25thApril

25thApril

25thApril

 

May 21,2022

กำนันผู้ใหญ่บ้านตบเท้าอีกรอบ ให้ย้ายปลัดฐานทำงานช้า

 

เมื่อช่วงสายวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ นางสาวบุญฑริกา จัยสิน กำนันตำบลคำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนันกว่า ๕๐ คน เดินทางด้วยรถบัสมาที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้มีคำสั่งย้ายนางสาวอุไรทิพย์ แสนอ้วน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว ที่ทำงานล่าช้าและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จำนวน ๙ ข้อ ทำให้ชาวบ้านในตำบลเสียประโยชน์ที่จะได้รับการพัฒนาความเป็นอยู่ในชุมชน

โดยมีข้อกล่าวหา เช่น ไม่รีบซ่อมแซมสถานีจ่ายน้ำใช้ทำเกษตรกรรม ไม่รีบดำเนินการจัดจ้างโครงการภัยพิบัติโพดุล งบประมาณ ๕ ล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ รวมทั้งมักมาทำงานสาย กลับก่อนเวลา ทำให้ประชาชนไม่สามารถติดต่องานได้ มีการนำรถตู้ของ อบต.ไปใช้ส่วนตัว และระหว่างดำรงตำแหน่งปลัด อบต.คำเขื่อนแก้ว มานานถึง ๑๔ ปี ใช้งบประมาณจัดอบรมต่างๆ ปีละหลายแสนบาท แต่ไม่เกิดประโยชน์กับชาวบ้าน จึงมาเรียกร้องขอให้จังหวัด รีบทำการสอบสวน และระหว่างตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ขอให้สั่งย้ายนางสาวอุไรทิพย์ มาประจำท้องถิ่นจังหวัดไปก่อนด้วย

ต่อมานายสรรเสริญ ไชยโพธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ได้ลงมาพบกับกลุ่มผู้เรียกร้อง เพื่อรับฟังปัญหาพร้อมรับหนังสือตามข้อเรียกร้อง โดยระบุว่า จะรีบนำเรื่องเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ เพื่อสั่งการไปยังท้องถิ่นจังหวัดดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ

อนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในตำบลคำเขื่อนแก้ว ได้เคยออกมาเคลื่อนไหวร้องเรียนมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งนางสาวอุไรทิพย์ แสนอ้วน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว ได้ชี้แจงรายละเอียดตามที่ถูกกล่าวหาว่า กรณีสถานีสูบน้ำที่ชำรุดเสียหาย ซึ่งรับถ่ายโอนมาจากกรมชลประทาน ต่อมาปี ๒๕๖๔ มี ๑-๒ จุดเสียหายใช้งานไม่ได้ จึงเอาเรื่องเข้าสภาของบซ่อมแซม แต่สภายังไม่อนุมัติงบประมาณ ส่วนการใช้งบภัยพิบัติพายุโพดุล ๓ โครงการ ซึ่งไม่ใช่งบประมาณพัฒนาปกติ ต้องทำการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding) ของคณะกรรมการแต่ละชุด ต้องตรวจสอบบริษัทผู้รับเหมาที่มารับจ้างกว่า ๒๐ ราย ทำให้การตรวจสอบเสร็จไม่ทันงบประมาณปี ๒๕๖๓จึงไปติดล็อกส่วนของมติ ครม.จังหวัดให้ชะลอไว้ก่อน เพื่อทำหนังสือไปยังกรมส่งเสริมปกครองขอยกเว้นมติ ครม. ทำให้ไม่สามารถลงนามในสัญญาว่าจ้างได้ ทั้งที่มีบริษัทผู้รับจ้างทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามข้อร้องเรียนทั้งหมดนี้ ตนยินดีให้ปากคำและนำหลักฐานมาแสดงกับคณะกรรมการ เพราะถือว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการแล้ว


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๒๗ ประจำวันพุธที่  ๑๘ - วันอังคารที่  ๒๔  เดือนพฤษภาคม  พุทธศักราช  ๒๕๖๕


1019 1417