28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

August 15,2022

‘สุวัจน์’ชี้ยุคทองเศรษฐกิจโคราช เปิดใช้มอเตอร์เวย์-รถไฟเร็วสูง รองรับท่องเที่ยวและการลงทุน

“สุวัจน์” ชี้เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ ไทยช่วยไทยสร้างกำลังซื้อภายในประเทศ มั่นใจเศรษฐกิจยุคทองของโคราชจะกลับมา เมื่อมีการเปิดใช้มอเตอร์เวย์และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะรองรับทั้งการท่องเที่ยวและการลงทุน 

วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ เอ็มซีซีฮอลล์ชั้น ๓ เดอะมอลล์ โคราช นาย  สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ ๑๖ “Money Expo Korat 2022” โดยมีนายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสันติ วิริยะรังสรรค์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้อำนวยการศูนย์ฅนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมภาคเอกชนจำนวนมากเช้าร่วม

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ ๑๖ “Money Expo Korat 2022” ภายใต้แนวคิด “Wealth to Wellness” ต้องขอบคุณที่ได้มาช่วยดูแลเศรษฐกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำความรู้และสินเชื่อความรู้และสภาพคล่องต่างๆ มาช่วยนักธุรกิจผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร สืบเนื่องแล้ว ๑๕ ปี และปีนี้เป็นปีที่ ๑๖ ไม่เฉพาะชาวโคราช แต่มีพี่น้องประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงก็มาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจ และปีนี้ถือว่าเป็นปีที่มีความสำคัญ เป็นปีของ  Wealth to Wellness ซึ่งมีความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจของโลกอย่างไม่เคยมีมาก่อน เหมือน Perfect Storm พายุลูกใหญ่ๆ เศรษฐกิจโลกเข้ามาแล้วกระทบต่อประเทศไทยรุนแรงมาก เราจะต้องติดตามผลกระทบกัน ๒ ปีกว่า เราคิดว่าลองโควิดจะ ๕-๖ เดือนนี้ก็ลาก ๒ ปีครึ่งตอนนี้ก็ยังไม่จบทำให้เกิดการใช้จ่ายของประเทศทั่วโลก เพื่อที่จะมาต่อสู้กับโควิด เมื่อมีการใช้จ่ายเยอะก็มีการกู้เงิน และมีมาตรการต่างๆ เพื่อให้มีสภาพคล่อง ก็ได้มีการกู้เงินมาก เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ (demand-pull inflation) ใช้จ่ายเงินเยอะกู้เงินกันเยอะทั่วโลก บางประเทศ ๑๐๐% ของ GDP แต่ประเทศไทย ๖๐% ของ GDP เพื่อที่จะเอาโควิดให้อยู่ และไม่ใช่เงินเฟ้อจากโควิดอย่างเดียวที่เผชิญ มีเงินเฟ้อจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ที่ทำให้เกิดปัญหาพลังงาน ทำให้แก๊ส น้ำมัน ราคาพลังงานสูงขึ้นมาก และผลผลิตทางด้านการเกษตรอาหาร อย่างข้าวบาเลย์ ข้าวโอ๊ต กว่า ๓๐% ของโลกต้องหยุด หรือพวกโปแตซที่ผลิต ๖๐% ของโลกที่มาทำปุ๋ย ก็เลยทำให้ปุ๋ย ราคาแพง อย่างข้าวโพด ซึ่งเป็น ๑ ใน ๕ ผลกระทบเรื่องอาหารแพงก็ตามมาอีก และห่วงโซ่ของการผลิตก็ตามมาอีก ปัญหาต่างๆ ทำให้เกิดเงินเฟ้อ สินค้าราคาแพง หรือเรียกว่า cost-push inflation ทำให้เกิดเงินเฟ้อที่รุนแรงขนาดนี้ อย่างสหรัฐอเมริกาตอนนี้เกิดเงินเฟ้อ ๙% กว่าในรอบ ๔๐ ปีของสหรัฐอเมริกา ยุโรปก็เกือบ ๘% กว่า ตั้งแต่มีเงินยูโร ประเทศไทยตอนนี้ก็ประมาณ ๗.๖% โลกทั้งโลกตอนนี้ประมาณ ๘% แล้วยังมาเจอดอกเบี้ยแพงอีก ก็เป็นเรื่องปกติ เป็นการแก้ไขเงินเฟ้อ ในนโยบายการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อดึงเงินกลับ ก็ทำให้นักลงทุนดึงการลงทุน ไปลงทุนที่เงินดอลลาร์ ซึ่งค่อนข้างจะปลอดภัย เป็นเงินที่ใช้กับการค้ามากว่า ๔๐-๕๐% และมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ๖๐% เมื่อมีภาวะดอกเบี้ยแพงก็มีการย้ายการลงทุนไปที่เงินดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นว่าเงินดอลลาร์จะเข็งมาก และตอนนี้ ๑ ดอลลาร์ เท่ากับ ๓๖ บาท ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย บางประเทศเล็กๆ มีปัญหาล้มละลาย GDP แต่ละประเทศ ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อย่างสหรัฐอเมริกา GDP ถดถอยมาแล้ว ๒ ไตรมาส วันนี้โลกอยู่ในภาวะที่ไม่ดี และตอนนี้ก็ยังห่วงเรื่องสถานการณ์ไตหวันกับจีน ไม่รู้ว่าจะเป็น storm พายุทางเศรษฐกิจอีก ๑ ลูกหรือเปล่า ที่จะมาทำให้เกิดภาวะไม่แน่นอนหรือเปล่ากับเศรษฐกิจของโลก

“เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก เมื่อะไรเกิดขึ้นกับโลกก็เกิดกับไทย เราจะได้รับผลกระทบอย่างมากแน่นอน เราต้องดึงเงินมาใช้จ่ายเยอะ ตอนนี้ก็ ๖๐% ของ GDP และหนี้ครัวเรือนก็ค่อยข้างจะสูง GDP ปีนี้อาจจะประมาณ ๓% หรืออาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โควิด ๒ ปีก่อน GDP ติดลบ ๖% ปีที่แล้วบวก ๑.๕ % ปีนี้ก็ขยับมาหน่อย ค่าเฉลี่ยเราก็ยังขาดทุนอยู่ งบประมาณแต่ละปี ๓ ล้านล้าน ก็ต้องกู้เงินมาปิดประมาณ ๗-๘ แสนล้านบาท ทุกปีเงินที่เหลือจากเงินงบประมาณเหลือเพียง ๒๐% ที่มาก่อสร้างและพัฒนาเรื่องต่างๆ ซึ่งเราก็อยู่ในสภาวะที่ยากลำบากโดยเฉพาะภาคเอกชน ผู้ประกอบการน่าเห็นใจมาก ยิ่งสถานการณ์เราหวังการลงทุน  ค่อนข้างจะลำบาก ความผันผวนเรื่องเงินเฟ้อ ค่าเงิน คิดว่าเป็นการทำให้นักลงทุนกังวลมาก การส่งออกอาจจะใช่ เพราะค่าเงินทำให้เราได้เปรียบ การท่องเที่ยว แน่นอนเป็นจุดแข็ง เพราะเขาไม่ต้องการความเชื่อมั่นมากนัก เพราะมาระยะสั้น ถ้าผมมาปลอดภัย การท่องเที่ยวก็ยังเป็นเศรษฐกิจหลัก กับการส่งออกที่จะเป็นไม้ค้ำยันให้กับเศรษฐกิจประเทศ แต่ตอนนี้การท่องเที่ยวก็ยังไม่ปกติ เปิดประเทศมาได้ ๒ เดือน ตัวเลขนักท่องเที่ยวประมาณ ๒ ล้านคน ของครึ่งปี อีก ๖ เดือนที่เหลือ ถ้าเดือนละ ๑ ล้านคน อีก ๘ ล้าน ซึ่งเป็น ๒๐% ของ ๔๐ ล้าน ภาวะต่างๆ ยังไม่เป็นใจ ซึ่งต้องเห็นใจผู้ประกอบการ และกลุ่ม SME พ่อค้า แม่ค้า โอทอป รากหญ้า เพราะเจอทั้งเรื่องของแพง ต้นทุน ห่วงโซ่ต่างๆ อย่างวันนี้ มีงาน Money Expo เราต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน  คนไทยช่วยคนไทย ไทยทำไทยใช้ไทยเจริญ ลงทุนในประเทศไทย Made in Thailand เพื่อสร้างกำลังซื้อภายในประเทศทดแทนจากต่างประเทศ เศรษฐกิจเราจะได้ประคองตัวได้ เราต้องช่วยกันไทยช่วยไทย เพื่อรอเวลา เพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอด”

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า “เราต้องช่วยโดยตรงผู้ประกอบการ SME เพราะเป็นพื้นฐานของอุตสาหกรรมใหญ่ เช่น ถ้าไม่ดูแลผู้ประกอบการ กลุ่มผู้ประกอบการ เขาไม่อยู่แล้ว ถ้านักท่องเที่ยวมาแล้วไม่มีโรงแรม ที่พัก ร้านค้า สินค้า โอทอป ไม่อยู่ จะทำอย่างไร ต้องช่วยให้เขาอยู่ได้ เพื่อรอเวลานักท่องเที่ยวเข้ามา เรามีความพร้อม เพื่อรองรับ นักท่องเที่ยวทันที” 

“จุดที่จะส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจรุ่งเรืองยุคทองของโคราชอีกครั้ง คือ เมื่อไรที่มีการเปิดมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-โคราช และเปิดรถไฟความเร็วสูง อย่างเช่น ในยุคพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ มีการสร้างถนน ๔ เลน จาก ๒ เลน นำเศรษฐกิจมากมายมาสู่โคราช ทำให้โคราชเป็นประตูสู่อีสาน และทำให้อีสานประตูสู่อินโดจีนฉะนั้น หลังจากเปิดมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-โคราช การเดินทางใช้เวลาประมาณ ๑.๔๕ ชม.ถึงโคราช และ ๑ ชม.ถึงเขาใหญ่มรดกโลก ถ้ารถไฟความเร็วสูงเปิดเมื่อไร ๑.๑๐ ชม.ถึงโคราช ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่แห่งที่ ๒ ของประเทศ ซึ่งมีประชากร ๒.๕ ล้านคน มีฐานทรัพยากรทางเกษตร ทางด้านการท่องเที่ยว มีฐานที่เข้มแข็งมาก มี ๓ ฐาน คือ ๑.เป็นจังหวัดที่มีมรดกโลก “เขาใหญ่” ที่ได้รับการรับรองยูเนสโก ๒.มีแหล่งพื้นที่สงวนชีวมณฑล ได้รับการรับรองจากยูเนสโก ให้เป็นแหล่งของความอุดมสมบูรณ์ของป่าของพันธุ์ไม้ และ ๓.โคราชถ้าได้การรับรองจากยูเนสโก กำลังจะยกฐานะให้เป็นอุทยานธรณีโลก เป็น World Geo Park เป็น ยูเนสโก จีโอพาร์ค ซึ่งตอนนี้พื้นที่ ๕ อำเภอของโคราช คือ อ.สูงเนิน อ.ขามทะเล อ.พิมาย อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.สีคิ้ว ถ้าขุดไปใต้ดินจะเจอแหล่งฟอสซิลมหาศาล เจอซากไดโนเสาร์ เจอซากช้างโบราณ เต่าโบราณ และเจอความอุดมสมบูรณ์ เดือนกันยายนนี้ ยูเนสโก จะประกาศผลถ้าโคราช Korat Geo Park ได้รับการยกฐานะ ให้เป็น ยูเนสโก จีโอพาร์ค โคราชจะเป็นจังหวัดที่ ๓ ในโลก มีแค่ ๓ ประเทศ ซึ่งมี เกาหลี อิตาลี และโคราช ที่จะมี ๓ มงกุฎ ซึ่ง มงกุฎแรก คือ เขาใหญ่ มรดกโลก, พื้นที่สงวนชีวมณฑล สแกราช ที่ปักธงชัย และมงกุฎที่ ๓ คือ อุทยานธรณีโลก ใน ๕ อำเภอ โคราชจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แบบคลาสสิก ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวแบบช้อปปิ้ง แต่เป็นการท่องเที่ยวแบบวัฒนธรรม โบราณคดี ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นการรองรับการลงทุนของภาครัฐ เช่น การลงทุนรถไฟความเร็วสูง, ถนนมอเตอร์เวย์ ไม่เสียเปล่า จะเป็นการลงทุนไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับ พื้นฐานการท่องเที่ยวของประเทศ และพื้นฐานการลงทุน” นายสุวัจน์ กล่าว

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๘ ฉบับที่ ๒๗๓๙ วันพุธที่ ๑๐ - วันอังคารที่ ๑๖ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕


984 1595