28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

January 23,2023

“ปฏิภาณ ตันติกุล” กับโปรเจ็กต์ “ทะเลทาวน์” อาณาจักรการค้าครบวงจรแห่งใหม่เมืองโคราช

ปัจจุบันที่ดินในโคราช กำลังเกิดการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการลงทุนโครงการมิกซ์ยูส ที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็มี และล่าสุด “ปฏิภาณ ตันติกุล” หรือ “พิม” นักธุรกิจหนุ่ม อายุ ๒๖ ปี ทายาท “พงษ์ศักดิ์-นัฐชา ตันติกุล” ประธานกลุ่มบริษัท พีโอ ออยล์ จำกัด ได้คิดโปรเจ็กต์ “ทะเลทาวน์” มิกซ์ยูสครบวงจร บนเนื้อที่กว่า ๑๒ ไร่ ที่จะกลายเป็นอาณาจักรการค้าแห่งใหม่ในอนาคต

“ปฏิภาณ ตันติกุล” หรือ “พิม” หนุ่มโคราช จากอำเภอจักราช จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) เมื่อเรียนจบก็ได้ฝึกทำงานทั้งงานด้านการก่อสร้างและการบริหาร ในกลุ่มบริษัท พีโอ ออยล์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจค้าน้ำมันและให้บริการปั๊มน้ำมัน ปตท.หลายสาขาทั่วประเทศ และยังเป็นธุรกิจหลักของครอบครัวด้วย

เมื่อ “พิม” มีประสบการณ์มากขึ้นจากการบริหารปั๊มน้ำมันและการปล่อยเช่าพื้นที่ รวมกับความชอบส่วนตัวที่มักจะไปเดินเลือกสินค้าที่ Night Market (ตลาดกลางคืน) เป็นประจำ จึงเกิดไอเดียอยากจะทำโครงการมิกซ์ยูสและ Night Market ของตัวเอง ซึ่งโคราชมีตลาดไนท์ดังๆ เพียง ๒ แห่ง คือ ไนท์บ้านเกาะ และตลาดเซฟวัน ซึ่งทั้ง ๒ แห่งอยู่ค่อนข้างไกลจากโซนหัวทะเล และแถวหัวทะเลก็ยังขาดคอมมูนิตี้มอลล์หรือมิกซ์ยูส

จากนั้น “พิม” ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ กับงบประมาณ ๒-๓ แสนบาท ออกแบบโปรเจ็กต์ “ทะเลทาวน์” ขึ้นมาโดยมีบริษัท พีโอ ออยล์ จำกัด เป็นที่ปรึกษา เริ่มแรกเป็นเพียงการออกแบบและเขียนไอเดียลงไปบนกระดาษเท่านั้น ซึ่งได้นำไอเดียนี้ไปเสนอขายให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการที่สนใจเช่าพื้นที่ ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับดีมาก ขายพื้นที่ได้มากถึง ๗๐% เขาจึงนำเรื่องนี้ไปนำเสนอครอบครัว  ซึ่งครอบครัวก็เห็นว่า “โปรเจ็กต์นี้มีกลุ่มลูกค้าแล้ว จึงให้ลงมือทำจริง โดยสนับสนุนงบลงทุน”

หลังจากที่ครอบครัวสนับสนุนให้ลงทุน “ทะเลทาวน์” เขาได้ขับรถหาทำเลเหมาะๆ ที่จะก่อสร้าง กระทั่งได้มาเจอที่ดินผืนหนึ่งบนถนนตัดใหม่ ข้างโลตัสหัวทะเล และตัดสินใจก่อสร้างทันที โดยเริ่มแรกก่อสร้างเป็นปั๊มน้ำมัน “62 Station” จากนั้นจึงค่อยๆ ก่อสร้างอาคารและพื้นที่ใช้สอยต่างๆ บนเนื้อที่ ๑๒ ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ใช้สอย ๕ ไร่ ที่จอดรถ ๕ ไร่ และเหลือไว้ขยายในอนาคต ๒ ไร่ ซึ่งเขาตั้งใจว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมดไม่เกิน ๕๐ ล้านบาท

สาเหตุที่ต้องเป็นพื้นที่หัวทะเล เพราะเขาตั้งใจว่า “ต้องการให้คนที่มาจากอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จักราช และห้วยแถลง ไม่ต้องวิ่งผ่านตัวเมือง เพื่อไปตลาดเซฟวันหรือไนท์บ้านเกาะ แต่ให้มาซื้อสินค้าที่นี่ มาที่เดียวครบวงจร มีทั้งร้านทำผม ร้านยา คลินิกต่างๆ ตลาดนัด ตลาดไนท์ ผับบาร์ และพื้นที่นั่งชิลล์ หากทำให้คนฟากนี้ไม่ต้องเข้าเมือง สามารถใช้ชีวิตหรือมีไลฟ์สไตล์ที่ทะเลทาวน์ได้เลย”

“ทะเลทาวน์” มีจุดเด่นเป็นคอมมูนิตี้มอลล์หรือมิกซ์ยูส และตลาดไนท์ ที่ครบวงจร ใหญ่ที่สุดในหัวทะเล พร้อมด้วยปั๊มน้ำมันคุณภาพ ราคาถูก เปิดบริการ ๒๔ ชั่วโมง มีที่จอดรถยนต์มากกว่า ๕๐๐ คัน อยู่ในแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มาครบจบที่เดียว กิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง พักผ่อน มีทั้งร้านอาหารต่างๆ เช่น ร้าน Shabu Zeed ร้านกาแฟ ร้านอาหารญี่ปุ่น ผับบาร์ และร้านดังๆ อีกมากมาย และในอนาคตจะมีอะไรอีกบ้างก็ต้องรอดู

หลังจากเปิดจองพื้นที่ไปแล้ว ๓ เดือน ปัจจุบันทะเลทาวน์ มียอดจองแล้วกว่า ๘๐% โดยพื้นที่ห้องเช่าภายในอาคารถูกจองหมดแล้ว นับเป็นมิกซ์ยูสที่ได้การตอบรับที่ดีมาก สวนทางสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้อย่างมาก ซึ่งในส่วนนี้ “ปฏิภาณ” แสดงความคิดเห็นว่า

“หากมองในเรื่องการขายพื้นที่ ซึ่งเป็นรายได้หลักของโครงการ จะช่วยให้เราได้ผู้ประกอบการที่แข็งแรง เพราะผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิดอาจจะไม่ได้ค้าขายในช่วงนี้ การทำคอมมูนิตี้มอลล์ขณะนี้ จึงทำให้ได้ผู้ประกอบการที่พร้อมอยู่แล้ว เพราะด้วยสถานการณ์โควิดและเศรษฐกิจที่ซบเซา ช่วยคัดกรองผู้ประกอบการ แต่ปัญหาที่เจออาจจะเป็นเรื่องการหาผู้เช่าพื้นที่ยากขึ้น เพราะผู้ประกอบการที่พร้อมมีน้อยลง แต่ถ้าหาได้ก็จะได้คนที่มีความพร้อมจริงๆ มีสถานะการเงินที่มั่นคงในระดับหนึ่ง เพราะคนที่กำลังขยายร้านหรือหาพื้นที่ขายอยู่ ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ”

แม้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่เข้ามาเช่าพื้นที่ทะเลทาวน์ จะมีความพร้อมแล้วก็ตาม แต่ทะเลทาวน์ก็ไม่ทิ้งผู้ค้าอื่นๆ โดยตั้งใจว่า ผู้ประกอบการหรือพ่อค้าแม่ค้าทุกคน จะได้รับการสนับสนุนจากทะเลทาวน์ ทั้งการช่วยเหลือด้านการตลาด การตกแต่งร้าน และยังมีทรูเป็นพาร์ทเนอร์ จะเข้ามาช่วยดูแลด้านการชำระเงินออนไลน์ให้ด้วย

เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความมั่นคงให้กับผู้ค้าทุกคนทะเลทาวน์จะเน้นเรื่องความสะอาดของพื้นที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตลาดอื่นๆ ขาดหายไป ที่สำคัญจะจัดให้มีกิจกรรมตลอดทั้งปี เพื่อให้บรรยากาศไม่เงียบเหงา และกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต สวนสนุก หรือธุรกิจท้องถิ่น และธุรกิจอื่นๆ จะจัดกิจกรรมก็ได้ เพราะที่นี่มีลานกิจกรรมด้วย

ทะเลทาวน์เป็นน้องใหม่ในโคราช ‘ปฏิภาณ’ จึงได้สำรวจราคาเช่าพื้นที่มาบ้าง แล้วก็ใช้วิธีลดราคาให้ถูกกว่าที่อื่นๆ แต่ในราคาที่ลดลง ทะเลทาวน์กลับดูแลให้ทุกอย่าง ทั้งการตกแต่งร้านหรือห้องเช่า ผู้ค้าเพียงยกของเข้ามาแล้วจัดร้านก็ขายได้ทันที “ราคาที่นี่ ถูกกว่าที่อื่นแต่เราทำให้มากกว่า”

โดยค่าเช่าในส่วนของตลาดไนท์ ขนาด ๒x๒ เมตร แบกะดิน วันละ ๕๐ บาท เต็นท์นำมาเองวันละ ๑๐๐ บาท ในอาคารตลาดวันละ ๑๕๐ บาท รายเดือนๆ ละ ๓,๐๐๐ บาท ค่าเช่าโซนพลาซ่าขายทั้งวัน ขนาด ๓x๓ เมตร รูปแบบห้อง เดือนละ ๔,๕๐๐ บาท และโปรโมชั่นขายฟรีไม่คิดค่าเช่า ๑ เดือน ไม่มีการผูกมัด ส่วนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำนั้น ผู้เช่าต้องชำระเองตามจำนวนการใช้งาน

สำหรับผู้ที่สนใจพื้นที่เช่าเพื่อค้าขายใน “ทะเลทาวน์” สามารถดูรายละเอียดได้ที่แฟนเพจ “Talay Town ทะเลทาวน์ หัวทะเล” หรือโทร ๐๘๖-๙๘๐-๑๒๓๔ (พิม) และ ๐๖๓-๕๑๗-๗๑๗๔

• Snowman
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๘ ฉบับที่ ๒๗๔๙ วันที่ ๑๕ มกราคม - วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖

 


1017 1757