18thApril

18thApril

18thApril

 

January 30,2022

มติ‘ปปช.’ชี้ ๒ นายกฯโคราช เอื้อประโยชน์บริษัทรับเหมา มีส่วนได้ส่วนเสียสัญญาจ้าง

ป.ป.ช. มีมติชี้อดีตนายก อบต.สีมุม “เชาว์ กาญจนกาศ” กับพวก ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้มีการเอื้อประโยชน์แก่ผู้รับเหมา ส่วนนายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก “มงคล ประยูรหงษ์” เข้าไปมีส่วนได้เสียในสัญญาก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร แอสฟัลท์ติกคอนกรีต งบประมาณ ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท

ตามที่เมื่อวันจันทร์ ที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๕ เพจเฟซบุ๊ก “สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา” ซึ่งปัจจุบันมีนายปริญญา วิกุลศิริรัตน์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานฯ มีการเผยแพร่มติของป.ป.ช. กรณีชี้กรณี ๒ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้แก่ นายเชาว์ กาญจนกาศ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม อําเภอเมืองนครราชสีมา และนายมงคล ประยูรหงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก อําเภอปักธงชัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

นายก อบต.ละเว้นหน้าที่

คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแต่งตั้งคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริง เรื่องกล่าวหา นายเชาว์  กาญจนกาศ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม อําเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับพวก ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้มีการเอื้อประโยชน์แก่บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด เป็นผู้มีสิทธิเข้าทําสัญญาซื้อขายรถตักหน้าขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

จากการไต่สวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๐ นายปรัชกรณ์ น้อยจับ พนักงานขายของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด มาพบนายเชาว์ กาญจนกาศ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม พร้อมนําเอกสารใบเสนอราคาและรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะรถตักหน้าขุดหลังชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ ของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง และห้างร้านอื่นอีก ๒ ราย จากนั้นนายเชาว์ฯ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม เรียกให้เจ้าหน้าที่พัสดุมารับเอกสารดังกล่าว แล้วนําไปให้เจ้าพนักงานธุรการลงทะเบียนรับหนังสือภายนอกเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบ
การกําหนดราคากลาง และคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ ต่อมาวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖๐ เจ้าหน้าที่พัสดดําเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ ก่อสร้างรถตักหน้าขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ โดยวิธีประมูลซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) งบประมาณ ๓,๓๐๐,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๐ มีผู้มายื่นเอกสารประกวดราคาซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จํานวน ๔ ราย คือ ๑.บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด ๒.ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ๓.บริษัท เมกา เอ็ม บอดี้ทรัค แอนด์  อีควิปเม้นท จํากัด และ ๔.บริษัท นิวสตาร์ แมชชีนเนอรี่ จํากัด โดยนางสมฤดี พลเยี่ยม กรรมการผู้จัดการ

จากนั้นวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๐ คณะกรรมการประกวดราคาฯ จัดทําบันทึกเรื่อง ผลการพิจารณาผู้ผ่านคัดเลือกให้เข้าเสนอราคา โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ก่อสร้าง ปรากฏว่า ผู้มีคุณสมบัติถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารประมูลซื้อฯ ตามโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ก่อสร้าง รถตักหน้าขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ จํานวน ๑ คัน ซึ่งมีคุณภาพและคุณสมบัติเป็นประโยชน์ต่อองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม จึงเห็นควรได้รับการคัดเลือกให้เข้าเสนอราคาเพื่อดําเนินการต่อไป และประกาศรายชื่อผู้ค้าที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าเสนอราคาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ จํานวน ๒ ราย คือ ๑.บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด และ ๒.ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี แอนด์ เอ็นจิเนียริง และในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๐ คณะกรรมการและผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ เข้าร่วมการประกวดราคาซื้อรถตักหน้าขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ จํานวน ๑ คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผลปรากฏว่า ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง โดยนางสาวอัจฉรา จอมผล หุ้นส่วนผู้จัดการ ลงลายมือชื่อในแบบยืนยันราคาสุดท้ายในการเสนอราคา เป็นจํานวนเงิน ๓,๒๘๗,๕๐๐ บาท และบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด โดยนางสุวรรณา อาจมังกร ลงลายมือชื่อในแบบยืนยันราคาสุดท้ายในการเสนอราคาดีที่สุด เป็นจํานวนเงิน ๓,๒๘๓,๕๐๐ บาท ต่อมาบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด โดยนายกิตติพงษ์ งามพล กรรมการผู้จัดการ ลงลายมือชื่อยินยอมลดราคาลง คงเหลือ ๓,๒๘๐,๐๐๐ บาท คณะกรรมการประกวดราคาซื้อด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์จึงได้ประกาศให้บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด เป็นผู้ชนะการเสนอราคาดังกล่าว และในวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ นายเชาว์ฯ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม ทําสัญญาซื้อขายกับบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด โดยนายกิติพงษ์ หรือนายกิตติ งามพล เป็นผู้ลงนามผูกพันตนแทนบริษัท ในสัญญาซื้อขาย เลขที่สัญญา ๒/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐

ผู้เสนอราคาเป็นกลุ่มเดียวกัน

โดยในการเข้าแข่งขันเสนอราคาดังกล่าว ปรากฏข้อเท็จจริงรับฟังว่า บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด และห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง มีความสัมพันธ์เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน และมีพฤติการณ์ในการตกลงสมยอมราคากันโดยมิได้มีเจตนาแข่งขันราคากันอย่างแท้จริงมาตั้งแต่ต้น

๑.นายปรัชกรณ์ น้อยจับ พนักงานฝ่ายขายราชการของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด นําใบเสนอราคาของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด และห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริง มาให้นายเชาว์ฯ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม เพื่อใช้กําหนดราคากลางและคุณลักษณะ เฉพาะครุภัณฑ์

๒.ใบเสนอราคา เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๐ ของห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เสนอราคารถตักหน้าขุดหลัง (Backhoe Loader) ยี่ห้อ KOMATSU รุ่น WB๙๗R-๕ จํานวน ๑ คัน ราคา ๓,๓๘๐,๐๐๐ บาท แต่ปรากฏว่า ในวันยื่นซองประกวดราคา ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง กลับเสนอขาย รถตักหน้าขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ ยี่ห้อ PIMAKINA โดยเป็นผลิตภัณฑ์จากประเทศตุรกี ซึ่งเป็นยี่ห้อเดียวกับบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด

๓.บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด และห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจําหน่ายจาก PIMAKINA OTOMOTIV INSAAT MAK. PAZ. IHR. ITH. SAN.VE TC. LTD. STI. ในวันเดียวกัน คือ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐

๔.นางสาวอัจฉรา จอมผล หุ้นส่วนผู้จัดการ ของห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง ปรากฏชื่อเป็นพยานในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด และนางสาวรักชนก รอบคอบ ผู้รับมอบอํานาจจากห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริง โดยนางอัจฉรา จอมผล หุ้นส่วนผู้จัดการ ให้เป็นผู้ยื่นเอกสารและลงนามในเอกสารประมูลซื้อและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการประกวดราคา ดังกล่าว ปรากฏชื่อเป็นพยานในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด

๕.หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด เลขหนังสือที่ ๑๐๐๙๒๒๐๓๑๕๒๐ และห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เลขหนังสือที่ ๑๐๐๔๒๒๐๓๑๕๒๐ ซึ่งผู้เสนอราคาทั้ง ๒ ราย ใช้ยื่นเป็นเอกสารในการเสนอราคากับองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม ปรากฏชื่อ บุคคลคนเดียวกัน เป็นผู้ยื่นคําขอหนังสือรับรองนิติบุคคลผ่านทางเว็บไซต์ เลขที่คําขอ ๖๐๑๐๐๔๒๐๓๔๖๖๗๘ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๐ โดยปรากฏว่า บุคคลซึ่งยื่นคําขอหนังสือรับรอง เป็นพนักงาน ของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด

๖.เช็คธนาคารกสิกรไทย เลขที่ ๑๐๖๕๘๐๖๘ ลงวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐ จํานวน ๑๖๕,๐๐๐ บาท ของห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง สั่งจ่ายองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม ที่ใช้ยื่นต่อองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุมเพื่อเป็นหลักประกันซอง ปรากฏชื่อ นายกิตติพงษ์ หรือนายกิตติ งามพล กรรมการ บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด เป็นผู้ยื่นคําขอซื้อตราสารจากธนาคารกสิกรไทย สาขาดอนหัวฬ่อ (อมตะนคร ชลบุรี) เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐

๗.นางสาวอัจฉรา จอมพล หุ้นส่วนผู้จัดการ ของห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เคยทํางานให้กับนายกิตติพงษ์ หรือนายกิตติ งามพล โดยมีการนําส่งเงินประกันสังคม ในระหว่างวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ - ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ และปัจจุบันทํางานในบริษัท เคทีเอ็น แอคเค้าท์ติ้ง จํากัด โดยมีนายกิตติพงษ์ หรือนายกิตติ งามพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด เป็นกรรมการ ผู้จัดการและเป็นเจ้าของกิจการ บริษัท เคทีเอ็น แอคเค้าท์ติ้ง จํากัด โดยเริ่มส่งเงินประกันตน เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๐ จนถึงปัจจุบัน

๘.ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์เอ็นจิเนียริ่ง เสนอราคาเป็นเงินจํานวน ๓,๒๘๗,๕๐๐ บาท ซึ่งลดลงจากราคากลางที่องค์การบริหารส่วนตําบลสีมุมกําหนดเพียง ๑๒,๕๐๐ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละที่ ลดลง ๐.๓๘ และบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด เสนอราคาเป็นเงิน จํานวน ๓,๒๘๗,๕๐๐ บาท ต่ํากว่าราคากลางเพียง ๑๖,๕๐๐ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละที่ลดลง ๐.๕๐ เท่านั้น ซึ่งราคาที่ผู้เสนอราคาทั้ง ๒ ราย เสนอราคาต่างกันเพียงเล็กน้อย จึงเป็นการเข้าเสนอราคาในลักษณะเป็นคู่เทียบ โดยไม่ได้มีเจตนาเข้าแข่งขันราคาเพื่อหวังผลชนะและเข้าเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุมแต่อย่างใด

ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

ดังนั้น นายเชาว์ กาญจนกาศ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม ซึ่งมีอํานาจหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารราชการขององค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อบัญญัติ และนโยบาย มีอํานาจสั่ง อนุญาต อนุมัติ เกี่ยวกับราชการขององค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม โดยเป็นผู้ที่มีอํานาจอนุมัติให้ดําเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ก่อสร้างรถตักหน้าขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน ๔ ล้อ จํานวน ๑ คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหาร ราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบระเบียบ ประกาศ หรือหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง การที่นายเชาว์ฯนายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุมสั่งการให้นางสาวจุรีพรผ่านสันเทียะ เจ้าหน้าที่พัสดุนําใบเสนอราคา จํานวน ๔ ราย จากนายปรัชกรณ์ น้อยจับ พนักงานขาย ของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด ซึ่งในใบเสนอราคาดังกล่าว มีใบเสนอราคาของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด และห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง รวมอยู่ด้วย อันมีลักษณะความสัมพันธ์เป็นบุคคลในกลุ่มเดียวกันมาใช้กําหนดราคากลางและคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ โดยไม่ได้มีการสืบหาราคาตามท้องตลาดหรือหน่วยงานอื่นแต่อย่างใด อีกทั้งยังปรากฏว่า บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด และห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เป็นผู้ผ่านคุณสมบัติและมีสิทธิในการเข้าเสนอราคากับ องค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม เพียง ๒ ราย เท่านั้น ซึ่งนายเชาว์ฯ นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุมย่อมรู้หรือควรรู้ว่า การเสนอราคาในครั้งนี้ว่าผู้เสนอราคาทั้ง ๒ ราย เป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน และมีความสัมพันธ์เป็นบุคคลในกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ต้น โดยมีพฤติการณ์ตกลงร่วมกันในการเสนอราคาอันไม่หวังผลชนะ เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์ แก่บริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด เป็นผู้มีสิทธิเข้าเป็นคู่สัญญากับองค์การบริหารส่วนตําบลสีมุม

มีความผิดตามกฎหมาย

คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติ ดังต่อไปนี้ ๑.การกระทําของนายเชาว์ กาญจนกาศ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงาน ของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๔ และมาตรา ๑๒ และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๒๓/๑ (ปัจจุบันเป็นความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒)

๒.การกระทําของบริษัท สุวรรณ แมชชีนเนอรี่ จํากัด นางสุวรรณา อาจมังกร นายกิตติพงษ์ หรือกิตติ งามพล นายปรัชกรณ์ น้อยจับ ห้างหุ้นส่วนจํากัด เอสเอส แมชชีนเนอรี่ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง และนางสาวอัจฉรา จอมผล มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑ ๕๗ ประกอบมาตรา ๘๖ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๒ ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖ และตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๒๓/๑ (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖

นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก

ส่วนผู้บริหาร อปท.อีกรายหนึ่งคือ นายมงคล ประยูรหงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก อำเภอปักธงชัย โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องกล่าวหา นายมงคล ประยูรหงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก อําเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา กับพวก เข้าไป มีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทํากับเทศบาลเมืองเมืองปัก ในโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร แอสฟัลท์ ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ ตามสัญญาจ้าง เลขที่ ๒๒/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๙ จํานวนเงินงบประมาณ ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท

บริษัทนายกฯ มีเอี่ยว

จากการไต่สวนข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายมงคล ประยูรหงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปักอนุมัติให้ เทศบาลเมืองเมืองปักดําเนินการโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ ปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ซึ่งนายมงคล ประยูรหงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก เข้ามีส่วนได้เสียในโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ ตามสัญญาเลขที่ ๒๖/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๙ โดยได้เชิญบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด เพื่อเข้าเป็นคู่สัญญากับเทศบาลเมือง เมืองปัก ซึ่งบริษัท บุรีรัมยทรัพย์ศิริ จํากัด มีกรรมการบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด จํานวน ๔ คน อันได้แก่ นายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ ซึ่งเป็นเป็นพี่ชายของนางวราภรณ์ เตียวศิริทรัพย์ คู่สมรสของนายมงคล ประยูรหงษ์ ส่วนนายเกรียงเดช เตียวศิริทรัพย์, นายเกรียงไกร เตียวศิริพรัพย์ และนายชุมพล เตียวศิริทรัพย์ เป็นบุตรของนายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ ในการเข้ามาทํางานโครงการปรับปรุงขยายผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ ตามสัญญาจ้าง เลขที่ ๒๖/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๙ บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด ผู้รับจ้างไม่ได้เข้ามาดําเนินการด้วยตนเองแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัท บุรีรัมย์ทรัพศิริ จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากสถานที่ก่อสร้างซึ่งตั้งอยู่ที่อําเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ประกอบกับบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด มีเครื่องจักรขนาดเล็ก เช่น รถบรรทุก ๖ ล้อ รถบรรทุก ๑๐ ล้อ รวม ๓ คัน รถแบ็คโฮ จํานวน ๓ คัน รถโม่หิน จํานวน ๓ ต้น และไม่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่สามารถนํามาใช้ก่อสร้างในโครงการดังกล่าวได้

แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ห้างหุ้นส่วนจํากัด ว.ประยูรก่อสร้าง (๑๙๘๔) ซึ่งมีนายมงคล ประยูรหงษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และมีเครื่องจักรขนาดใหญ่ได้เข้ามาทํางานในโครงการดังกล่าว โดยห้างหุ้นส่วนจํากัด ว.ประยูรก่อสร้าง (๑๙๘๔) ได้นํารถบรรทุกเพื่อขนยางแอสฟัลท์ติกนํามาเทใส่รถปูยางแอสฟัลท์ติก รถบดสั่นสะเทือน เพื่อบดผิวแอสฟัลท์ติก รถบดล้อเหล็กเพื่อบดให้ถนนเรียบ และรถบดล้อยางเพื่อนวดถนน รวมถึงคนงานที่ขับรถบรรทุก และเครื่องจักรขนาดใหญ่ เป็นลูกจ้างของห้างหุ้นส่วนจํากัด ว.ประยูรก่อสร้าง (๑๙๘๔) โดยได้เข้าไปดําเนินการโครงการดังกล่าวตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนกระทั่งดำเนินโครงการแล้วเสร็จ โดยที่ บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด ไม่ได้ดําเนินการก่อสร้าง ประกอบกันผลตรวจสอบของสํานักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาปรากฏว่า รถบรรทุก หมายเลขทะเบียน ๘๗-๓๑๕๘ นครราชสีมา ซึ่งปรากฏเป็นภาพยานพาหนะ ขณะะดําเนินการก่อสร้างในโครงการดังกล่าว มีผู้ประกอบการขนส่งและผู้ถือกรรมสิทธิ์ คือ ห้างหุ้นส่วนจํากัด ว.ประยูรก่อสร้าง (๑๙๘๔) ประกอบกับเอกสารรายงานตรวจรับการจ้าง ลงวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ ขณะดําเนินการก่อสร้างในโครงการดังกล่าวปรากฎภาพถ่ายรถบดล้อเหล็กที่ได้ติดป้าย “VPC ว.ประยูรก่อสร้าง (๑๙๘๔) โดยเทศบาลเมืองเมืองเมืองปักไม่ได้รับแจ้งจากบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด ว่ามีการจ้างช่วง ตามข้อ ๙ ของสัญญาเลขที่ ๒๖/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๙ เพื่อขอความยินยอมจากเทศบาลเมืองเมืองปักแต่อย่างใด และมีนายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ เป็นผู้ลงลายมือชื่อซื้อในฐานะตัวแทนของผู้รับจ้าง ในรายงานก่อสร้างประจําสัปดาห์ ในโครงการตามสัญญา เลขที่ ๒๖/๒๕๕๙ และเมื่อได้อนุมัติเบิกเงินค่าจ้าง จํานวน ๓,๔๘,๐๐๐ บาท ให้บริษัท บุรีรัมทรัพย์ศิริ จํากัด ผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) สาขาปักธงชัย จากนั้นได้มีการถอนเงินจํานวน ๑,๙๐๐,๐๐ บาท เพื่อฝากเงินด้วยการโอนเข้าบัญชีเงินฝาก นางสาวนฤมล ประยูรหงษ์ ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายมงคล ประยูรหงษ์ และเป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจํากัด ว.ประยูร ก่อสร้าง (๑๙๘๔)

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วมีมติ ดังต่อไปนี้ ๑.การกระทําของนายมงคล ประยูรหงษ์ ในฐานะนายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ มาตรา ๑๕๖ และมาตรา ๑๕๗ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๒๓/๑ และมาตรา ๑๐๐ (๑) ประกอบมาตรา ๑๒๒ (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒ มาตรา ๑๒๖ (๑) ประกอบมาตรา ๑๖๘) ๒.การกระทําของนายชุมพล เตียวศิริทรัพย์ นายเกรียงไกร เตียวศิริทรัพย์ นายอดิศักดิ์ เตียวศิริทรัพย์ ในฐานะกรรมการบริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด, บริษัท บุรีรัมย์ทรัพย์ศิริ จํากัด, นางสาวนฤมล ประยูรหงษ์ หุ้นส่วนจํากัดของห้างหุ้นส่วนจํากัด ว.ประยูรก่อสร้าง (๑๙๘๔) และห้างหุ้นส่วนจํากัด ว.ประยูรก่อสร้าง (๑๙๘๔) มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ มาตรา ๑๕๒ และมาตรา ๑๕๗ ประกอบมาตรา ๘๖ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๒๓/๑ และมาตรา ๑๐๐ (๑) ประกอบมาตรา ๑๒๒ (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒ มาตรา ๑๒๖ (๑) ประกอบมาตรา ๑๖๘) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖

ทั้งนี้ การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคําพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

อนึ่ง ปัจจุบันนายเชาว์ กาญจนกาศ ไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.สีมุม เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นายพิษณุ เมียมขุนทด ชนะการเลือกตั้งและได้รับการประกาศรับรองให้ดำรงตำแหน่งนายก อบต.สีมุม ในขณะที่นายมงคล ประยูรหงษ์ แพ้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยผู้ชนะการเลือกตั้งคือ นายธนเดช ศรีณรงค์

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๑๒ ประจำวันที่ ๒๖ เดือนมกราคม - วันอังคารที่ ๑ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕


1047 1471