29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

May 24,2023

สมาชิกเบิกเงินสหกรณ์ไม่ได้ อ้างเจ้าหน้าที่ยักยอก ๒๐ ล.

สมาชิกนับร้อยตบเท้าไปเบิกเงินที่สหกรณ์การเกษตรฯ เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีเงิน เพราะถูกเจ้าหน้าที่การเงินยักยอกไปกว่า ๒๐ ล้านบาท ขอเวลา ๑ เดือนตรวจสอบ ยืนยันจะให้คืนทั้งต้นและดอก

เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเปือยน้อย จ.ขอนแก่น และ สภ.เปือยน้อย มีประชาชนกว่า ๑๐๐ คน นำสมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เล่มสีน้ำเงิน และสมุดคู่ฝากบัญชีเงินฝากพิเศษออมทรัพย์ เล่มสีชมพู และเอกสารจากทางสหกรณ์ที่แสดงรายงานการเดินบัญชี ซึ่งระบุไม่ตรงกับในสมุดคู่ฝากบัญชีของชาวบ้านที่เป็นสมาชิก เข้าร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน พร้อมทั้งการเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนให้เป็นกระบอกเสียงสะท้อนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบกรณีเงินในบัญชีของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยหายไป

น.ส.พวงผกา คงพันแสง อายุ ๒๗ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๖๓ ม.๗ ต.สระแก้ว อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้มอบอำนาจให้แม่ไปถอนเงินจำนวน ๔๒๐,๐๐๐ บาท แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถเบิกเงินได้ เพราะเกิดปัญหาระบบล่ม ขอเวลา ๓ วัน จะดำเนินการเบิกจ่ายให้ จึงแปลกใจและตั้งข้อสงสัยว่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่ไม่ควรจะเกิดปัญหาติดขัดแบบนี้ น่าจะมีเงินหมุนเวียนอยู่แล้ว กระทั่งเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาได้ให้แม่ไปถอนเงินและปิดบัญชี เพราะไม่เชื่อใจ ซึ่งไปขอ ๓ ครั้งก็บอกเพียงว่าไม่มีเงินให้ บอกเพียงว่าขอเวลาหาเงินก่อน

“ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางสหกรณ์ติดประกาศไว้หน้าสหกรณ์ว่าระบบล่ม ๘-๑๕ พฤษภาคม ซึ่งชาวบ้านมีการพูดคุยกันมาตลอด ไม่มีใครสามารถถอนเงินได้ จึงรวมกลุ่มกันไปที่สหกรณ์ แต่ก็ยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรมาก เพราะมีตัวแทนชาวบ้านเข้าไปคุยในห้องผู้จัดการเพียง ๒ คน จึงบอกให้ออกมาชี้แจงกับชาวบ้านข้างนอก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่า มีคนทุจริตยักยอกเงินไปกว่า ๑๐ ล้านบาท จึงทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้ ขอเวลาในการตรวจสอบ ๑ เดือน และจะชดใช้เงินทั้งต้นทั้งดอกคืนให้กับสมาชิกทุกคนที่ถูกยักยอกเงินออกไปจากบัญชี จึงเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งได้ประสานไปยังสหกรณ์จังหวัดส่งเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง”

น.ส.พวงผกา กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของสมุดบัญชีที่ชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกทุกคนมีอยู่นั้น ข้อมูลไม่ถูกต้อง เป็นการปลอมข้อมูลขึ้นมาโดยเจ้าหน้าที่การเงิน โดยในสมุดบัญชีลงข้อมูลเบิกจ่ายตามจริงที่เราทำธุรกรรม แต่ในระบบการเดินบัญชีของสหกรณ์มีการเบิกจ่ายนอกเหนือจากที่ทำธุรกรรมทางการเงิน จนเงินในบัญชีจากหลักแสนบาทเหลือเพียงหลักหมื่นบาทเท่า หากสามารถนำเงินมาคืนทั้งต้นทั้งดอกได้ตามที่บอกกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ชาวบ้านก็ไม่ติดใจ ส่วนเรื่องอื่นว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งเชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียว มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก

ขณะที่นายประมวล ดงแสง อายุ ๕๙ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๖๘ ม.๗ ต.ขามป้อม อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ทำงานที่กรุงเทพฯ และนำเงินฝากกับสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ซึ่งฝากเข้าบัญชีจนได้เงินเก็บกว่า ๒,๔๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ามีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น กระทั่งในวันที่ ๑๒ พฤษภาคมได้เดินทางกลับมาจาก กทม. เพื่อมาขอถอนเงินจำนวน ๑,๓๐๐,๐๐๐ บาท เพราะจะนำไปซื้อที่นา แต่เมื่อมาขอถอนเงินเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถถอนได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ยักยอกไปจนหมด ซึ่งทางสหกรณ์ขอดำเนินการตรวจสอบไม่เกิน ๒ เดือน และจะดำเนินการจ่ายเงินคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยคืนให้ครบทั้งหมด

“ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ตนฝากเงินไว้ ๒,๔๐๐,๐๐๐ บาท ถูกยักยอกไป ๑,๓๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งก็ถามว่าจะต้องทำอย่างไร แล้วจะถอนเงินที่เหลืออีกล้านกว่าบาทคืนได้ไหม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกขอตรวจสอบก่อน ส่วนเรื่องที่ทางสหกรณ์บอกว่ามีเจ้าหน้าที่เอาเงินไป ตนเองก็ไม่ได้สอบถามมาก ทราบเพียงว่า สหกรณ์ให้เหตุผลที่ถอนเงินไม่ได้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ยักยอกเงินไปและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากตรวจสอบเสร็จก็จะดำเนินการคืนเงินให้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยครบทั้งหมด”

นายประมวล กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ยังได้ยื่นขอเสนอว่า ต้องการที่ดินแทนเงินที่ถูกยักยอกไปหรือไม่ ตนเองก็บอกว่าหากมีที่ดินแทนเงินสดได้ก็เอา จึงหามาให้เลือก ตนจึงเลือกที่ดินเนื้อที่ ๘ ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตีประเมินราคาที่ ๒ ล้านบาท โดยบอกที่แรกไร่ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท แต่พอมาดูที่บอกเป็นไร่ละ ๒๕๐,๐๐๐ บาท ตนก็เอะใจว่าทำไมถึงพูดกลับไปกลับมาแต่ก็ตกลงที่จะซื้อ แต่มาในช่างรังวัดที่ดิน มีเกินมา ๑ งานเศษ จึงเรียกเงินจากตนเองอีก ๙๐,๐๐๐ บาท จึงบอกว่า พูดกลับไปกลับมา เงินเก่ายังไม่ได้ ยังจะมาเอาเงินใหม่อีก จึงปฏิเสธไม่เอาที่ดินแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกให้กลับมาคิด ก่อนจะกลับมาบ้านและได้พูดคุยกับชาวบ้าน ชาวบ้านก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน จึงรวมตัวกันทยอยเข้าแจ้งความ หากถามว่าเชื่อมั่นไหมว่าจะได้เงินคืน ตอบเลยว่าไม่มีความมั่นใจ เพราะจำนวนเงินหลายสิบล้าน จะใช้เวลาแค่เดือนสองเดือนมาคืนให้ก็เชื่อยาก หากเป็นปีก็จะพอเชื่อได้ และหากได้เงินคืนตนก็ไม่ติดใจ ส่วนคดีก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย โดยพบว่า สหกรณ์ได้ทำการปิดให้บริการเนื่องในวันหยุดวันพืชมงคล ซึ่งจากการตรวจสอบพบประกาศข้อความระบุระว่า “สหกรณ์ฯ งดให้บริการการรับฝากเงิน การถอนเงิน ชั่วคราว เพื่อปรับปรุงโปรแกรมการใช้งานคอมพิวเตอร์ เนื่องจากพบความผิดปกติของระบบการให้บริการและโปรแกรมการใช้งาน สหกรณ์จึงของดบริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ ๘-๑๕ พ.ค.๖๖”

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๘ ฉบับที่ ๒๗๕๓ ประจำวันที่ ๑๕ พฤษภาคม - ๑๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๖


990 1622