23rdJune

23rdJune

23rdJune

 

June 16,2025

เปิด ๔ นโยบายเร่งด่วน และ ๑๐ นโยบายหลัก ‘น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล’ นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา

เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น ๕ อาคารฉลองสิริราชสมบัติ ครบ ๕๐ ปี เทศบาลนครนครราชสีมา มีการประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมีนายกายสิทธิ์ สุคนธรัตน์ ประธานสภาเทศบาลนครฯ พร้อมด้วยนายชัยโรจน์ ศุภโชคเจริญวงศ์ รองประธานสภาฯ และนายศิระ จันทวร รองปลัดเทศบาลฯ เลขานุการสภาฯ ซึ่งนายอนันต์ ถ้ำทอง ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการประจำเทศบลนครฯ และผู้แทนชุมชน เข้าร่วม รวมทั้งอดีตรองนายกเทศมนตรีนครฯ ๒ คนได้แก่ นายไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ, นายวุฒิศักดิ์ ภาวะศิลป์ และนายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ อดีตประธานสภาฯ เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ คาดว่าบุคคลทั้ง ๓ จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทีมบริหารในตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีฯ และเลขานุการนายกเทศมนตรี ซึ่งในการแถลงนโยบายนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อคณะผู้บริหาร

ทั้งนี้ “โคราชคนอีสาน/koratdaily” ได้โทรศัพท์สอบถาม น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีฯ ถึงรายชื่อรองนายกเทศมนตรีฯ ได้รับการเปิดเผยสั้นๆ ว่า “ยังไม่ได้แต่งตั้ง ถ้าได้ตัวหรือมีการแต่งตั้งแล้วจะบอก อีกไม่นาน”

สำหรับการประชุมสภาเทศบาลนครฯ ในวันนี้มีวาระสำคัญคือการแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลนครนครราชสีมาของ น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครฯ ซึ่งมีนโยบายเร่งด่วน ๔ ด้าน และนโยบายหลัก ๑๐ ด้าน ดังนี้

---------------------------

 

คำแถลงนโยบาย ของ นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา

แถลงต่อ สภาเทศบาลนครนครราชสีมา ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น ๕ อาคารฉลองสิริราชสมบัติ ครบ ๕๐ ปี ในวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๘

 

เรียน ท่านประธานสภาเทศบาลและท่านสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ที่เคารพ

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศลงวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๘ เรื่องผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ประกาศให้ข้าพเจ้า นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล เป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมานั้น

ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ให้เข้ามาทำหน้าที่นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาในครั้งนี้ ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องอุทิศทั้งกำลังกาย กำลังใจ และสติปัญญา เพื่อขับเคลื่อนบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น จะต้องดำเนินไปด้วยความโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดแก่ประชาชนเป็นสำคัญ

เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา ๔๘ ทศ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งได้กำหนดให้นายกเทศมนตรีแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลก่อนเข้ารับหน้าที่ ซึ่งข้าพเจ้าได้กำหนดนโยบายในการบริหารงานและพัฒนาเทศบาลนครนครราชสีมา สำหรับช่วงระยะเวลา ๔ ปี นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของเทศบาล ภายใต้กฎ ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยยึดถือยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาล และกรอบยุทธศาสตร์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๙) รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดนครราชสีมา เป็นหลักในการกำหนดนโยบายในการบริหารงาน ซึ่งในขณะนี้เทศบาลนครนครราชสีมากำลังเผชิญทั้งโอกาสและความท้าทายมากมาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ และเทคโนโลยี การจัดทำนโยบายของข้าพเจ้า จึงได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏในพื้นที่ และเสียงสะท้อนจากประชาชนเป็นสำคัญ รวมทั้งแนวโน้มในการพัฒนาทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

ในโอกาสนี้ข้าพเจ้าขอแสดงความขอบคุณต่อคณะผู้บริหารเทศบาลนครนครราชสีมาชุดก่อนหน้า ที่ได้ทุ่มเทสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งไว้ ซึ่งข้าพเจ้าจะได้ดำเนินการต่อยอดจากที่คณะผู้บริหารชุดก่อนหน้าได้ดำเนินการไว้แล้ว รวมทั้งจะดำเนินนโยบายใหม่เพิ่มเติม ในอันที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาเมืองให้เจริญเติบโตต่อไป โดยเฉพาะปัญหาน้ำประปาขาดแคลน ปัญหาขยะล้นเมือง ปัญหาน้ำท่วมเมือง ปัญหามลพิษทางน้ำและทางอากาศ ปัญหาการจราจรติดขัด ปัญหาธุรกิจท้องถิ่นซบเซาจนต้องปิดกิจการลง ปัญหาที่เป็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม เหล่านี้เป็นต้น

ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่เทศบาลนครนครราชสีมาพร้อมที่จะประสานพลังกับทุกภาคส่วน ในอันที่จะเปลี่ยนความท้าทายเหล่านี้ เพื่อให้เมืองนครราชสีมาพลิกฟื้นจากปัญหาที่รุมเร้า และได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองที่สะอาด สวยงาม ปลอดภัย ทันสมัย น่าอยู่ และน่าท่องเที่ยว รวมทั้งวางรากฐานในการขับเคลื่อนเมืองให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง สู่ความเป็นมหานครแห่งโอกาสและอนาคตในโอกาสต่อไป

 

 

ท่านประธานสภาเทศบาลและสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ที่เคารพ

           ข้าพเจ้าจึงขอแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมาว่า ข้าพเจ้าจะมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหา  และพัฒนาเมืองนครราชสีมาของเรา ให้มีความเจริญเติบโตก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป เพื่อประโยชน์สุขและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน  โดยได้กำหนดนโยบายในการบริหารงานไว้เป็น ๒ ประเภท ได้แก่ นโยบายเร่งด่วน ๔ ด้าน และนโยบายหลัก ๑๐ ด้าน ดังนี้

 

นโยบายเร่งด่วน

๑.เร่งรัดปรับปรุงและพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำประปาแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อให้ทุกครัวเรือนมีน้ำประปาที่สะอาดและปลอดภัยใช้อย่างพอเพียงทั่วถึงและยั่งยืน  รองรับการค้าการลงทุนและการขยายตัวของเมืองในอนาคต

๑.๑ โดยเร่งรัดดำเนินการโครงการวางท่อส่งน้ำดิบใหม่จากแหล่งน้ำลำตะคองมายังโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่าให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดตามเงื่อนไขสัญญา เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของน้ำดิบต้นทุนในการผลิตน้ำประปา ทดแทนท่อส่งน้ำดิบเดิมที่หมดอายุการใช้งานแล้ว

๑.๒ เร่งรัดดำเนินการติดตั้งระบบตรวจวัดและควบคุมการสูญเสียน้ำประปาให้ครอบคลุมพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา รวมทั้งติดตั้งระบบวิเคราะห์และประมวลผล เพื่อค้นหาจุดแตกรั่วซึมของน้ำประปาในระบบท่อส่งและจ่ายน้ำ ในอันที่จะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงซ่อมแซมและหรือเปลี่ยนท่อประปาใหม่ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการสูญเสียของน้ำประปาลงโดยเร็ว

๑.๓ เร่งรัดตรวจสอบสภาพการทำงานของมาตรวัดน้ำ (Meter) ที่ติดตั้งตามบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรวัดน้ำมีความแม่นยำและเชื่อถือได้ และวางระบบบันทึกการใช้งานและอายุการใช้งานของมาตรวัดน้ำแต่ละจุด พร้อมทั้งจัดทำแผนเปลี่ยนหรือซ่อมแซมมาตรวัดน้ำที่เสื่อมสภาพตามวงรอบ และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาตรวัดน้ำอัจฉริยะ (Smart Meter) มาใช้ในอนาคต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำประปา ลดการสูญเสียน้ำ และสร้างความเป็นธรรมในการเรียกเก็บค่าน้ำประปาจากประชาชน

๑.๔ พัฒนาและปรับปรุงระบบผลิตน้ำประปาที่โรงกรองน้ำ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน เพื่อให้ประชาชนมีน้ำประปาใช้ที่สะอาด ปลอดภัย และเพียงพอต่อความต้องการในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

 

๒. เร่งรัดปรับปรุงและพัฒนาระบบริหารจัดการขยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จากต้นทางสู่ปลายทาง เพื่อขจัดปัญหาขยะล้นเมือง

๒.๑ สนับสนุนส่งเสริมให้มีการลดขยะและคัดแยกขยะตั้งแต่แหล่งกำเนิดอย่างจริงจัง ทั้งจากบ้านเรือน โรงเรียน สำนักงาน สถานประกอบการ ตลาดสด ฯลฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำขยะไปรีไซเคิล และลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด โดยมุ่งมั่นสู่ความเป็นเมืองปลอดขยะ (Zero Waste City)

๒.๒ บริหารจัดการระบบการจัดเก็บและขนขยะที่มีประสิทธิภาพ โดยการกำหนดเส้นทางและเวลาการจัดเก็บขยะอย่างชัดเจน เพื่อให้การจัดเก็บขยะเป็นไปอย่างมีระเบียบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

๒.๓ เร่งรัดดำเนินการบริหารจัดการขยะโดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการแปรรูปขยะเป็นพลังงาน (Waste to Energy)

๒.๔ ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินโครงการก่อสร้างและบริหารจัดการศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร โดยใช้รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP) หรือให้เอกชนลงทุนและดำเนินการ (Private Investment)

 

๓. เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

๓.๑ เร่งรัดการก่อสร้างระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่วิกฤตที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดน้ำท่วม ที่ยังมิได้ดำเนินการ ให้สามารถระบายน้ำลงสู่ลำน้ำสาธารณะได้อย่างสะดวกรวดเร็วมีประสิทธิภาพ

๓.๒ ดำเนินการก่อสร้างแนวกั้นน้ำ (Flood Wall) ในพื้นที่ที่มีน้ำไหลบ่าล้นจากลำตะคอง เข้าท่วมเขตเมือง อาทิ บริเวณริมฝั่งลำตะคองบริเวณโรงเรียนสุรนารีวิทยา และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

๓.๓ ดำเนินการขุดลอกคูคลองและทางระบายน้ำเดิม รวมทั้งปรับปรุงทางระบายน้ำให้สามารถระบายน้ำลงสู่พื้นที่ต่ำได้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมขังในเขตเมือง

๓.๔ บูรณาการกับองค์กรปกครองท้องถิ่นใกล้เคียง ในการวางแผนและพัฒนาระบบระบายน้ำแบบเชื่อมโยง ทั้งพื้นที่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำอย่างครบวงจร

๓.๕ ขอความร่วมมือจากกรมชลประทานในการก่อสร้างระบบผันน้ำจากประตูระบายน้ำละลมหม้อไปสู่แก้มลิงที่บึงพุดซา เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเข้าตัวเมืองในฤดูน้ำหลาก  ซึ่งนอกจากจะเป็นการแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองแล้ว ยังเป็นการกักเก็บน้ำเพื่อประโยชน์ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตรกรรมอีกด้วย

 

๔. เร่งรัดดำเนินการพัฒนาระบบรวบรวมน้ำเสียจากพื้นที่ที่ยังมิได้ดำเนินการ เพื่อนำเข้าสู่ระบบการบำบัดน้ำเสียตามมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้หมด

๔.๑ เร่งรัดดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาระบบรวบรวมน้ำเสียจากพื้นที่ที่ยังมิได้ดำเนินการ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณด้านทิศเหนือของลำตะคอง เพื่อให้สามารถนำน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดทั้งหมดเข้าสู่ระบบการบำบัดน้ำเสียที่บึงหัวทะเลตามมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำตามธรรมชาติโดยตรง อันเป็นสาเหตุของปัญหามลพิษทางน้ำ โดยเฉพาะในลำตะคอง

๔.๒ ปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถของระบบบำบัดน้ำเสียที่บึงหัวทะเล ให้สามารถรองรับและบำบัดน้ำเสียได้อย่างสูงสุดเต็มประสิทธิภาพ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพของน้ำที่ผ่านการบำบัด รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการระบบบำบัดน้ำเสียอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างเมืองที่มีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของประชาชน

 

นโยบายหลัก

๑.เร่งรัดพัฒนาเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของเมืองให้ได้มาตรฐานอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รองรับการลงทุน การท่องเที่ยว และการขยายตัวของเมือง

๑.๑ พัฒนาระบบถนน ทางเท้า และระบบไฟฟ้าสาธารณะ ให้ได้มาตรฐาน สะดวก ปลอดภัย ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม  และรองรับการเดินทางของทุกกลุ่มประชากรทั้งผู้สูงอายุและผู้พิการ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น

๑.๒ ขยายโครงข่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อาทิ ระบบประปา ระบบไฟฟ้า และระบบระบายน้ำ ให้ครอบคลุมพื้นที่เมืองทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ยังขาดแคลนอยู่

 

๒. เร่งรัดพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและปรับปรุงภูมิทัศน์ของเมืองให้สวยงาม สะอาด และร่มรื่น

๒.๑ ติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในตัวเมือง พร้อมพัฒนาแอพพลิเคชั่นแจ้งเตือนคุณภาพอากาศ

๒.๒ ดำเนินการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ ด้วยการควบคุมการเผาในที่โล่งภายในเขตเมือง และบังคับใช้มาตรการปิดคลุมสถานที่ก่อสร้างและหรือวัสดุก่อสร้าง  และทำความสะอาดถนนในเขตก่อสร้าง ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบและควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ และโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งจากแหล่งมลพิษอื่นๆ

๒.๓ ดำเนินมาตรการในการบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อตรวจพบว่าคุณภาพอากาศ โดยเฉพาะ PM 2.5 มีค่าสูงเกินกว่าค่ามาตรฐาน รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานระดับภูมิภาค จังหวัด และภาคเอกชน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน  

๒.๔ พัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์รอบคูเมืองให้สวยงามร่มรื่น ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ แหล่งนันทนาการ พักผ่อนหย่อนใจ การออกกำลังกาย  และสนามกีฬาสำหรับเด็กและเยาวชน รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมต่างๆของคนเมือง

๒.๕ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและปอดของเมืองให้มากขึ้น ด้วยการสร้างและพัฒนาสวนสาธารณะเพิ่มขึ้น รวมทั้งพัฒนาพื้นที่ริมถนน ริมทางเท้า และที่ว่างในเขตเมือง ด้วยการปลูกต้นไม้ ไม้ดอก และไม้ประดับ รวมทั้งให้มีการจัดแต่งต้นไม้ พุ่มไม้ และสวนหย่อม เพื่อให้เกิดความร่มรื่น สวยงาม เป็นสถานที่นันทนาการ ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจเพิ่มขึ้น ตลอดจนเป็นการช่วยดูดซับก๊าซพิษโดยเฉพาะก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน

๒.๖ มุ่งมั่นขับเคลื่อนเมืองนครราชสีมาสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ด้วยการแสวงหาความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในอันที่จะดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด การเพิ่มพื้นทีสีเขียว การจัดการขยะอย่างยั่งยืน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งคาร์บอนต่ำ

๒.๗ ส่งเสริมให้ประชาชนมีบทบาทและส่วนร่วมในการปลูกและดูแลต้นไม้ รวมทั้งการดูแลรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะร่วมกัน

๒.๘ สานต่อและขยายผลโครงการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์สองฝั่งริมลำตะคอง ช่วงวัดสุสานไปยังอ่างน้ำอัษฎางค์ ให้แล้วเสร็จอย่างเป็นรูปธรรม ให้สวยงาม สะอาด ปลอดภัย เป็นแหล่งนันทนาการ และการออกกำลังกาย รวมทั้งรื้อฟื้นวิถีชุมชนคนริมน้ำ ด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยพัฒนาเป็นตลาดน้ำ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่อีกแห่งหนึ่งของเมือง

 

๓. เร่งรัดผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ครอบคลุม สะดวก ปลอดภัย และเชื่อมโยงทุกพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาและปริมณฑล รองรับการเติบโตของเมืองและระบบรถไฟความเร็วสูง

๓.๑ เร่งรัดผลักดันให้เกิดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะสายหลักสายแรกให้เกิดขึ้น ตามเส้นทางที่ได้รับความเห็นชอบจากประชาคมเมืองและคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้นำเสนอต่อกระทรวงคมนาคมไปแล้ว และพิจารณาพัฒนาสายอื่นๆตามมาอีกในอนาคต ตามความจำเป็นและเหมาะสม

๓.๒ พัฒนาเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนแบบบูรณาการ โดยเชื่อมโยงเส้นทางหลักกับระบบขนส่งมวลชนเส้นทางรอง (Feeder System) อาทิ ใช้รถโดยสารไฟฟ้าขนาดเล็ก (EV Minibus) เชื่อมจากสถานีสายหลักไปยังย่านชุมชน ย่านพาณิชย์ สถานศึกษา สถานที่ราชการ สถานีรถไฟความเร็วสูง และสถานีขนส่ง ฯลฯ เป็นต้น

๓.๓ พัฒนาสถานีและจุดเชื่อมต่อที่จุดตัดที่สำคัญ อาทิ สถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีขนส่งแห่งใหม่ บริเวณย่านใจกลางเมือง รวมทั้งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร อาทิ ลานจอดแล้วจร (Park and Ride) บริเวณต้นทางและปลายทางของระบบขนส่งมวลชนเส้นทางหลัก

 

๔. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการตลาด

๔.๑ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ (workshop)  ด้านการผลิตผลิตภัณฑ์ การบริหารธุรกิจ การเงิน และการบัญชี แก่กลุ่มวิสาหกิจเป้าหมาย และส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

๔.๒ สนับสนุนส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตและเครื่องจักรที่เหมาะสมกับธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน

๔.๓ ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและหรือสถาบันวิจัย เพื่อพัฒนานวัตกรรมสินค้าและการบริการ

๔.๔ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ งานแสดงสินค้า ตลาดนัดชุมชน และกิจกรรมสินค้า ผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เป็นต้น

๔.๕ ส่งเสริมการขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมทั้งการจัดอบรมด้านการตลาดยุคใหม่ และการสร้างเรื่องราวของสินค้า (Brand Storytelling)

๔.๖ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการในรูปแบบเครือข่ายธุรกิจในระดับท้องถิ่น

 

๕. เร่งรัดดำเนินการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตตัวเมืองและนอกเมือง ให้เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวา เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประวัติประวัติศาสตร์ ศรัทธา และศิลปะ รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและธรณีวิทยาของสามมรดกโลก

๕.๑ จัดกิจกรรมที่หลากหลายตลอดทั้งปี อาทิ งานนับถอยหลัง (Countdown) ปีใหม่ งานตรุษจีน งานมหาสงกรานต์ งานแห่เทียนเข้าพรรษา งานลอยกระทง การประกวดดนตรีและศิลปะ การแสดงแสงสีเสียง การแสดงพื้นบ้าน การจัดวิ่งมาราธอน  การแข่งขันกีฬาทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ และการจัดให้มีถนนคนเดินในเมือง ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น เพื่อสร้างจุดขายให้แก่เมืองและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวในตัวเมืองมากขึ้น  

๕.๒ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงความเชื่อและวัฒนธรรม (Spiritual and Cultural Tourism) ด้วยการพัฒนาและบูรณาการเส้นทางการท่องเที่ยวสายมู  อาทิ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี วัดศาลาลอย วัดพระนารายณ์มหาราช วัดบึง และวัดแจ้งใน เป็นเส้นทางสายมูที่เชื่อมโยงเรื่องราวความศรัทธา โดยปรับปรุงภูมิทัศน์ ป้ายบอกทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้สะอาด สวยงาม พร้อมต่อการรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งฝึกอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่นสายมู ให้มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ความเชื่อและศรัทธา ตลอดจนส่งเสริมสินค้ามงคลสายมูต่างๆของท้องถิ่น

๕.๓ สนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวสามมรดกโลกของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ ป่าดงดิบดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เขตสงวนชีวมณฑลสะแกราช และโคราชโกลบอลจีโอพาร์ค ด้วยการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเสริมสร้างความรับรู้ การประชาสัมพันธ์ และการสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้เข้ามาเที่ยวชมให้มากยิ่งขึ้น เพื่อการสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดนครราชสีมาเพิ่มขึ้น

๕.๔ ส่งเสริมฟื้นฟูและอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของเมืองนครราชสีมา อาทิ เพลงโคราช สามล้อโคราช และศิลปะพื้นบ้านรูปแบบต่างๆ ให้คงอยู่และสามารถถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ได้อย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการประยุกต์ใช้ในกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของเมือง

 

๖. เร่งรัดพัฒนาเพื่อการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของเด็กและเยาวชนที่สังกัดโรงเรียนเทศบาลให้สูงขึ้น ให้มีความทันสมัยและเท่าเทียมกับมาตรฐานระดับชาติ รวมทั้งเสริมสร้างโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต

๖.๑ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อยกระดับศักยภาพครู ด้วยการอบรมความรู้ด้านเทคโนโลยี การสอนเชิงรุก และการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

๖.๒ ส่งเสริมการเรียนรู้โดยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จัดหาวัสดุอุปกรณ์ดิจิทัล ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโรงเรียน และพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ทางออนไลน์ได้โดยสะดวก

๖.๓ ส่งเสริมโอกาสและความเท่าเทียมทางการศึกษา เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเสมอภาค

๖.๔ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ประชาชนทุกช่วงวัย ด้วยการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งในและนอกระบบ เพื่อยกระดับทักษะและคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยการพัฒนาความพร้อมของอุทยานการเรียนรู้ (TK Park ) ให้มากยิ่งขึ้น

 

๗. มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อยกระดับและขยายระบบบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวกให้มากยิ่งขึ้น โดยจัดตั้งหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิเคลื่อนที่ขึ้น นอกเหนือจากการให้บริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขตามปกติ

๗.๑ จัดตั้งทีมดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Care Team) ในการให้บริการเชิงรุกแก่ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงวัย ผู้ป่วยพิการ และผู้ป่วยติดเตียง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ลดภาวะแทรกซ้อน ลดภาระของครอบครัวและค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายในการดูแลคนในชุมชนอย่างยั่งยืน

๗.๒ จัดตั้งทีมทันตกรรมพร้อมรถทันตกรรมเคลื่อนที่ประจำศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อออกให้บริการด้านทันตกรรมและให้ความรู้ด้านสุขภาพช่องปากเชิงรุกแก่ประชาชนในชุมชน เพื่อช่วยให้ประชาชนในชุมชนเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

๗.๓ จัดให้มีบริการฟอกไต ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขของเทศบาลนครนครราชสีมา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการภายนอก ที่มีความเชี่ยวชาญและมีคุณสมบัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เข้ามาดำเนินการภายใต้ความร่วมมือกับเทศบาลนครนครราชสีมา โดยยึดหลักมาตรฐานทางการแพทย์ ความปลอดภัยของผู้ป่วย และความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคไตในเขตเมืองให้ดียิ่งขึ้น

๗.๔ จัดตั้งและพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS- Emergency Medical Services) ประจำศูนย์บริการสาธารณสุขที่มีความพร้อม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีแล้ว รถพยาบาล และอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อให้สามารถเข้าถึงและช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเชื่อมโยงเครือข่ายกับโรงพยาบาล หน่วยกู้ชีพ และอาสาสมัครในพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้และฝึกอบรมประชาชนด้านการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อร่วมสร้างเมืองปลอดปลอดภัยอย่างยั่งยืน

 

๘. เสริมสร้างระบบป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่มีประสิทธิภาพที่พร้อมรับมือกับภัยพิบัติทุกรูปแบบ

๘.๑ จัดให้มีแผนป้องกันและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติอย่างเป็นระบบในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงของพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ การจัดทำแผนและเตรียมความพร้อม การฝึกซ้อมแผน การประชาสัมพันธ์ และการให้ความรู้ต่อสาธารณชน

๘.๒ จัดหางบประมาณและจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นและพร้อมต่อการนำไปใช้งานได้ทันทีในภาวะฉุกเฉิน ตลอดจนการทบทวนหรือปรับปรุงแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

๘.๓ จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้น และแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็น เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

 

๙.เร่งรัดพัฒนาเมืองเพื่อก้าวสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่ทันสมัย โดยส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารจัดการเมืองและการให้บริการสาธารณะ  

๙.๑ พัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อการตัดสินใจและการวางแผนการบริหารจัดการเมือง

๙.๒ พัฒนาแพลตฟอร์มกลางในการให้บริการประชาชนแบบครบวงจร (One Stop Service) ต่อยอดจากแอพพลิเคชั่นและ LINE OA ที่มีอยู่แล้ว

๙.๓ พัฒนาศูนย์ข้อมูลเมืองอัจฉริยะ (Smart City Data Center) เพื่อการจัดเก็บและประมวล  ผลข้อมูล

๙.๔ พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับการขออนุญาตหรือขออนุมัติจากเทศบาลนครนครราชสีมา  และการชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์

๙.๕ ติดตั้งระบบไฟถนนอัจฉริยะที่สามารถปรับความสว่างตามสภาพแวดล้อมและการใช้งานได้

๙.๖ พัฒนาแอพพลิเคชั่นนำเที่ยวที่ใช้เทคโนโลยีการแสดงภาพเสมือนซ้อนทับภาพจริง (Augmented Reality-AR) และการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Reality–VR) เพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยว และดึงดูดนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่นิยมการใช้เทคโนโลยี เพื่อสร้างความน่าสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวให้มากขึ้น

๙.๗ ติดตั้ง QR Code ตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเพื่อให้ข้อมูลและสร้างความสนใจแก่นักท่องเที่ยว

๙.๘ ขยายการติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงอันตราย เพื่อช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน และเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการระบบจราจรอย่างมีประสิทธิภาพ

๙.๙ จัดตั้งศูนย์บัญชาการความปลอดภัยเมืองที่บูรณาการข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและเซ็นเซอร์ต่างๆ  พร้อมส่งเสริมการจัดตั้งเครือข่ายแจ้งเหตุฉุกเฉินและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการทำงานร่วมกันระหว่างชุมชนกับตำรวจในเชิงรุก

๙.๑๐ จัดให้มีการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger Station) ในพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวผู้ใช้รถยนต์พลังงานสะอาด

 

๑๐.มุ่งมั่นบริหารจัดการเทศบาลนครนครราชสีมาให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โปร่งใส และตรวจสอบได้

๑๐.๑ เสริมสร้างระบบบริหารจัดการที่เน้นผลสัมฤทธิ์ ด้วยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยดำเนินการด้วยความโปร่งใส และเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง และผลการดำเนินงานได้อย่างสะดวก

๑๐.๒  ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ทันสมัยและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น  โดยการบริหารงานด้วยระบบดิจิทัล (E-Government)

๑๐.๓  ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเสนอความคิดเห็นและตรวจสอบการทำงานของเทศบาล ผ่านเวทีประชาคมหรือกลไกออนไลน์ เพื่อให้การพัฒนาเมืองสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง บนพื้นฐานของความโปร่งใสและธรรมาภิบาล

 

ท่านประธานสภาเทศบาลและสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ที่เคารพ

ในท้ายที่สุดนี้ ข้าพเจ้าขอเรียนยืนยันว่า นโยบายเหล่านี้มิใช่เพียงแค่คำสัญญา แต่มันคือทิศทางของแผนปฏิบัติการที่เราจะลงมือทำในทันที ซึ่งข้าพเจ้าขอน้อมรับภารกิจอันทรงเกียรตินี้ ด้วยความสำนึกในหน้าที่ และจะมุ่งมั่นทุ่มเทสรรพกำลังทั้งหมดที่มีอยู่  ในการนำนโยบายที่ได้แถลงไว้แล้วไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม แต่อย่างไรก็ตาม การจะก้าวไปสู่เส้นชัยแห่งความสำเร็จได้ ย่อมต้องอาศัยพลังแห่งความสามัคคีและความร่วมมือของทุกท่าน รวมทั้งภาครัฐ ตลอดจนภาคเอกชนและประชาชนอย่างเข้มแข็งและจริงจังอีกด้วย บนพื้นฐานของความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้เทศบาลนครนครราชสีมาเรา มีความก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนทุกคนต่อไป

ขอบคุณครับ


40 508