29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

April 03,2021

‘ชาติพัฒนา’ยึดเทศบาลนคร คำมั่น‘ทำเต็มความสามารถ’ นำโคราชเมืองหลวงอีสาน

“โคราชชาติพัฒนา” ชนะเลือกตั้งเทศบาล นครฯ ยกทีม ประกาศพร้อมปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลังความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต ยินดีรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ขอให้ร่วมกันขับเคลื่อนโคราชให้ก้าวสู่ความเป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน

การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ทั่วประเทศเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ คะแนนมีหลายพื้นที่ที่อดีตนายกเทศมนตรีหลายสมัยหรือแชมป์เก่าถูกโค่นจากผู้สมัครหน้าใหม่ แต่สำหรับสนามการเลือกตั้งเทศบาลนครนครราชสีมา (ทน.นครราชสีมา) แชมป์เก่าคือนายสุรวุฒิ เชิดชัย หัวหน้ากลุ่มประสานมิตร บรรลุเป้าหมายทางการเมืองแล้ว จึงไม่ลงสมัครอีก ดังนั้น มีผู้สมัครนายกเทศมนตรี และผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลฯ (ส.ท.) จาก ๔ กลุ่ม 

หมายเลข ๑ นายอัคคชา พรหมสูตร กลุ่มโคราชมหานคร เคยลงสมัครทั้งส.ส. ครั้งนี้มีอดีตส.ท.จากกลุ่มประสานมิตรมาลงสมัครด้วยหลายคน นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า นาย อัคคชามีผู้มีสนับสนุนรายใหญ่ เป็นรัฐมนตรีคนดังในภาคเหนือ อยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน และในช่วงการหาเสียงจึงเห็นป้ายของนายอัคคชาติดตั้งจำนวนมาก โดยเฉพาะรอบสวนสุรนารีและพื้นที่ใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แต่ยังไม่ทันข้ามวันก็มีเจ้าหน้าที่ตามเก็บออก เพราะไม่ใช่จุดที่สามารถติดตั้งป้ายหาเสียงได้ และยังเป็นการบดบังทัศนียภาพด้วย แต่ก่อนวันเลือกตั้ง หัวคะแนนสำคัญของนายอัคคชาประกาศว่า รัฐมนตรียกเลิกการสนับสนุน

หมายเลข ๒ นายประเสริฐ บุญชัยสุข กลุ่มโคราชชาติพัฒนา หากพิจารณาเรื่องคุณสมบัติและประสบการณ์ทางการเมืองแล้ว นับว่าได้เปรียบผู้สมัครหมายเลขอื่น เพราะเคยทำงานการเมืองทั้งสนามท้องถิ่นและระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกสภา อบจ.นครราชสีมา, รองประธานสภา อบจ.นครราชสีมา, รองนายก อบจ.นครราชสีมา, ส.ส.นครราชสีมา ๓ สมัย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ในกระแสบนโซเชียลมีเดีย มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงบทบาทของชาติพัฒนาอย่างมาก โดยเฉพาะโจมตีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ว่าห่างเหินเมืองโคราช มีคนมองว่าอาจส่งผลถึงคะแนนในการเลือกตั้งเทศบาลนครนครราชสีมาในครั้งนี้ด้วย ในขณะที่ ผู้สมัครส.ท.กลุ่มโคราชชาติพัฒนา มาจากหลายส่วน ทั้งจากอดีตส.ท.กลุ่มโคราชชาติพัฒนา ผู้สมัครส.ท.จากกลุ่มเพื่อประชา และอดีตส.ท.กลุ่มประสานมิตร โดยกลุ่มโคราชชาติพัฒนาชูนโยบายสร้างโคราชให้เป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน โดยมีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และพันเอกวินัย สมพงษ์ อดีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเวทีปราศรัย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจอีกด้วย

หมายเลข ๓ นายจักริน เชิดฉาย กลุ่มโคราชเพื่อโคราช เจ้าของธุรกิจหมอยาพลาซ่า และเป็นอดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และมีอดีตเป็นส.ท.นครนครราชสีมา หันเข้าสู่สนามการเมือง โดยประกาศตัวและลงพื้นที่เป็นเวลากว่า ๓ ปี โดยมีนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีตส.ส.โคราช นายอรชัย ปุณณะนิธิ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และพล.ต.ต.ณัฐ อรรถกวิน ให้การสนับสนุนและร่วมทีม ส่วนผู้สมัครส.ท.ของกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นหน้าใหม่ ไม่มีชื่อเสียง โดยกลุ่มนี้มีสโลแกนว่า “กล้า เปลี่ยน เมือง เพื่อโคราชที่ดีกว่านี้” และประกาศว่า จะมีสภาพลเมือง ซึ่งคล้ายคลึงกับ “สภาประชาชน” ในครั้งที่นพ.สำเริง แหยงกระโทก ลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา 

หมายเลข ๔ นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ กลุ่มก้าวหน้า เคยเป็นส.ท.กลุ่มประสานมิตร และรองประธานสภาเทศบาลนครฯ เคยลงสมัคร ส.อบจ.นครราชสีมา กลุ่มก้าวหน้า (อนาคตใหม่) แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เป็นลูกชายเจ้าของโรงแรมโพธิ์ทอง (เยื้องอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี) ในอดีต และเป็นน้องชายนายพงษ์เลิศ สุภัทรวณิชย์ อดีตรองนายกเทศมนตรีฯ การลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครส.ท.ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ลงสมัครด้วย โดยมีนายธนาคม วิมลวัตรเวที อดีตส.ท.และอดีตประธานสภาเทศบาลฯ กลุ่มประสานมิตร และเป็นลูกชายร้านเวชกิจโอสถและร้านรวมยา เป็นทีมงานร่วมหาเสียงด้วย ซึ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผลิตสื่อหาเสียงโดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยในช่วงโค้งสุดท้ายนางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำพรรคก้าวไกล (อนาคตใหม่) มาติวเข้มและพบปะผู้สมัครส.ท.ให้ด้วย 

เทศบาลนครฯ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น ๙๖,๕๘๓ คน ซึ่งบรรยากาศการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ ตั้งแต่การเปิดหีบเลือกตั้งเวลา ๐๘.๐๐ น. มีประชาชนทยอยเดินทางออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งที่มีชื่อ โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปเลือกตั้งเวลา ๐๘.๓๐ น. ในเขตเลือกตั้งที่ ๑ หน่วยเลือกตั้งที่ ๓๑ วัดสุทธจินดาวรวิหาร ถนราชดำเนิน โดย มีพ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา และกกต.ประจำเขตเลือกตั้งให้การต้อนรับ 

ในขณะที่ ๐๙.๓๐ น. ที่อาคารอเนก ประสงค์วัดหลักร้อย หน่วยเลือกตั้งที่ ๒๕ เขตเลือกตั้งที่ ๔ เทศบาลนครฯ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เดินทางมาเลือกตั้ง ซึ่งมีชื่ออยู่ในลำดับที่ ๒๗๒ ส่วนนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อยู่ลำดับที่ ๒๗๓ 

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เปิดเผยว่า เท่าที่ได้ติดตามการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นค่อนข้างคึกคัก ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของระบอบประชาธิปไตยของประเทศ ส่งเสริมภาพลักษณ์และการยอมรับในสากล ประชาชนมีโอกาสเลือกตัวแทนที่มีความใกล้ชิด เข้าใจปัญหาตรงกับนโยบายการกระจายอำนาจ สามารถบริหารงานได้สอดคล้องกัน ทำให้มีความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ 

“เทศบาลนครนครราชสีมามีความสำคัญมาก ถือเป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน เป็นสถานที่ตั้งของส่วนราชการต่างๆ สิ่งสำคัญคือโอกาสของการของพัฒนา เนื่องมาจากโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐจะมีส่วนสำคัญพลิกโฉมเศรษฐกิจหรือโอกาสนำนำยุคทองกลับมา เช่น มอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง จะสร้างความเป็นสากล เป็นอินเตอร์ของภาคอีสาน นำนักท่องเที่ยว นักลงทุนมาจำนวนมาก การเตรียมความพร้อมรับงบประมาณแผ่นดินต่อยอดให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล รองรับโอกาสการลงทุน การท่องเที่ยวที่จะเกิด เมื่อโครงการต่างๆ แล้วเสร็จ ความเจริญเติบโตก็ต้องขยาย เราต้องเตรียมสร้างเมืองรองรับให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ต้องช่วยกันทำงานให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างท้องถิ่นกับรัฐบาล” นายสุวัจน์ กล่าว

กระทั่งเวลาปิดหีบเลือกตั้ง ๑๗.๐๐ น. และทั้ง ๑๘๕ หน่วยทยอยนับคะแนนของนายกเทศมนตรี และส.ท. ซึ่งผู้สมัครของกลุ่มโคราชชาติพัฒนา นายกเทศมนตรี หมายเลข ๒ และผู้สมัครส.ท.หมายเลข ๗, ๘, ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒ มีคะแนนนำผู้สมัครจากกลุ่มอื่นๆ เกือบทุกหน่วยเลือกตั้ง และเมื่อมีการนับคะแนนเสร็จมีการเผยแพร่เมื่อการนับคะแนนครบ ๑๐๐% แล้ว ปรากฏว่า อันดับ ๑ นายประเสริฐ บุญชัยสุข ได้ ๒๓,๕๕๐ คะแนน, อันดับ ๒ นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ได้ ๑๐,๓๖๗ คะแนน, อันดับ ๓ นายจักริน เชิดฉาย ได้ ๗,๒๖๐ คะแนน และอันดับ ๔ นายอัคคชา พรหมสูตร ได้ ๓,๗๒๔ คะแนน ซึ่งมีบัตรดี ๔๔,๙๐๑ ใบ, บัตรเสีย ๑,๗๕๒ ใบ และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ๕,๒๑๖ ใบ

สำหรับผลคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลฯ (ส.ท.) เขตเลือกตั้งที่ ๑ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๒๓,๑๑๑ คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ๑๒,๒๓๖คน มีบัตรดี ๙,๙๑๖ ใบ บัตรเสีย ๖๕๖ ใบ และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ๑,๖๖๔ ใบ โดยคะแนนของผู้สมัครส.ท.ที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวน ๖ คน ดังนี้ อันดับ ๑ นางสาวมสารัศม์ อื้อศรีวงศ์ ๔,๓๘๑ คะแนน, อันดับ ๒ นายอุทัย มิ่งขวัญ ๔,๓๔๖ คะแนน, อันดับ ๓ นายณัฏฐ์ชยกร สุวัฒนพงศ์เชฏ ๔,๓๔๑ คะแนน, อันดับ ๔ นายตะวัน ชาญนุกูล ๔,๓๒๖ คะแนน, อันดับ ๕ นายมติ อังศุพันธุ์ ๔,๒๕๘ คะแนน และอันดับ ๖ นางวชิราภรณ์ รัตนพงษ์วนิช ๔,๒๓๔ คะแนน 

เขตเลือกตั้งที่ ๒ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๒๔,๑๔๘ คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ๑๓,๓๗๐ คน มีบัตรดี ๑๐,๘๑๘ ใบ บัตรเสีย ๘๘๗ ใบ และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ๑,๖๖๕ ใบ โดยคะแนนของผู้สมัครส.ท.ที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวน ๖ คน ดังนี้ อันดับ ๑ นายสุพจน์ ไทยสมัคร ๕,๒๘๖ คะแนน, อันดับ ๒ นางนันทนา แดงใหม่ ๕,๒๖๒ คะแนน, อันดับ ๓ นางสุรพร หนองหารพิทักษ์ ๕,๒๓๔ คะแนน, อันดับ ๔ นายกิตติบดี ปราบภัย ๕,๑๘๘ คะแนน, อันดับ ๕ นายวรชิต แพงไพรี ๕,๑๓๘ คะแนน และอันดับ ๖ นายลภัสวัฒน์ แสนสระน้อย ๕,๐๕๘ คะแนน

เขตเลือกตั้งที่ ๓ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๒๔,๕๖๖ คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ๑๓,๑๕๕ คน มีบัตรดี ๑๐,๓๕๕ ใบ บัตรเสีย ๗๒๐ ใบ และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ๒,๐๘๐ ใบ โดยคะแนนของผู้สมัครส.ท.ที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวน ๖ คน ดังนี้ อันดับ ๑ นางสาวณภัทรพร อินทรานุปกรณ์ ๔,๒๕๑ คะแนน, อันดับ ๒ นายเกริกฤทธิ์ โชติธาพิพัฒน์ ๔,๒๓๙ คะแนน, อันดับ ๓ นายสมพร พิชิตการ ๔,๑๖๓ คะแนน, อันดับ ๔ นายกายสิทธ์ สุคนธรัตน์ ๔,๐๑๗ คะแนน, อันดับ ๕ นายปรีดา สุวัฒโนดม ๔,๐๐๕ คะแนน และอันดับ ๖ นางสาวจุรีรัตน์ บุตตะโยธี ๓,๙๗๐ คะแนน

เขต ๔  มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ๒๔,๗๗๔ คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ๑๒,๙๘๕ คน มีบัตรดี ๑๐,๒๑๖ ใบ บัตรเสีย ๗๒๘ ใบ และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ๒,๐๔๑ ใบ โดยคะแนนของผู้สมัครส.ท.ที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวน ๖ คน ดังนี้ อันดับ ๑ นางสาวมารยาท พิมพ์ปรุ ๔,๓๖๑ คะแนน, อันดับ ๒ นางสาวดวงทิพย์ ปานรักษา ๔,๓๔๓ คะแนน, อันดับ ๓ นายทศพร สกุลภิญโญ ๔,๒๖๒, คะแนน, อันดับ ๔  นายชัยโรจน์ ศุภโชคเจริญวงศ์ ๔,๒๓๘ คะแนน, อันดับ ๕ นายภูริพล ชินกุลกิจนิวัฒน์ ๔,๒๓๗ คะแนน และอันดับ ๑ นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ ๔,๒๓๒ คะแนน 

ทั้งนี้ จากการติดตามการนับคะแนนพบว่า สาเหตุที่ทำให้มีบัตรเสียจำนวนมากในส่วนของบัตรลงคะแนนเลือกส.ท.นั้น มีการกามาก กว่า ๖ หมายเลข 

หลังทราบผลคะแนนการเลือกตั้ง นายประเสริฐ บุญชัยสุข ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครราชสีมา ได้เผยแพร่คลิปเสียงขอบคุณประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า “กราบเรียนพี่น้องชาวโคราชที่เคารพรักทุกท่าน กระผมนายประเสริฐ บุญชัยสุข ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับทุกคะแนนเสียง ที่ท่านได้กรุณามอบความไว้วางใจให้แก่ผมและคณะสมาชิกสภาเทศบาลทีมโคราชชาติพัฒนา ให้เข้ามารับใช้ท่านในครั้งนี้ เมื่อได้รับการรับรองจาก กกต.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราจะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพร้อมที่จะยินดีรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหา และพัฒนาเมืองโคราชของเรา เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโคราชให้ก้าวสูาความเป็นเมืองหลวงของภาคอีสานต่อไป และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกๆ ท่าน ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ” 

เมื่อ “โคราชคนอีสาน” ถามถึงการตั้งคณะบริหารนั้น นายประเสริฐ บุญชัยสุข เปิดเผยว่า รอให้ได้รับการรับรองจาก กกต. และจะต้องมีการปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้อีกครั้ง” 

ทางด้านนายอัคคชา พรหมสูตร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีฯ หมายเลข ๑ กลุ่มโคราชมหานคร โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งที่ได้รับว่า “กราบขอบพระคุณ ทุกคะแนน ที่กรุณามอบให้ผมและผู้สมัคร ส.ท.กลุ่มโคราชมหานคร แม้เราจะแพ้ แต่ความรักห่วงใยบ้านเกิด ของเราทุกคน ยังมั่นคง มิได้เสื่อมคลาย”

ในขณะที่นายจักริน เชิดฉาย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ขอบคุณทุกคะแนนและทุกกำลังใจที่มีให้ผมและกลุ่มโคราชเพื่อโคราชครับ   ยังคงมุ่งมั่นทำเพื่อคนโคราชต่อไปครับ” และ “ในการแข่งขันผลมีแพ้และชนะ สำหรับผมสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การยึดมั่นในหลักการและอุดมการณ์ครับ”

สำหรับนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี หมายเลข ๔ ระบุว่า “ขอบคุณประเทศโคราช บ้านเกิด ที่ให้โอกาสพวกเราเสนอตัวมาทำงานการเมือง เพื่อทุกคนความฝันและอุดมการณ์ของเรายังเดินหน้าต่อไป ไม่หยุด ไม่ย่อท้อ ก้าวไปด้วยกัน ก้าวไปได้ไกล กล้าก้าวที่กร้าวแกร่ง”

อนึ่ง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และส.ท.ของกลุ่มโคราชชาติพัฒนาในครั้งนี้ นับเป็นการประสบความสำเร็จเหมือนกับการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและส.ท.เมื่อวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๔๗ ซึ่งกลุ่มโคราชชาติพัฒนาส่ง รศ.เชิดชัย โชครัตนชัย ลงสมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และได้รับการเลือกตั้งยกทีมทั้งนายกเทศมนตรีและส.ท.ทั้ง ๔ เขต ๒๔ คน เอาชนะผู้สมัครกลุ่มประสานมิตร นำโดยนายสุรวุฒิ เชิดชัย แต่ในสมัยต่อมานายสุรวุฒิ เชิดชัยก็สามารถทวงแชมป์คืนได้แบบยกทีม

สำหรับนายประเสริฐ บุญชัยสุข เกิดเมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๙ สมรสกับนางคู่ขวัญ บุญชัยสุข (สุคนธรัตน์) บุตรีของนายเด็ดดวง สุคนธรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองนครราชสีมา นายประเสริฐจบการศึกษาระดับ ปวช. พาณิชยการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) จบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคําแหง และปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดสำนักงานกฎหมายนายประเสริฐ บุญชัยสุข และเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา 

เส้นทางการเมืองของนายประเสริฐนั้น เริ่มการสนามการเมืองท้องถิ่น โดยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา อบจ.นครราชสีมา เคยเป็นรองประธานสภา อบจ.นครราชสีมา, รองนายก อบจ.นครราชสีมา จากนั้นขยับขึ้นมาสู่การเมืองระดับชาติโดยลงสมัครส.ส.นครราชสีมา และได้รับเลือกตั้ง ๓ สมัย (๒๕๔๘, ๒๕๕๐ และ ๒๕๕๔) รวมทั้งในปี ๒๕๕๐-๒๕๕๔ ยังนั่งเก้าอี้รองประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร, ปี ๒๕๕๔-๒๕๕๕ เป็นประธานกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร และระหว่างวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕-๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และล่าสุดหันมาสู่สนามการเมืองท้องถิ่น โดยลงสมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ในสังกัดกลุ่มโคราชชาติพัฒนา และชนะการเลือกตั้งแบบยกทีมเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ 

 

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๗๓ วันพุธที่ ๓๑ เดือนมีนาคม - วันอังคารที่ ๖ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔

 

976 1606