23rdJune

23rdJune

23rdJune

 

June 18,2025

พี่สาวครูมัท ร่ำไห้ขอให้น้องเป็นศพสุดท้าย จากภาระงานหนักเกินหน้าที่ ศึกษาธิการฯ รุดแสดงความเสียใจครอบครัว

จากกรณีเหตุสลด นางสาวอนุสรา หรือครูมัท อายุ 39 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้ใช้เชือกไนล่อนสีแดง ผูกคอเสียชีวิตในห้องนอนที่บ้าน ในหมู่บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ ต.หนองบัวโคก  อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 มิ.ย.68 สาเหตุเพราะเครียดจากระบบการทำงาน ต้องรับผิดชอบหลายหน้าที่ โดยครูได้เขียนจดหมายลาตาย  ระบายความรู้สึกไว้ด้วย “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน จากมัท” โดยในซองจดหมายมี 5 หน้ากระดาษ โดยหน้าที่ 1 – 4 ผู้ตายได้เขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู , ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่

ส่วนหน้าที่ 5 ครูมัท เขียนข้อความบรรยายเกี่ยวกับการทำงานระบุว่า ข้าพเจ้าขอลาทุกคนบนโลกใบนี้ ไปด้วยความ ไม่สบายกาย และไม่สบายใจ ด้วยมีปัญหาในการเรื่อง การทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งข้าพเจ้าให้ท่านคั่งค้าง ทำให้พอกพูนจนแก้ไขได้ยาก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะข้าพเจ้าเพียงคนเดียว แต่เป็นเพราะเกิดจาก กระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน การทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อน เคลียร์เอกสารทีหลัง และก็นิ่งเฉยไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเอง จนหัวจะระเบิดไมเกรนแทบทุกวัน ข้าพเจ้าเหนื่อยกาย กับการทำงาน นี้มากๆ สุขภาพก็ไม่ดีสะสมมาเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจจากโลกนี้ไป ก็เพราะเพื่อนร่วมงาน ที่จัดการ สั่งการมาโดยตลอด แต่พอถึงเวลามีความผิด กับบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง

ส่วน ผอ.ที่ย้ายมาแต่ละคนก็ไม่เคร่งครัดเรื่องการเงินเลย ไม่มีความรู้ด้านการเงิน ใช้เงินไม่ถูกต้อง แต่พอมีความผิดอ้างว่าเราเป็นคนทำ ข้าพเจ้าขอโทษต่อเพื่อนร่วมงาน ท่านอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้าพเจ้าไม่สามารถทำงานนี้ต่อไปอีกได้แล้ว ถ้าอยู่ต่อไปคงพิการ หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับทุกคนขออย่าให้ร้ายกัน ในวันที่ข้าพเจ้าไม่สามารถโต้แย้งใดๆได้ ส่วนที่ผิดขอน้อมรับ แต่ส่วนที่ไม่ใช่ก็ขออย่าใส่ร้ายกันเลย ฝากถึงกระทรวง ให้ช่วยเห็นใจ ครูการเงิน และพัสดุด้วยนะคะ อย่าให้ต้องทำงานหนักและเสี่ยงชีวิตแบบนี้เลย ลาก่อน

ล่าสุดวันที่ 17 มิ.ย.68 ดร.ภัทรวรรธน์ นิลแก้วบวรวิชญ์ ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปเคารพศพ พร้อมแสดงความเสียใจ และมอบเงินช่วยเหลือค่าจัดงานศพเบื้องต้นให้กับครอบครัวครูมัท ขณะที่ครอบครัวยังอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจและทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ทางด้าน น.ส.อทิตยา ชวนรัมย์ อายุ 42 ปี พี่สาวครูมัท เล่าทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมาน้องสาวไม่เคยบ่นหรือระบายอะไรให้คนในครอบครัวฟังเกี่ยวกับความเครียดเรื่องการทำงานเลย แต่เคยเห็นน้องนั่งทำงานดึกดื่นหลายครั้ง ก็ยังชื่นชมเลยว่าน้องขยันจัง   กระทั่งน้องตัดสินใจคิดสั้นและเขียนจดหมายลาตายทิ้งเอาไว้ระบายเกี่ยวกับการทำงาน ที่ได้รับมอบหมายหลายอย่างนอกจากหน้าที่การสอนปกติ พอได้อ่านจดหมายที่น้องระบายเกี่ยวกับการทำงานก็สงสารน้องมาก ก็คิดว่าน้องคงเครียดจริงๆ ถึงได้คิดสั้น ส่วนตัวก็คิดว่ามีครูหลายคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าแสดงออก ก็อยากให้น้องเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเลือกจบชีวิตกับเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ถือว่าที่น้องเลือกจบชีวิตเพื่อเป็นตัวแทนครูหลายคนที่ต้องแบกรับภาระหน้าที่มากกว่าแค่ครูผู้สอนแบบนี้อีก

"อยากให้ทางกระทรวงหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง พิจารณาทบทวนภาระหน้าที่ครูให้เหมาะสมไม่รับผิดชอบงานที่หนักจนเกินรับไหว ส่วนการเสียชีวิตของน้องถือว่าเลือกจบชีวิตเพราะหน้าที่ก็อยากให้ทางกระทรวงช่วยเหลือด้วย เพราะน้องสาวยังมีลูกสาววัย 10 ขวบที่ต้องสูญเสียแม่ที่เป็นเสาหลักไป" น.ส.อทิตยา กล่าว

ส่วนศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ในฐานะตัวแทนกระทรวงฯ เบื้องต้นก็ได้มาแสดงความเสียใจกับครอบครัวพร้อมมอบเงินช่วยเหลืองานศพในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุที่ครูตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแล้วเขียนจดหมายทิ้งไว้ ระบายเรื่องการทำงานนั้น   ก็ต้องมีการตรวจสอบตามขั้นตอน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งหากผลสอบพบว่ามีการกดดันให้ทำงานหนักเกินหน้าที่จริง หรือปัญหาในโรงเรียนหรือไม่ ทางเขตพื้นที่การศึกษาที่รับผิดชอบ ก็ต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่อไป


61 557