศผลสอบกลับไม่มีชื่อ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว ไม่เข้าข่ายการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการสอบบรรจุเข้ารับราชการ โดยการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ผู้ที่ถูกร้องหรือถูกกล่าวหาจะต้องมีอำนาจหน้าที่หรือเกี่ยวข้องกับการจัดสอบบรรจุนั้นๆ โดยตรง
“แต่กรณีนี้เป็นลักษณะการแอบอ้างเรียกรับเงินกันเอง ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความคดีอาญา หลังจากพนักงานสอบสวนดำเนินการแล้วเสร็จ ก็จะต้องรายงานผลมายังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อที่ทางคณะกรรมการฯ จะได้พิจารณาอีกครั้งว่าการดำเนินการนั้นเป็นไปโดยชอบ และเป็นธรรมทั้งผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องหรือไม่อย่างไร”
ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวอีกว่า หากผู้ร้องเห็นว่า เรื่องที่ส่งให้พนักงานสอบสวน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้บังคับบัญชาดำเนินการแล้ว เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีการช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหา ทั้งที่มีพยานหลักฐานชัดเจน ก็สามารถมาแจ้งต่อ ป.ป.ช. เพื่อที่ทางคณะกรรมการฯ จะได้ขอสำนวนกลับมาดำเนินการเอง เพื่อให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๐ วันพุธที่ ๘ - วันอังคารที่ ๑๔ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
871 1,602